“ฉันขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ” ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามพยาบาลคนนั้นไปโดยไม่ลืมที่จะบอกให้ไอ้ต้นกับไอ้กั้งเฝ้าประตูห้องผ่าตัดไว้เผื่อคุณหมอออกมา
“เอ่อ...เมื่อกี้ใครเหรอคะ ทำไมเข้าไปในห้องผ่าตัด”
“ผอ. น่ะค่ะ” ฉันขมวดคิ้ว ซึ่งพี่พยาบาลคนนี้ก็กำลังกลับไปนั่งที่หน้าจอคอมฯ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา
“เฮ้อ…หมอติณณ์โดนเล่นงานน่ะค่ะ ปกติเขาเป็นแพทย์ของคนไข้พรีเมี่ยมค่ะ เอ่อ...อย่าบอกใครนะคะ” ฉันไม่เข้าใจ และยิ่งไม่เข้าใจมาก ๆ ที่พี่พยาบาลคนนี้มีท่าทีลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้
“แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดโรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลของรัฐฯ ไม่ใช่เหรอคะทำไมถึงมีคนไข้พรีเมี่ยม”
“หึ คุณไม่มีทางรู้หรอกค่ะถ้าไม่ใช่คนใน คนมีเงินชอบเข้าโรงพยาบาลรัฐฯ แล้วจ่ายเงินมาให้เรา หรือเรียกว่าผู้มีอุปการะคุณน่ะค่ะ หมอติณณ์ดูแลพวกเขา” ฉันชะงักไป ไม่เคยรู้มาก่อนว่าในโรงพยาบาลของรัฐฯจะมีแบบนี้ด้วย
“คนที่ดูแลคนไข้กลุ่มนี้จะเป็นแพทย์ที่มีฝีมือค่ะ ไม่ใช่แค่แพทย์นะคะ ตั้งแต่พยาบาล นักเทคนิคการแพทย์ แพทย์ก็ต้องเป็นแพทย์เฉพาะทางค่ะ”
“แล้วทำไมพวกเขาถึงมาหา เอ่อ...”
“อ้อ พรุ่งนี้เช้าหมอติณณ์มีผ่าตัดให้กับคนไข้พรีเมี่ยมแล้วญาติคนไข้ไม่สบายใจ พวกเขาอยากคุยกับคุณหมอน่ะค่ะ แต่หมอติณณ์บอกว่าจะไม่มาเพราะไม่ใช่เวลางาน แต่ตอนนี้กลับเข้าห้องผ่าตัดซะงั้น”
“อ่อ...”
“ถ้าญาติคนไข้พรีเมี่ยมรู้นะคะว่าหมอติณณ์ละเลยพวกเขาแล้วมาผ่าตัดให้กับคนอื่นอย่างนี้ ผอ. โดนเฉ่งแน่ ๆ เขาก็เลยเข้าไปหาคุณหมอน่ะค่ะ”
“จริงเหรอคะ แต่แบบนี้มันไม่ถูกต้องหรือเปล่า”
“คะ?”
“ก็เขาเป็นคุณหมอนี่ เขาก็ต้องดูแลคนไข้ จะพรีเมี่ยมหรือไม่พรีเมี่ยมก็ต้องดู”
“หึ เพราะว่าจริง ๆ แล้วมีแพทย์ที่สามารถผ่าตัดเพื่อนคุณได้อยู่เวรน่ะค่ะ แต่หมอติณณ์ก็อยากจะผ่าตัดให้เพื่อนของคุณ...เอ่อ ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
“คะ?”
“...เขาจีบคุณเหรอคะ”
“ห้ะ...บะ บ้า พูดอะไร ฉันไม่ตลกนะคะ”
“อ่อ โล่งอกไปที คิก ๆ หมอติณณ์ไม่เหมาะกับการมีคนรักหรอกค่ะ ปล่อยให้เขาเป็นขวัญใจพวกเราเถอะ” ฉันมองหน้าพี่พยาบาลที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความมึนงง
“แล้วอีกนานไหมคะ กว่าเขาจะออกมา”
“นานนะคะ ปกติของห้องผ่าตัดค่ะ ไม่เคยต่ำกว่าสามชั่วโมง”
“อ้อ...”
“คุณไปพักก่อนได้เลยนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบกลับพี่พยาบาลก่อนจะค้อมศีรษะให้เป็นการขอบคุณ
สิ่งที่ฉันเพิ่งได้รู้มาทำให้ฉันรู้สึกแปลก ๆ มันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ฉันรู้สึกขอบคุณเขาที่ยอมเสี่ยงโดนต่อว่ามาช่วยเพื่อนของฉัน ขณะเดียวกันก็มีความรู้สึกว่าการที่เขาช่วยฉันในครั้งนี้ เขาต้องการอะไรบางอย่างจากฉัน...
-Other-
เวลาต่อมา...
บรรยากาศภายในห้องผ่าตัดมาคุเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ติณณภพเงยหน้าขึ้นมองผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่มองเขาอยู่ที่ชั้นสองของห้องผ่าตัด
“เอ่อ...ให้เรียกคุณหมอคนอื่นมาแทนไหมคะ”
“ไม่ครับ ใกล้เสร็จแล้ว” เขาตอบเสียงนิ่ง ชายหนุ่มมีท่าทีไม่ตื่นตระหนก ความนิ่งของเขาทำให้พยาบาลในห้องผ่าตัดเงียบไป เช่นเดียวกับแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัดที่ยืนอยู่ เธอทำหน้าเลิกลั่กเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูกจากการถูกผู้มีอำนาจมากกว่าจ้องมอง
ติณณภพไม่เคยคิดว่าตลอดชีวิตการทำงานของเขาจะถูกจำกัดคนไข้ คุณหมอหนุ่มถูกสั่งให้รักษาแค่คนไข้พรีเมี่ยม มีหลายครั้งที่เขาเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว แต่ก็มีสายเรียกให้เขาออกไปรักษาคนไข้พรีเมี่ยม บ้างก็ต้องปล่อยคนไข้กลางคัน บ้างก็ต้องปล่อยให้แพทย์จบใหม่ดูแลคนไข้คนอื่นแทน เพื่อให้เขาไปดูแลคนไข้พรีเมี่ยม ชายหนุ่มไม่ชอบเลยสักนิด ได้แต่บอกกับตัวเองว่ามีหน้าที่รักษาก็ทำไปแค่นั้น แต่วันนี้มันเกินไป อยู่ ๆ โทรหาเขาในเวลาตีหนึ่งเพื่อพูดคุยเรื่องเดิม ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาบอกไปแล้วว่าจะเข้าผ่าตัดให้ในตอนเช้าตรู่
แน่นอนว่าการปฏิเสธไม่มาในคราแรก แต่กลับปรากฏตัวเช่นนี้…เขาโดนเล่นงานแน่ และตอนนี้ผู้อำนวยการก็กำลังมองเขาอยู่ในห้องผ่าตัดอีกด้วย
“ปิดปากแผลนะครับ...” แพทย์ผู้ช่วยผ่าตัดพยักหน้ารับคำสั่งจากเขา ติณณภพถอดถุงมือออก ก่อนจะมีพยาบาลมาถอดชุดผ่าตัดให้กับเขา ร่างหนาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองผู้อำนวยการที่จ้องมองเขาอยู่ เขาเดินไปล้างมือก่อนจะเดินออกจากห้องผ่าตัดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ทว่า
ติ๊ง!
ทันทีที่ร่างหนาเดินออกจากห้องผ่าตัดทำให้น้ำชาเงยหน้าขึ้นมอง เธอลุกพรวดขึ้นในทันทีที่เห็นว่าใครเดินออกมา
“เพื่อนฉัน...”
“ปลอดภัยครับ...” ติณณภพฉีกยิ้มให้กับเธอ ดวงตากลมโตของเธอทำให้เขายกยิ้มขึ้นแม้ว่าตอนนี้จะมีหลายเรื่องให้คิดก็ตามแต่
“กูบอกมึงแล้วเห็นไหม เสือเผ่นคงช่วยมันได้”
“บ้าหรือไง หมอต่างหากที่ช่วยมัน” เธอหันไปต่อว่าต้นที่เอ่ยพูดขึ้น ซึ่งคำพูดของเธอทำให้ในสายตาของคุณหมอหนุ่มมองแค่เธอเท่านั้น ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ชื่ออะไรครับ”
“หืม...อ้อ ไอ้เจมส์น่ะเหรอ ชื่อธีระกันต์” เธอตอบน้ำเสียงสดใส ทว่า
“ผมหมายถึงชื่อคุณ”
“_”
“ชื่ออะไรครับ” ติณณภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาสบตากับเธอโดยมือทั้งสองข้างล้วงอยู่ในกาวน์ยาวที่สวมใส่ ซึ่งไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบ เพื่อนของเธอก็เอ่ยพูขึ้น
“หมอจะจีบเพื่อนผมเหรอ”
“หุบปากเหอะน่า...” ต้นเม้มริมฝีปากเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาวหันมามอง ก่อนที่กั้งจะโน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างใบหูของเธอ
“หมอแม่ง!...เสือผู้หญิง เชื่อกู...ผีย่อมเห็นผี”
“มึงด้วย...หุบปากแล้วกลับได้แล้ว กูเฝ้ามันเอง” น้ำชาไม่ต้องรอให้กั้งบอกว่าคุณหมอหนุ่มตรงหน้านี้เสือผู้หญิงหรือไม่ เขามันนัมเบอร์วัน เธอสัมผัสได้ตั้งแต่วันที่เห็นเขาครั้งแรกที่ร้านสะดวกซื้อ
“แล้วฉันต้องทำอะไรต่อ” น้ำชาเลื่อนสายตาจากแผ่นหลังของเพื่อน ๆ ที่เธอเพิ่งไล่ตะเพิดกลับ ก่อนที่เธอจะหันมาสบตากับคุณหมอหนุ่มตรงหน้า เขาก้าวขาเข้ามาใกล้เธอ
“คุณยังไม่ตอบผมนะ”
“_”
“ชื่ออะไรครับ”
“ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องบอกนาย” ติณณภพขมวดคิ้ว เธอไม่สนใจเขาเลย
“ครับ...แต่ก่อนหน้านี้คุณบอกว่า คุณจะยอมผมทุกอย่าง...” น้ำชาอ้าปากเหวอ เธอว่าแล้วเชียวว่าเขาจะยกเอาข้ออ้างนี้ขึ้นมาพูด “ชื่ออะไรครับ”
“ชิ๊...”
“อะไรนะครับ”
“น้ำ...”
“ชื่อน้ำ?”
“น้ำชา...” ติณณภพพยักหน้ารับ เขายิ้มให้กับสาวเจ้าจนเธอต้องชักสีหน้าใส่
“มองอะไร บ้าหรือไง”
“หึ...” พอได้ยินเธอว่าอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ทำแก้มป่องทันที เขาหุบยิ้มไม่ได้เลย และยิ่งเธอเม้มริมฝีปาก และยังมองเขาตาขวางแบบนี้อีก เธอ...น่ารักดี
“แล้วฉันต้องทำอะไรต่อ”
“ตามพยาบาลไปครับ...เดี๋ยวผมไปหา” เขาตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ ต่างจากเธอที่ได้ยินเขาว่าอย่างนั้นถึงกับตาโตในทันที แต่ไม่ทันที่จะได้ว่าอะไร ก็มีกลุ่มคนก่อนหน้านี้เดินออกมาจากห้องผ่าตัด ทำให้ติณณภพต้องหันไปมอง ราวกับว่ากลุ่มคนพวกนี้คุยอะไรบางอย่างกันมา พวกเขามองมาที่คุณหมอหนุ่มก่อนจะเดินจากไป เป็นสัญญาณเตือนว่าให้เขาตามไป
“ผมต้องไปแล้วล่ะครับ เจอกันอีกครั้ง...ให้ผมได้ชดเชยให้คุณนะ”
“ชดเชย?”
“เรื่องรถ”
“อ้อ ลืมมันไปเถอะ” เขาส่ายหน้า ชายหนุ่มลืมไม่ได้หรอก เขาไม่ใช่คนแบบนั้น ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด
“ไม่ดีกว่าครับ อีกอย่าง...”
“_”
“ผมอยากเจอหน้าคุณด้วย”
“เหอะ เหอะ...” น้ำชาพูดไม่ออก ราวกับกินข้าวแล้วลืมกินน้ำ ผู้ชายตรงหน้านี้...เขาช่างรู้จักพูด
“เจอกันนะครับ” ติณณภพเอ่ยพูดขึ้น โดยไม่รอให้หญิงสาวต่อว่า เขาหมุนตัวหันหลังให้เธอเพื่อไปหาผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่คาดว่ายังคงรอเขาอยู่
“อะไรของเขา...” น้ำชายกมือขึ้นเสยผมตัวเอง เธอรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา แต่ก็ต้องรีบส่ายหน้าเพื่อสลัดทุกอย่างทิ้ง ความรู้สึกบางอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักเท่าไร ขณะนั้นเองที่เธอมองเห็นรถนอนของเจมส์ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด
หญิงสาวรีบเดินตามในทันที แต่ก็ถูกแฟนสาวของคนเป็นเพื่อนเดินมาขวางทางเสียก่อน
“ฉันคิดว่าคนที่พี่เจมส์ควรเห็นคนแรกควรเป็นฉัน” น้ำชาสบตากับเธอ หญิงสาวกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย
“เธอรู้ไหม มีสิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกผิดหวังกับเพื่อน คือการที่มันโง่คบกับเธอไง” น้ำชาเหยียดยิ้ม ขณะที่หญิงสาวตรงหน้ายังคงนิ่งอึ้งอยู่ เธอตาโตให้กับการหลอกด่าของน้ำชา
“ยัยบ้า! รู้เอาไว้ว่าเธอนั่นแหละที่ทำให้พี่เจมส์ต้องเจ็บตัว!!” หญิงสาวตะโกนไล่หลังเพื่อนของคนเป็นแฟนไป เพราะความสวยและความสามารถของน้ำชาทำให้เธอเกรงกลัวว่าน้ำชาจะมาแย่งคนเป็นแฟนไปจากเธอ แน่นอนว่าน้ำชาคือศัตรูหมายเลขหนึ่งของเธอ
ขณะเดียวกันภายในห้องผู้อำนวยการ แม้จะไม่ใช่เวลาทำงาน ทว่าทันทีที่ได้รู้เรื่องของคนไข้พรีเมี่ยม ทำให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเข้ามาที่นี่ในทันที เขาเอนแผ่นหลังพิงพนักพิงเก้าอี้ทำงาน มองหน้าคนหนุ่มกว่าด้วยแววตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“ผมไม่คิดว่าคุณจะหักหน้าผมแบบนี้ ทางนั้นเห็นคุณแล้วด้วย” กฤตยชญ์ [กริด-ตะ-ยด] เอ่ยพูดขึ้น
“_”
“ถ้าคุณไม่เห็นว่าผมเป็นอาจารย์ของคุณแล้ว คุณก็น่าจะมีความรับผิดชอบบ้าง” ติณณภพเม้มริมฝีปาก อีหรอบเดิมที่ผู้อำนวยการอ้างเรื่องนี้ จริงอยู่ที่หมออาวุโสตรงหน้าเป็นอาจารย์ของเขา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาลําเลิกบุญคุณกับเขาเช่นนี้
“มันไม่ใช่เวลางานของผมครับ ถ้าปล่อยไว้อย่างนี้ผมก็ไม่ได้พักเลยนะครับ”
“แล้วตอนนี้คุณพักอยู่เหรอ หึ...หมอติณณ์ คุณไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาเลยสักนิด”
“_”
“ผมบอกแล้วไง ว่าถ้าหมอช่วยพวกเขาเท่ากับเราได้ช่วยคนอื่น” ติณณภพพ่นลมหายใจออกมา เขาส่ายหน้าเล็กน้อย
“คนอื่นที่ว่า...ผมเห็นแค่ผอ. เท่านั้นแหละที่ได้ประโยชน์ อย่าบีบบังคับผมมาก ผมไม่ใช่คนจะทนอะไรได้นาน” ติณณภพไม่สนเขาอีกต่อไป แม้ว่าบุคคลตรงหน้าจะเป็นผู้มีพระคุณ เคยสอนหนังสือให้กับเขา ทว่ายิ่งเขาเคารพมากเท่าไร อีกฝ่ายยิ่งเอาเปรียบเขามากเท่านั้น
“ขอตัวครับ” เขาว่าต่อทันทีไม่รอให้คนตรงหน้าว่าอะไร ติณณภพค้อมศีรษะให้กับอีกฝ่าย แน่นอนว่าพอพูดเรื่องนี้เป็นที่รู้กันว่าติณณภพพร้อมลาออกแน่ เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรหากว่าจะลาออก ขณะที่โรงพยาบาลนี้เดือดร้อนแน่ถ้าแพทย์เก่ง ๆ อย่างติณณภพได้ลาออกไป รายได้...ที่ไม่ได้มาจากรัฐฯจะกลายเป็นศูนย์ในทันที
นานมากแล้วที่เขาโดนกฤตยชญ์ใช้งาน มอบหมายให้ดูแลรักษาคนไข้พรีเมี่ยม ก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการคนนี้บอกกับเขาว่า ถ้าเขาดูแลรักษาคนไข้ที่บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลก็จะสามารถซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับผู้ป่วยคนอื่นได้ใช้ด้วย ทว่าจะมีประโยชน์อะไรกันเล่าหากว่ามีเครื่องมือแต่ไม่มีแพทย์เก่ง ๆ ติณณภพไม่เห็นว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้มาจะมีประโยชน์ นอกจากเงินที่เหลือจากการซื้อเข้ากระเป๋าผู้อำนวยการไปหมด
“เฮ้อออ~” เจ้าของร่างหนาพ่นลมหายใจออกมา เขากำลังจะเดินกลับทางเดิมเพื่อไปหาหญิงสาวเจ้าของรอยยิ้มสวยนั้น แต่เดินไม่ถึงไหนเขาก็พบกับเธอ
น้ำชาที่กำลังยืนกดตู้บัตรคิวให้กับคุณยายคนหนึ่งทำให้เขาชะงักฝ่าเท้า รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ติณณภพรู้สึกดีใจที่ได้พบกับเธอ ทว่าในเวลานี้...
ชายหนุ่มไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมที่เขาจะได้เจอเธอ หรือในอดีต...เขารีบร้อนเกินไป
รีบร้อนจนไม่ได้รอจังหวะที่จะได้เจอเธอคนนี้ และดูเหมือนว่ามันจะยากเกินไป กับการเริ่มต้นใหม่ในเวลานี้
...ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดายเวลาที่ผ่านมา