เห็นคาตา
☆☆>>>>>♡
>>>>>โรงแรม Aphiwath Hotel
“คุณภากรครับ พรุ่งนี้ออกเดินทางไม่เกิน 9 โมงนะครับ” สุวิทย์ลูกน้องคนสนิทเข้ามาเตือนเจ้านาย ที่ต้องเดินทางไปประชุมหุ้นส่วนใหญ่ที่ต่างจังหวัดเรื่องขยายรีสอร์ตเข้าไปในเกาะพร้าว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น
“ภพช่วยไปเตรียมเอกสารบนโต๊ะทำงานให้กูหน่อย เอาใส่กระเป๋าสีกรมนะอย่าให้ผิดพลาดนะมึง กูเอามึงตายแน่” ภากรหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทอีกคนที่มีอายุน้อยกว่าเขา 5 ปี
“ครับนาย”
“วันนี้กูจะเข้าไปดูงานที่ผับก่อน เพราะจะไม่อยู่อีกหลายวัน” คนเป็นนายพูดบอกลูกน้องก่อนจะเดินเข้าไปในโรงแรม พร้อมกับลูกน้องที่เดินตามไม่ห่างตัวเจ้านาย
“นายจะเอาคนของเราไปกี่คนครับ”
“แล้วแต่สุวิทย์เห็นสมควรแล้วกัน” คนในที่นี้หมายถึงลูกน้องที่เวลาออกไปต่างจังหวัดหรือนอกเขตการปกครองของภากร ที่ต้องมีลูกน้องตามไปอารักขาคุ้มครองมากเป็นพิเศษ
กริ๊งงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงง
โทรเข้า Pinn
“ว่าไงพิณ พวกมึงไปดูผู้ชายมีเวลาโทรหากูรึไง”
“ตอนนี้กูกำลังดูผู้ชายของมึงอยู่ไงกูถึงได้โทรมา”
“หมายความว่าไงวะ”
“พี่น็อตไม่ได้ไปรับมึงบอกว่ามีประชุมใช่ไหม กูเห็นเขามากับกลุ่มนักศึกษาที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยเรา ตอนนี้กูกับไอ้แบงค์กำลังแอบดูอยู่”
“มึงรออยู่นั่นนะเดี๋ยวกูตามออกไป”
“มึงน่ะรอที่ห้องมึงเลย เทียวไปเทียวมาเดี๋ยวคลาดกัน เดี๋ยวกูคอยรายงานความเคลื่อนไหวจะเอาไงต่อค่อยว่ากัน”
“เออดี คงไม่มีอะไรใช่ไหมมึง” ในความกังวลว่าจะถูกคนรักหักหลังหรือไม่ทำให้เฟรนด์อยู่ไม่สุขทั้งกายทั้งใจเลย มันดูกังวลและวิตกไปหมดทุกอย่าง
NOTT : เฟรนด์ครับวันนี้พี่อาจจะเลิกดึกนะครับ คงไม่ได้ไปหาเฟรนด์ พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะครับคนเก่ง พี่น็อตขอโทษนะ?
“พิณกูว่ามีแล้ววะ พี่น็อตเพิ่งส่งข้อความมาบอกว่าไม่ได้มาหากู มีประชุมเลิกดึก เอาไงดีวะมึงกูใจไม่ดีเลยว่ะ”
“แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวกูไลน์ไปบอกเรื่อย ๆ มึงใจเย็น ๆ ก่อนตั้งสตินะเฟรนด์” พิณพยายามบอกคนปลายสายให้ตั้งสติ แต่คนที่ไม่มีสติน่าจะเป็นตัวเธอเองมากกว่า
“ไอ้แบงค์ เขาแยกย้ายกันแล้วงั้นตามพี่น็อตไปก่อน มึงรายงานไอ้เฟรนด์ตลอดนะ กูไปเอารถก่อน”
“พิณกูว่าไม่ทันแล้ววะมึงไปมอไซค์รับจ้างดีกว่า งานนี้ไม่รอดแน่พี่น็อต”
>>>>> คอนโดพี่น็อต
“มึงมาเร็วจังวะอีสวย” พิณถามเพื่อนเมื่อมาถึงก็เจอเฟรนด์ที่รออยู่ที่คอนโดพี่น็อตก่อนแล้ว
“ก็กูคิดว่าเขามาที่นี่แหละ หลังจากที่กูฟังมึงบอกทิศทางของรถพี่น็อต กูเลยมาดักรอและก็ใช่จริง ๆ ด้วย”
“นั่นไงมึงเขากำลังจะเดินขึ้นข้างบนแล้ว” พิณชี้เป้าให้เพื่อน ๆ ดู
“มึงจะทำอะไรเฟรนด์ ใจเย็น ๆ รออีกหน่อยเชื่อกู ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขาเน้น ๆ คาเตียงไปเลยยิ่งดี” แบงค์คว้ามือเพื่อนไว้เพราะเหมือนเฟรนด์กำลังจะพุ่งเป้าไปที่พี่น็อต
“มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ กูเริ่มกลัวแล้วนะมึง” เฟรนด์พูดด้วยเสียงสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้
“ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้แล้วเฟรนด์ มึงต้องสู้ ๆ นะอย่างน้อยมึงก็มีกูกับไอ้แบงค์ที่อยู่กับมึง” พิณกอดเพื่อนไว้เมื่อรับรู้ว่าเฟรนด์กำลังจะร้องไห้
“นานพอรึยังไอ้แบงค์ถ้าเขาทำอะไรกัน คงเสร็จไปหลายน้ำแล้วมั้ง มึงจะไปเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้เขารึไงช้าขนาดนี้” พิณรู้สึกหงุดหงิดกับการที่แบงค์บอกให้รอเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้เขารู้เพื่อนของเขาใจร้อนรุ่มราวกับไฟ ใครจะไปทนเห็นคนที่ตัวเองเรียกว่าแฟน ลากใครก็ไม่รู้ขึ้นไปบนห้อง ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าตอนนี้ข้างบนจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“เวลานี้แหละเหมาะสมที่สุดเชื่อกู กูเคยผ่านมาแล้ว” แบงค์บอกเพื่อนด้วยหน้าตาที่มีความมั่นใจเกินร้อย
“เราไปเคาะห้องเขาจะเปิดเหรอวะ” พิณพูดจบเฟรนด์ก็หยิบคีย์การ์ดที่น็อตเคยเอาไว้ให้ตั้งแต่ตอนคบกันแรก ๆ
“ดีมาก หวังว่าเขาคงไม่เปลี่ยนกุญแจอันใหม่นะ มึงพร้อมเผชิญความจริงแล้วนะเฟรนด์” เฟรนด์ไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้าเป็นการยอมรับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนที่เคยสำคัญกับพี่น็อตคงไม่ใช่เขาอีกต่อไป เหมือนในใจรู้ว่ามันอะไรเกิด ขึ้นในห้องนี้ แต่ตอนนี้ขอแค่ได้รู้ได้เห็นกับตาก็แค่นั้น เขาจะได้ไม่เป็นไอ้โง่อีกต่อไปประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอย่างเงียบ ๆ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ข้างนอก
“พี่น็อตครับมาต่อกันเถอะเวฟหายเหนื่อยแล้ว” เสียงที่ฟังดูเหมือนเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายทำอะไรกับเจ้าของเสียง ไม่บอกก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ผมได้ยินเสียงนั้นถึงกับเกือบทรุดลงไปกองกับพื้น ดีที่แบงค์ไวกว่ามันคว้าแขนผมไว้ทัน
“ไหวนะมึง กลับไหมหรือจะเดินต่อไป” พิณถามเพื่อความแน่ใจ ทุกคนคงรู้ว่าตอนนี้ผมเจ็บปวดมากแค่ไหนกับภาพตรงหน้าที่ผมต้องไปเผชิญ
“ไหว!! ยังไงกูก็ต้องไหว เอาให้มันจบวันนี้เลยให้มันเจ็บทีเดียว”
“พี่น็อต นี่หมายความว่าไง” ภาพตรงหน้าคือเขาสองคนกำลังกอดจูบนัวเนียกันอยู่บนเตียง มีถุงยางกับเสื้อผ้าของทั้งคู่วางเกลื่อนเต็มพื้นห้อง
“คนนี้เหรอครับ แฟนพี่น็อตอีกคนที่พี่น็อตเคยเล่าให้เวฟฟัง” แฟนอีกคน?งั้นมันก็เป็นแฟนอีกคนเหมือนกันใช่ไหม หมายความว่าไงกันผมยังอึ้งกับคำพูดของไอ้คนที่มันนอนอยู่บนเตียงอยู่เลยครับ พี่น็อตน่ะเหรอคว้าเอามาห่มมาปิดตัวเองแล้วนั่งลงที่เตียงเพื่อป้องกันคนมองอุจาดลูกตาไงล่ะ
“เฟรนด์ ฟังพี่น็อตก่อนนะครับ”
“เลว!! พอเถอะพี่เราจบกันแค่นี้นะครับ เฟรนด์ไม่อยากเจอหน้าพี่อีก” ผมโยนคีย์การ์ดอยู่ในมือใส่หน้าพี่น็อตสุดแรง มันก็แค่คีย์การ์ดมันจะไปเจ็บอะไร อยากได้รองเท้ามากกว่าโยนใส่หน้ามันทั้งคู่ แล้วผมก็เดินออกมาจากห้องพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
หมับ!!
“เฟรนด์ฟังพี่อธิบายก่อนนะ พี่รักเฟรนด์นะครับ” พี่น็อตวิ่งมากอดรั้งผมไว้ท่ามกลางสายตาของไอ้แบงค์และพิณ
“ถ้าความรักของพี่น็อตเป็นแบบนี้ เฟรนด์ว่าเราอย่ารักกันดีกว่าครับ ลาก่อน พี่น็อตอย่าเจอกันอีกเลยครับ เฟรนด์ขอร้อง” ผมแกะมือพี่น็อตที่กอดเอวผมอยู่แล้วเดินออกจากห้องโดยที่ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จบแบบนี้แหละดีแล้ว
“ให้กูไปอยู่เป็นเพื่อนไหมมึง” พิณที่ดูเป็นห่วงผมมาก เป็นใครก็ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกันแหละครับ ที่มาเจอแฟนตัวเองกำลัง 'เอา' กับคนอื่นต่อหน้าต่อตาตัวเองแบบนี้
“ไม่เป็นไรกูไหว ดีแล้วที่มารู้ตอนนี้ ดีกว่าอะไรมันจะสายเกินไป” ผมยังยืนยันว่าผมไหวอยู่ ถึงจะเจ็บแค่ไหนมันก็ไม่ทำให้ผมทำร้ายตัวเองเพื่อผู้ชายเชี่ย ๆ คนนั้นแน่นอน
“มีอะไรติดต่อพวกกูมานะมึง” แบงค์ที่ยังเป็นห่วงผมอยู่ โชคดีที่ผมมีเพื่อนอย่างพิณกับแบงค์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกเราสามคนจะคอยช่วยเหลือกันตลอด ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ในความโชคร้ายที่ถูกผู้ชายหักหลัง ก็ยังมีเพื่อนดี ๆ ที่คอยให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา
“กูไม่ทำร้ายตัวเองหรอก พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง” ผมกลับห้องด้วยหัวใจที่แตกสลาย นี่เหรอผู้ชายที่พร่ำบอกว่ารักผมนักหนา รอผมได้ตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่สุดท้ายกลับมาหักหลังผมจนได้ แล้วที่ผ่านมาเรียกว่าอะไร
NOTT : เฟรนด์ครับ ให้พี่น็อตได้อธิบายบ้างนะครับ ขอโอกาสให้พี่น็อตสักครั้ง พี่ขอโทษ พี่ผิดเอง พี่จะไม่ทำแบบนี้อีก
FRIEND : เฟรนด์ขอให้โอกาสกับตัวเองก่อนครับ ลาก่อนพี่น็อต เราคงไม่ต้องเจอกันอีก
ยิ่งคิดถึงยิ่งเจ็บปวด นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าผมเสียใจกับความรักมากที่สุดเพราะตลอดเวลาที่คบกัน พี่น็อตเป็นแฟนที่ดี ทำหน้าที่แฟนไม่เคยขาดตกบกพร่องเอาใจใส่ดูแลสารพัด หรือที่ผ่านมาเขาเป็นแบบนี้อยู่แล้วเพียงแค่ผมเองไม่คิดจะใส่ใจเชื่อในสิ่งที่เขาพยายามแสดงออกมาให้ผมเห็น ทำให้มองข้ามส่วนที่ผมควรจะสนใจใส่ใจตั้งแต่ทีแรก
ตอนนี้ผมไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชตัวเองดี ที่ไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยคนนั้น เชื่อสนิทใจเชื่ออย่างไม่มีข้อแม้ เชื่อว่าเขารักผมมากทำเพื่อผมมาตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยทำให้ผมระแวงเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้งเดียวที่เขาทำในวันนี้มันเจ็บฝังลึกลงไปในใจของผมเรียบร้อยแล้วครับ ดีนะที่ผมกับพี่น็อตเรายังไม่มีอะไรเกินเลย ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงจะอดทำร้ายร่างกายพี่น็อตไม่ได้จริง ๆ