ตอนที่ 8

1050 Words
“แต่คุณไม่เคยรู้จักพวกเรา” “ผมไม่รู้หรอกว่าคุณใช้ชีวิตอยู่กับเฟอร์นันโดยังไง แต่รู้ไว้ด้วยว่าพ่อของคุณมันมีสันดานของสัตว์ร้าย มันไม่เคยไว้ชีวิตใครที่ขวางทางมัน” “ปล่อยฉันไป!” ดาราวดีโพล่งออกมาด้วยความอัดอั้น หญิงสาวสะอื้นหากก็ไร้เสียงโหยให้มีแต่ร่างกายที่ไหวสะเทือนด้วยความเจ็บปวดเกินจะกดกลั้น หากแต่ยิ่งเธอแสดงความทุกข์ออกมามากเท่าไหร่ก็เหมือนยิ่งทำให้เขาสะใจได้มากเท่านั้น  โธมัสแสยะยิ้มร้าย “ผมจะปล่อยคุณ...ก็ต่อเมื่อ...ผมอยาก” “โธมัส...อื๊อ!” ท้ายทอยของหญิงสาวถูกมือแกร่งดันไว้เพื่อให้ดวงหน้าแสนสวยเข้าไปชิดติดใบหน้าของเขา จอมซาตานฝังรอยจูบลงบนกลีบปากที่ยังบวมช้ำอีกครั้ง เขาบังคับให้ริมฝีปากอิ่มงามอ้าออกเพื่อรับลิ้นหนาที่ฉกเข้าไปและรุกรานในปากเล็กอย่างเอาแต่ใจและบีบคั้น ดาราวดีพยายามยกมือขึ้นดันหน้าอกของเขาไว้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าต้องยอมให้เขาจาบจ้วงเธอด้วยความกักขฬะและดิบร้าย “โธมัส...ปล่อย...ปล่อย!” พอปากเป็นอิสระหญิงสาวก็ร้องออกมาเสียงดัง หากแต่ใครจะช่วยเธอได้ในเมื่อบนหอคอยแห่งนี้ยามดึกสงัดมีเพียงเธอและเขาสองคน หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความพลุ่งพล่านทางอารมณ์ที่ไหลเวียนในเลือดเนื้อของเขา โธมัสฉกริมฝีปากลงบนริมฝีปากของเธออีกนับครั้งไม่ถ้วนจนหญิงสาวเริ่มอ่อนแรง ลิ้นหนาที่รุกรานราวกับอัดแน่นด้วยความเคียดแค้น ริมฝีปากของเขาบดขยี้ลงบนกลีบปากอิ่มครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร้ปราณี “โธมัส...โธมัส...” เสียงแหบโหยลอดออกมาจากกลีบปากที่ถูกปลดปล่อยจากการครอบครองด้วยความหยาบเถื่อนก่อนร่างบางจะค่อย ๆ อ่อนยวบและใบหน้างามเอียงซบกับอกกว้างอย่างไร้เรี่ยวแรง “ยูบีอา...ยูบีอา!” โธมัสกอดร่างแน่งน้อยที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วไว้กับอก เขาพยายามเขย่าตัวเธออีกหลายครั้งหากดาราวดีก็ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ “ยูบีอา...ให้ตายเถอะ...โดนจูบแค่นี้ถึงกับเป็นลมไปเลยรึ” ชายหนุ่มสบถออกมาเสียงดังแต่แขนแกร่งกลับโอบกอดร่างที่อยู่ในอ้อมแขนไว้แน่นก่อนที่เขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาดึงสมาร์ทโฟนออกจากกางเกงและโทรออก “อเล็กซา...ขึ้นมาบนหอคอย...ตอนนี้เลย!”   ดาราวดีรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างอ่อนระโหยโรยแรง หญิงสาวเปิดเปลือกตาเห็นแสงสว่างพรายพร่าและรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่อาบไล้บนผิวกาย ร่างบอบบางขยับพลิกตัวไปมาขณะรู้สึกถึงที่รองเรือนร่างนั้นอ่อนนุ่มแตกต่างจากความรู้สึกแข็งและเย็นเยียบของพื้นห้องก่อนหน้านี้ และเมื่อลืมตาตื่นเต็มที่ก็พบว่าเธอกำลังทอดกายเหยียดยาวอยู่บนเตียงกว้างภายในห้องโอ่โถงที่มองทะลุออกไปทางระเบียงด้านนอกเห็นของฟ้าตัดกับท้องทะเลสีเทอควอยซ์ หากแต่เมื่อขยับตัวลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังมึนงงกลับพบว่าเท้าของเธอนั้นเป็นอิสระจากตรวนเหล็กแต่มือทั้งสองยังถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่แน่นหนา หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งเป็นผงและมองไปรอบ ๆ ห้องนอนกว้างขวาง บนเพดานเหนือตัวเธอนั้นประดับด้วยแชนเดอเลียขนาดอลังการ สวยงามอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมันที่ใดมาก่อน “ตื่นแล้วเหรอ...ยูบีอา?” เสียงลึกห้าวดังมาจากมุมหนึ่งของห้องนั้น ดาราวดีหันมอง ดวงตาของเธอรื้นน้ำขึ้นมาอีกหน ร่างสูงสง่าในชุดลำลองสีมืดหม่นก้าวเข้ามา โธมัสหยุดตรงหน้าร่างเล็กที่นั่งขอบเตียงขณะสอดมือทั้งสองข้างลงในกระเป๋ากางเกง ใบหน้าคร้ามคมถมึงทึงไม่เปลี่ยนแปลง “ตื่นก็ดีแล้ว ผมจะให้อเล็กซาเอาอาหารเช้ามาให้” “ฉันไม่หิว” “ผมไม่มีเวลาเล่นสงครามประสาทกับคุณนะ!” เสียงนั้นดุดัน “รู้มั้ยว่าคุณไม่มีข้าวตกถึงท้องมากี่วันแล้ว” “ก็ไม่สำคัญอะไรนี่ไม่ใช่หรือคะ...เพราะถ้าฉันตายไปมันจะทำให้คุณพอใจด้วยซ้ำ” “ถ้ารีบตายคุณก็หมดโอกาสที่เก็บเอาความทุกข์ทรมานนี้ไปเล่าให้พ่อคุณฟัง...คนตายไม่มีใครทรมาน แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องพบกับความทุกข์สาหัสน่ะมันยิ่งกว่าทรมานหลายเท่า” “แล้วคุณจะเอายังไงกับฉัน!” ดาราวดีขึ้นเสียงสูงแต่ไม่ทันได้พูดอะไรต่อบานประตูห้องขนาดใหญ่ก็ถูกผลักเข้ามา อเล็กซายกถาดขนาดใหญ่เข้ามาวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียงก่อนจะถอยออกไปจากห้องนั้นอย่างเงียบ ๆ  หญิงสาวมองอาหารในถาดเงิน มันเป็นซุปร้อน ๆ ในถ้วยและมียาเม็ดอีกจำนวนหนึ่ง “ผมจะไม่ปล่อยให้คุณตาย” โธมัสกล่าวขณะยกถ้วยซุปขึ้นมาแล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างหญิงสาว ใบหน้าของดาราวดีตอนนี้ซีดเผือดแทบไม่มีเลือดหล่อเลี้ยง ริมฝีปากของเธอแห้งผากแตกต่างจากที่เขาเห็นเธอครั้งแรก เธอเป็นสาวสวยในวัยที่กำลังเบ่งบานสะพรั่ง แม้ตอนนี้ความอ่อนล้าจะฉาบเต็มทั้งนัยน์ตาและร่างกายที่อ่อนโหยหากแต่ความเปล่งประกายและงดงามอันแท้จริงของหญิงสาวกลับฝังแน่นในส่วนลึกของชายหนุ่มโดยที่เขาเองแทบไม่รู้ตัว   บทที่ 4 เชลยแค้น   “คุณต้องกินอะไรสักหน่อย” โธมัสตักซุปร้อนขึ้นมาแล้วเป่าเบา ๆ ก่อนจะเลื่อนไปใกล้ริมฝีปากของหญิงสาวหากแต่ดาราวดีกลับนิ่งไม่ยอมเผยอริมฝีปากออก คิ้วหนาเป็นปื้นสีน้ำตาลเข้มเหนือดวงตาสีน้ำตาลอมเทาเลิกขึ้น “คุณควรรักษาชีวิตของตัวเองไว้ ยูบีอา ถ้าอยากกลับไปเห็นหน้าพ่อบุญธรรมของคุณอีกครั้ง” “ทำไมคุณไม่ปลดกุญแจมือฉันออก” “อ้าปาก” “ฉันจะกินเอง” “ผมบอกให้คุณอ้าปาก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD