“โธมัส...ฉันไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ นะคะ”
“คุณจะไปรู้อะไร!”
โธมัสเหวี่ยงมือโดยไม่สนใจว่าใบหน้าหวานจะสะบัดไปตามแรงผลัก ร่างเล็กเกือบหงายหลังแต่เขากลับกระชากไหล่เธอเข้าหาตัวอีกครั้ง เขาเปลี่ยนไปแล้ว หาใช่โธมัส บอดี้การ์ดผู้ปกป้องชีวิตของเธออีกต่อไป
“คุณไม่มีวันรู้ถึงความทุกข์ทรมานของคนอื่น ในเมื่อวัน ๆ คุณก็แค่เด็กสาวที่ใช้ชีวิตอยู่กับความฝันบนกองสมบัติที่ไอ้พ่อเลว ๆ มันปล้นเอาไปจากคนอื่น”
“ฉันไม่ได้ต้องการมันสักนิด”
“คุณอยากจะแก้ตัวยังไงก็ได้”
“ฉันไม่ได้แก้ตัว คุณให้โอกาสฉันพูดอะไรบ้างจะได้มั้ย”
“หุบปากนั่นล่ะสิ่งที่คุณต้องทำ!”
“โธมัส!”
ดาราวดีกำลังจะอ้าปากพูดแต่เธอกลับต้องหยุดชะงักไว้แค่นั้นเมื่อชายหนุ่มหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาและเอามันสวมไว้บนข้อมือทั้งสองของเธอ
“โธมัส...นี่คุณจะทำอะไร”
หญิงสาวเบิกตากว้าง เธอไม่ได้รับคำตอบจากเขานอกจากการกระทำที่โหดเหี้ยมยิ่งกว่าการทรมานพวกเชลยในสนามรบ เขาล่ามเท้าเธอไว้ด้วยโซ่เหล็กยังไม่พอแต่ยังใช้ปลอกเหล็กพันธนาการข้อมือทั้งสองไว้อีกด้วย
“โธมัส...ปล่อยฉัน!....ปล่อยนะ!”
ดาราวดีกรีดร้องแต่แล้วเสียงหวีดก้องนั้นกลับเหือดหายราวน้ำระเหิดไปในอากาศเมื่อริมฝีปากบอบบางถูกจาบจ้วงด้วยปากหนาที่กระแทกลงมาและประกบปิดไม่ให้สียงโหยไห้ลอดออกมาอีก ลิ้นหนาโจนจ้วงเข้าสู่ปากเล็ก เป็นครั้งแรกที่เธอถูกผู้ชายจูบแต่กลับเป็นจุมพิตหนักหน่วงที่ระบายความคับแค้นใส่อย่างไร้ปราณี เธอไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเท้าถูกล่ามไว้ข้างหนึ่งและมือทั้งสองถูกใส่กุญแจเหล็กยิ่งกว่าพวกทาสที่ไม่มีโอกาสอุทรขอชีวิต ใบหน้างามส่ายสะบัดเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากริมฝีปากที่ถูกบดขยี้อย่างรุนแรงจนแทบทนไม่ไหว
“คุณหนีไปไหนไม่ได้ ยูบีอา!”
โธมัสคำรามเสียงหนักเมื่อเขาถอนริมฝีปากออกและเห็นว่าปากของดาราวดีทั้งบวมทั้งห้อเลือด เขาเหยียดปากสะใจราวกับความเคียดแค้นนั้นอัดแน่นสุมอกโดยไม่ได้ยี่หระต่อความเจ็บช้ำของเธอแม้แต่น้อย
บทที่ 3 ชีวิตที่ไร้อิสรภาพ
“ผมจะจองจำคุณไว้ที่นี่ กักขังวิญญาณทุกข์ทรมานของคุณไว้ เฟอร์นันโดมันรักคุณมากนี่ใช่มั้ย ผมจะขังหัวใจของมันไว้ คุณต้องอยู่อย่างเชลยที่ไม่มีสิทธ์เรียกร้องอะไร นอกจากเป็นที่ระบายอารมณ์เวลาที่ผมนึกอยากขึ้นมา”
“โธมัส!”
ริมฝีปากของหญิงสาวอ้าค้างเมื่อร่างใหญ่กำยำยืดลำตัวขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กลับต้องชะงักเมื่อดาราวดียื้อขากางเกงของเขาไว้ด้วยมือที่ถูกตึงไว้ด้วยโซ่เหล็ก หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาวอนขอ
“โธมัส...ได้โปรด...ปล่อยฉันไป...ปล่อยฉันกลับบ้าน”
ชายหนุ่มเหยียดปาก มองร่างบอบบางที่ถูกเขาจองจำด้วยโซ่ทั้งมือและเท้า ใบหน้าคร้ามเข้มเยียบเย็นและเต็มไปด้วยความอำมหิต โธมัสแค่มองลูกสาวของศัตรูที่บัดนี้กลายเป็นทาสอยู่แทบเท้าเขา
“บางทีนะยูบีอา...คุณอาจเหมือนนางเงือกในตำนาน ที่ต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานในโลกแห่งความเป็นจริง”
“โธมัส...โธมัส!”
หญิงสาวร่ำร้องเมื่อไม่อาจยื้อเขาไว้ได้ ชายหนุ่มก้าวออกจากห้องนั้นและปิดประตูซึ่งทำจากกรงเหล็กโดยไม่สนใจที่จะหันมองหญิงสาวซึ่งส่งเสียงร่ำไห้เพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรและคิดไม่ถึงว่าชีวิตของตัวเองจะพลิกผันได้ถึงเพียงนี้ เพียงแค่ความไว้วางใจที่บิดาของเธอมีให้ชายคนหนึ่งโดยไม่รู้เลยว่าเขามีภูมิหลังดำมืดเช่นไร
แม้ว่าโธมัสจะไม่ได้ใส่กุญแจประตูเอาไว้แต่หญิงสาวก็ไม่อาจเอื้อมไปเปิดมันออกได้เพราะขาของเธอถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่ขนาดใหญ่ที่ความยาวของมันไม่เพียงพอให้เธอขยับไปถึง ดาราวดีร้องไห้นานนับชั่วโมงก่อนที่เธอจะเริ่มรู้สึกอ่อนล้า ภายในจิตใจตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและไม่เข้าใจผู้ชายคนนั้นอย่างยิ่งยวด
โธมัส เอเฟซัส...
เธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่สิ่งที่ชายหนุ่มทิ้งเอาไว้คือปมปัญหาที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ นั่นคืออดีตอันเจ็บปวดของเขาที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยความเคียดแค้น เขาอาฆาตเฟอร์นันโดแต่กลับกลายเป็นเธอที่ถูกดึงเข้าสู่วังวนแห่งความเจ็บปวดของเขา แล้วหลังจากนี้ล่ะ...เธอจะเป็นเช่นไร ผู้ชายใจร้ายคนนั้นจะทำอะไรกับเธอบ้าง ดาราวดีจมลึกเข้าไปในห้วงความคิดของตัวเองกระทั่งหลับไปอีกครั้งทั้งตำตาเจิ่งนองใบหน้า
แอ๊ด...
เสียงประตูเหล็กที่เปิดออกทำให้ร่างบางซึ่งนอนคุดคู้อยู่บนพื้นห้องที่เป็นพื้นปูนหนาวเหน็บสะดุ้งตื่นในฉับพลัน ดาราวดีมีอาการตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นร่างของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องนั้น เป็นผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นชาวกรีกอายุราวสี่สิบกว่า ๆ อยู่ในชุดแม่บ้าน ในมือถือถาดเข้ามาก่อนจะวางลงตรงหน้าร่างเล็กที่มองด้วยความประหลาดใจ
“สวัสดีค่ะ...คุณยูบีอา”
หญิงผู้นั้นกล่าวทักทายด้วยใบหน้าที่ดูเสมือนราบเรียบแต่ดาราวดีรู้สึกว่าผู้หญิงร่างสูงระหงคนนี้ไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้าย ใบหน้าใต้กรอบเรือนผมยาวหยักศกสีน้ำตาลเข้มซึ่งถูกรวบไว้ด้านหลัง เธอมองหญิงสาวร่างเล็กที่ถูกพันธนาการไว้ด้วยความประหลาดใจที่ฉายออกมาจากดวงตาสาน้ำเงินคู่นั้น หญิงสาวชาวไทยขยับถอยไปด้านหลังจนชิดผนังปูน ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่ไว้วางใจทุกอย่างในสถานที่ซึ่งไม่ต่างจากแดนคุกนี้อยู่ดี
“ดิฉันชื่ออเล็กซา เป็นแม่บ้านของที่นี่ค่ะ...คุณท่านให้ดิฉันนำอาหารมาให้คุณค่ะ”
ดาราวดีเลื่อนสายตาของเธอลงต่ำเพื่อจะเห็นอาหารในถาดที่อเล็กซานำมาให้ มันเป็นอาหารแบบแปลก ๆ ที่มีลักษณะเป็นก้อนกลม ๆ ในจาน เธอเอียงหน้ามองและดูเหมือนคนนำมาให้จะเข้าใจในความสงสัยของอีกฝ่าย