Ep4(1) : อสูรจอมป่วน By...kanokrot

2271 Words
ณ โรงแรมหรูใจกลางเมืองระดับห้าดาว ซึ่งถูกขนานนามให้เป็นโรงแรมระดับพรีเมี่ยมชั้นยอดสำหรับนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงทั่วฟ้าเมืองไทย เมื่อต่างให้การยอมรับและยกย่องเรื่องความหรูหราบวกกับความทันสมัยที่ไม่ต่างกับการได้ใช้บริการในโรงแรมชั้นเลิศในต่างประเทศเลยสักนิด... ภายในห้องหรูชั้นวีไอพี ซึ่งถูกเลือกให้เป็นฉากอลังการของการถ่ายแบบชุดเพชรอันเลอค่าที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าร้อยล้านบาท ถูกเนรมิตสร้างสรรค์ขึ้นอย่างสวยงามละลานตา อุปกรณ์ตกแต่งทุกชิ้นล้วนจัดทำขึ้นมาใหม่เพื่องานนี้โดยเฉพาะ และแน่นอนต้องนำเข้าจากต่างประเทศแทบทุกชิ้นด้วยเช่นกัน การถ่ายแบบในวันนี้ถือเป็นการโปรโมทเครื่องเพชรของคุณหญิงช่อฟ้า ผู้ถือบังเ**ยนใหญ่แห่งบริษัทส่งออกและนำเข้าเครื่องอัญมณีอันดับต้นๆของเมืองไทย และดูเหมือนงานถ่ายแบบเพื่อโปรโมทอัญมณีในวันนี้ ทุกอย่างกำลังไปได้สวยอย่างไม่มีข้อตำหนิใดให้เห็นสักเรื่องเดียว ถ้าไม่ติดปัญหาเกี่ยวกับตัวนางแบบหลัก ผู้ซึ่งต้องสวมใส่ชุดไข่มุกอันดามัน อัญมณีแห่งท้องทะเลตัวท๊อปเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นของโลก ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลมากกว่าเครื่องประดับทุกๆชิ้นรวมกันเสียอีก เมื่อนางแบบเส้นใหญ่ที่ทางโรงแรมจัดหามาให้นั้น เจ้าหล่อนยังไม่ยอมปรากฏกายเข้ามาแต่งหน้าทำผมเสียที ทั้งๆที่งานนั้นใกล้จะเริ่มถ่ายอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง... “แม่วิกกี้อะไรนั้นยังไม่มาอีกหรือยังไง แล้วนี่มีใครโทรไปตามเจ้าตัวเขาแล้วหรือยังหะ...” คุณผกามาศเลขาของคุณหญิงช่อฟ้าร้องถามกับพนักงานด้านในด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเป็นรอบที่ห้าเห็นจะได้ ป่านนี้ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของแม่นางแบบที่ทางโรงแรมยมดิสรณ์ได้โทรมาขอล็อกตัวเอาไว้เมื่อหลายวันก่อนเลย ความจริงอัญมณีชิ้นสำคัญชุดนี้ เธอหมายตาเอาไว้ให้มารตรีสวมใส่ในวันถ่ายแบบ แต่เพราะให้ความเกรงใจเจ้าสัวราพเป็นทุนเดิม เธอจึงไม่ได้ขัดไปตอนท่านเจ้าสัวโทรมาบอกกล่าว ถึงเรื่องนางแบบคนพิเศษที่ทางโรงแรมขอจัดการแทน...  “ว่าไงคุณไก่...” คนที่ถูกเรียกชื่อถึงกับสะดุ้งโหยง รีบก้มใบหน้าลงงุด ไม่อาจสู้สายตาผู้ถามได้ เธอเองก็จนใจ ไม่รู้จะตอบคำถามออกไปว่ายังไงดี เมื่อเธอกับพวกทีมงานคนอื่นๆ ต่างก็ช่วยกันโทรตามตัวนางแบบผู้นั้นกันจนมือเป็นระวิง แต่ปลายสายดันปิดเครื่องทิ้ง ไม่ยอมตอบรับสัญญาณเสียที “เอ่อ...ยังเลยค่ะคุณผกา นี่ไก่ก็โทรตามอยู่หลายรอบแล้วนะคะแต่คุณวิกกี้ไม่ยอมรับสาย แล้วก็...เอ่อ...ปิดเครื่องไปเลย” ผู้จัดการที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานนี้ ตอบคำถามด้วยความหนักใจเพราะนี้ก็จวนจะได้เวลาอยู่อีกไม่กี่นาที แต่ตัวนางแบบที่ทางโรงแรมยมดิสรณ์ล็อกตัวมาให้ยังไม่โผล่หน้าเข้ามา จะบรีฟงานอะไรก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน  “อะไรกัน...นี่มันปาเข้าไปกี่โมงกี่ยามกันแล้วหึ... ทำไมถึงยังไม่ยอมโผล่หัวเข้ามาอีก แล้วเขาได้ติดต่อกับใครเข้ามาบ้างหรือเปล่าสรุปว่าจะถ่ายหรือไม่ถ่าย ฉันจะได้หาตัวนางแบบคนใหม่มาถ่ายแทน เด็กอะไรนิสัยแย่ หาความรับผิดชอบก็ไม่มี คิดว่าตัวเองเป็นคนสำคัญมาจากไหน ถึงได้ไม่รู้จักรักษาเวลา นี่ฉันชักจะหมดความอดทนรอแม่นางแบบเส้นใหญ่คนนี้เต็มทนแล้วนะ เป็นแค่นางแบบฝึกหัดแท้ๆแต่ทำตัวยิ่งกว่านางแบบที่เขามีชื่อเสียโด่งดังเขาทำกันเสียอีก...”  คุณผกามาศแผดเสียงถามแถมด้วยบ่นออกมายาวเหยียดอารมณ์เริ่มโมโหมากขึ้นไปทุกที สายตาหลังแว่นสอดส่ายหาผู้รับผิดชอบ เธอไม่เข้าใจจริงๆนางแบบที่มีชื่อเสียงดีๆก็มีตั้งหลายคนทำไมทางโรงแรมถึงไม่คิดเลือกให้มาถ่ายแบบกันนะ... “แล้วใครเป็นคนออกคำสั่งให้แม่วิกกี้เป็นคนใส่ไข่มุกอันดามันชุดท๊อปของเรากัน...” “เอ่อ...คุณราชค่ะเธอเป็นคนชี้ตัวมาต้องเป็นคุณวิกกี้เท่านั้นที่ต้องสวมใส่อัญมณีชุดนี้ค่ะ...” ผู้จัดการตอบเสียงสั่นด้วยหวาดกลัวอารมณ์ของลูกค้ารายใหญ่ “หึ!ว่าแล้วเชียว” เลขาคุณหญิงสะบัดหน้าฮึดฮัด “งั้นไปบอกให้หนูรตรีเปลี่ยนเครื่องเพชรชุดรอง แล้วให้มาสวมอัญมณีชุดอันดามันเส้นนี้แทนก็แล้วกัน  ฉันจะไม่ทนกับพฤติกรรมแย่ๆของแม่นางแบบที่คิดว่าตัวเองมีดีจนไม่เห็นหัวใคร นี่คือการทำงานนะย่ะ ถ้ากะอีแค่รักษาเวลายังทำไม่ได้ ก็บอกให้เขาไปทำงานกับคนอื่นแทนแล้วกัน เพราะฉันไม่ชอบคนไม่รับผิดชอบ” ผกามาศพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินหน้าบูดบึ้งออกไปด้านนอก ยังมีอีกหลายจุดที่เธอต้องคอยตรวจสอบความเรียบร้อย ก่อนคุณหญิงช่อฟ้าจะเข้ามา “ได้ค่ะคุณผกา เดี๋ยวไก่จะรีบให้เจ้าหน้าที่สับเปลี่ยนเครื่องประดับให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ...” ผู้จัดการของงานรีบรับคำอย่างกระตือรือร้น เพราะในใจเธอนั้นแอบมีความคิดสนับสนุนให้มารตรีเป็นคนได้สวมไข่มุกเส้นนี้ถ่ายแบบใจจะขาด เธอไม่เห็นด้วยตั้งแต่ทีแรกแล้ว ที่จะให้โสภิญญานางแบบมือใหม่แกะกล่องมาสวมใส่ไข่มุกอันดามันเครื่องประดับตัวท๊อปของงาน แล้วให้มารตรีหญิงสาวสวยหมดจดแถมยังนิสัยดีน่ารัก ไปใส่เครื่องประดับโชว์ที่เป็นตัวรองจากอัญมณีชุดเด่นนั้นแทน อาจด้วยเคยทำงานกับมารตรีมาก่อนอยู่หลายครั้งหลายงาน เธอจึงได้รู้จักนิสัยใจคอของหญิงสาวคนนี้เป็นอย่างดี มารตรีไม่ได้มีดีแค่เฉพาะรูปร่างหน้าตาเท่านั้น แต่ทว่าภายในจิตใจของน้องสาวผู้นี้ ก็งดงามไม่แพ้กันอีกด้วย... และเมื่อคุณผกามาศเดินตรวจความเรียบร้อยตามจุดต่างๆเสร็จ เธอจึงเลี่ยงออกไปด้านนอก ยกหูโทรศัพท์ต่อสายตรงถึงคุณหญิงช่อฟ้าเพื่อรายงานปัญหาด้วยใบหน้าอันบึ้งตึงทันที... เพราะไข่มุกอันดามันตัวเด่นสำหรับงานนี้ เป็นอัญมณีชุดพิเศษที่มีเพียงชุดเดียวในโลกเท่านั้น คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องราคา เพราะมันมีค่ามากกว่านั้นมากมายมหาศาลนัก เม็ดไข่มุกทุกเม็ด ต่างถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษ จากทะเลน้ำลึก ที่จัดว่าหาได้อยากจากแถบทะเลฝั่งซ้าย ซึ่งตัวของคุณหญิงช้อฟ้าเอง ท่านลงไปดูแลการผลิตทุกขั้นตอนด้วยตัวของท่านเอง ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการคัดเลือกไข่มุกหรือแม้กระทั่งการออกแบบลวดลายก็ตาม... โดยที่อัญมณีชุดอันดามันชุดนี้ ได้ถูกสั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้ในการโปรโมท การร่วมทุนระหว่างคุณหญิงช่อฟ้ากับทางเจ้าสัวราพโดยเฉพาะ มันเป็นอีกหนึ่งในหลายๆธุรกิจของเจ้าสัวราพ ซึ่งท่านกำลังให้ความสนใจ และอยากลงมือลองทำดู สถานที่การถ่ายแบบเลยต้องใช้สถานที่ถ่ายทำในโรงแรมของยมดิสรณ์ แทนโลเคชั่นอื่น  แต่ตอนนี้ท่านเจ้าสัวราพได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศท่านจึงได้สั่งการ ยกหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับทีมงานของคุณหญิงช่อฟ้า ให้ขคราชเป็นผู้รับช่วงต่อ  ก่อนจะมีงานเดินแฟชั่นโชว์เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง หลังจากเจ้าสัวราพเดินทางกลับมาแล้วนั่นเอง... “ตายๆ ตายแล้วแม่คุณแม่ทูนหัวของทิวลี่...ทำไมถึงได้สวยหยาดฟ้ามาดินถึงเพียงนี้ได้ค่ะ สวยเหมือนนางในวรรณคดี ทิวลี่เห็นแล้วมันอดมันเขี้ยวไม่ได้จิงจริ๊ง...” เสียงวี๊ดว้ายดังขึ้นภายในห้องแต่งตัว เมื่อช่างแต่งหน้ามือหนึ่งของวงการ หมุนซ้ายหมุนขวาร่างงดงามหมดจดตรงหน้า เพื่อทำการสำรวจผลงานของตัวเองเป็นรอบสุดท้าย และไม่เพียงแต่พูดเปล่า แม่ช่างแต่งหน้าประจำกองถ่ายร่างยักษ์ก็ยื่นมืออันใหญ่โตแตะลงบนใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวคนงาม พลิกไปพลิกมาชื่นชมผลงานด้วยความปลื้มใจ “เธอสวยจริงๆนะ รตรี” ทิวลี่เอ่ยชมจากใจจริง “ขอบคุณค่ะพี่ทิ้วลี่...”มารตรียิ้มรับพร้อมพนมมือขึ้นไหว้ขอบคุณช่างแต่งหน้า พรางเปิดยิ้มกว้างเมื่อหันร่างของตัวเองส่องมองไปทางกระจกบ้าง ใบหน้าหวานยิ้มให้กระจกเขินอาย... “ก็เพราะฝีมือของพี่ทิวลี่นั่นแหละค่ะ ที่เณรมิตรผู้หญิงธรรมดาอย่างรตรี ให้ดูสวยมากยิ่งขึ้นได้ขนาดนี้ ลำพังแค่ตัวรตรีเอง ก็ไม่ได้มีความสวยมากมายอะไรนักหรอกค่ะ ต้องบอกว่าฝีมือของพี่ทิวลี่ล้วนๆน่าจะถูกต้องกว่า...” หญิงสาวเอ่ยคำพูดถ่อมตัว ถึงแม้จะรู้สึกกระดากอายอยู่บ้าง ที่มีแต่คนเอ่ยปากชมว่าเธอสวย แต่ความสวยของคนเรา บางทีมันก็เป็นเหมือนดาบสองคมได้เหมือนกันนะ... “ไม่จริงสักนิดเลยค่ะคุณน้องขา คุณน้องน่ะเป็นคนสวยมากอยู่แล้วต่างหากละ อย่ามาทำเป็นถ่อมตัวไปหน่อยเลย แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าสวยธรรมดาด้วยนะ แต่แถวบ้านพี่ทิวลี่น่ะเข้าเรียกว่าถ้าสวยมาก กอไก่ล้านตัวเลยจ้ะ แล้วก็สวยแพงด้วยนะคะบอกเลย...” แม่ช่างฝีมือดีหัวเราะชอบใจ ก่อนจะหันไปเก็บอุปกรณ์บนโต๊ะด้วยความปลื้มปริ่มกับผลงานของตัวเอง โชคดีจริงๆที่เธอได้แต่งหน้าให้มารตรี ไม่ใช่นางแบบอีกคนที่ได้ยินเสียงแว่วๆว่ายังมาไม่ถึงสถานที่ถ่ายแบบเลยตอนนี้ “ขุนพระ!ตายแล้วอีลี่ นั่นคนหรือนางฟ้านางสวรรค์กันแน่ย่ะ...ผ่องมากเลยค่ะคุณน้องขา ยิ่งมองก็ยิ่งสวยเพริศพริ้งจนเข้าไปเตะตากรรมการสุดๆเลยละค่า...” กะเทยร่างอ้อนแอ้นที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่ถึงกับเอ่ยปากชมเปาะด้วยอาการตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น “ผลงานของฉันย่ะอีลูกพีช...” ทิวลี่เงยหน้าขึ้นมาอวด ยักไหล่เก๋ให้เพื่อนร่วมงาน “แล้วแม่นางแบบกิตติมศักดิ์ของหล่อนมาถึงแล้วหรือยังละ ได้ยินว่างานแรกก็เล่นมาสายเชียวเหรอ...แหมะ...นี่ถ้าเส้นไม่ใหญ่จริงคงทำไม่ได้หรอกนะจ๊ะแบบนี้ แต่ฉันได้ข่าวว่าเป็นเด็กของคุณราชเธอด้วยไม่ใช่หรือไงหึ...” เสียงบทสนทนาของช่างแต่งหน้าทั้งสองคน ทำให้คนฟังถึงกับใบหน้าหม่นวูบ ภาวนาขออย่าให้เขาเข้ามาวุ่นวายกับงานในวันนี้เลย เมื่อบทเรียนครั้งล่าสุดยังคงฝังเจ็บอยู่ในอกของเธอ มันยังไม่ได้ลบเลือนหายไปไหน ความเจ็บที่มันสั่งสมทีละนิด นานวันเข้ามันกลับยิ่งทำให้เธอเกลียดชังเขาเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ได้แต่แอบหวังเอาไว้ อีกไม่นานหรอก ถ้าหากเธอเรียนจบและทำงานเป็นชิ้นเป็นอันจนมีเงินเก็บมากพอ เธอจะไม่ขออยู่ในวงโคจรที่ต้องใช้อากาศร่วมหายใจกับเขาอีก เธอจะไปให้ไกลแสนไกล ไกลห่างจากอสูรใจร้ายคนนี้จนไม่ต้องมาพบเจอหน้ากันอีกเลยในชาตินี้... “ว่าแต่นี่หล่อนเข้ามาทำไมยะ ไม่รอแต่งหน้าให้คุณวิกกี้อะไรนั้นหรอกเหรอ...” “ก็พี่ไก่ใช้ให้ฉันเอาไอ้นี้มาให้หนูรตรีใส่นะสิจ๊ะ...” ลูกพีชชูของในมือขึ้นมาโชว์ หันไปพูดกับนางแบบคนงาม “ว้ายตายแล้ว นี่มันไข่มุกอันดามันนี่นา แล้วทำไมเอามาให้รตรีใส่ล่ะ ไหนบอกยายคุณวิกกี้อะไรนั้นต้องเป็นคนใส่ไม่ใช่หรอ ไงเอามาให้หนูรตรีของฉันสวมแทนเสียแล้วล่ะ...” ช่างแต่งหน้าร่างยักษ์ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดพรางย่นหัวคิ้วเรียวสวยสงสัย มารตรีเองก็เกิดอาการสงสัยไม่ต่างกัน หญิงสาวส่งสายตาเป็นคำถามไปให้ช่างแต่งหน้าที่เข้ามาใหม่ “นั่นน่ะสิคะพี่ลูกพีช รตรีไม่ใส่หรอกค่ะ” “คำสั่งจากเบื้องบนค่ะ สั่งปลดแบบสายฟ้าฟาดเชียวนะ...”ลูกพีชขยับร่างเล็กของตนเอง ก้มลงไปกระซิบบอกด้วยใบหน้าสะใจเหลือเกิน “ฉันละอดสมน้ำหน้าแม่นั่นไม่ได้ บุญมีแต่วาสนาไม่ถึงชัดๆ คิดว่าเป็นเด็กของคุณราช อยากจะมากี่โมงก็ได้หรือไง นี่ขนาดเจ้าหล่อนเพิ่งได้เคยถ่ายแบบตัวแรกแท้ๆ แต่เล่นทรงซะเหมือนเป็นคนดังก็ไม่ปาน...” ทิวลี่ออกความคิดเห็น “ลูกสาวคนดังก็แบบนี้ละแก ฉันชินชาเสียแล้ว เจอฤทธิ์เดชของแม่เจ้าประคุณทั้งหลายมาจนเบื่อหน่าย” ทิวลี่ได้แต่ส่ายหน้า มารตรีไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร รับฟังอย่างสงบ... และบทสนทนาของทั้งสองที่กำลังออกรสออกชาติอย่างเมามันมีอันต้องหยุดค้างเติ่ง เมื่อเสียงแหลมของนางแบบในหัวข้อสนทนาดังแทรกเข้ามาถึงในห้องแต่งตัวด้านในเข้าพอดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD