คนเมาถูกว่างไว้ตรงล็อบบี้ส่วนเขาพาตัวเองมาหยุดตรงหน้าเคาท์เตอร์ พนักงานสาวสวยชะงักเหลือบมองใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย ปากขยับเหมือนจะพูดแต่ดันติดในลำคอ
“ขอเช็คอินห้องว่างห้องหนึ่ง”
“เอ่อ เหลือแต่ห้องสวีทนะคะ”
กันตธรขบกราม รู้สึกหงุดหงิด “ห้องไหนก็ได้ครับ”
พนักงานรีบหยิบคีย์การ์ดส่งให้เขารับมาแล้วพาคนเมาตรงดิ่งไปยังลิฟท์ทันที ไม่อยากอยู่ตรงนี้ให้เป็นเป้าสายตาใคร ถึงห้องพักว่างร่างบางไว้บนเตียง
“ยุ่งยากชะมัดเลย ให้ตายสิ!”ชายหนุ่มบ่นอุบ แล้วยกมือเท้าเอว
แค่นี้ก็ถือว่าช่วยเหลือมากแล้ว อย่างน้อยเมริยาก็รอดพ้นจากปากเสือที่คอยจ้องขย้ำ คงต้องลากันแค่นี้หวังว่าในภายภาคหน้าคงไม่ต้องพบเจอกันอีก
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูทำคนตัวใหญ่ชะงัก หันกายหรี่ตามอง สองเท้าก้าวยาวมาหยุดส่องตาแมว เห็นพนักงาน คิ้วเข้มขมวดตัดสินใจเปิดประตู
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”ชายหนุ่มถามทันทีที่เผชิญหน้ากับชายแปลกหน้า
“คุณทำนี่ตกไว้หรือเปล่าครับ”
“อะไรเหรอ”กันตธรถามสีหน้ามึนงง
ขวดเปรย์ถูกฉีดเข้าใบหน้า กันตธรไม่ทันตั้งตัวกลิ่นหอมเอี่ยนแตะเข้าจมูก ความรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยก่อนทุกอย่างดำมืด พนักงานจำเป็นรับร่างสูงใหญ่ไว้แล้วพยุงมาถึงเตียงเห็นหญิงสาวหลับอยู่ กันตธรถูกวางลงบนฟูกหนาคู่กัน
ธีร์มองภาพนั้นด้วยความปวดร้าว สำหรับเขาเมริยาเป็นเหมือนดอกฟ้าและคนอย่างเขาไม่มีอะไรคู่ควร ยิ่งคิดยิ่งเจ็บแต่นี่คือหน้าที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และมันคือการช่วยเหลือคุณหนูให้รักษาชื่อเสียงตัวเองอีกด้วย
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ธีร์สะดุ้งรีบรุดมายืนหน้าประตูส่องมองผ่านทางตาแมว เห็นหญิงสาวหน้าตาคุ้นเคย เป็นคนของเจ้าสัว จึงเปิดประตูห้องออกมา
“เจ้าสัวให้ฉันมาช่วยค่ะ!”
ธีร์พยักหน้า “รีบเข้ามาเลยครับ”
คนของเจ้าสัวก้าวเข้ามาหยุดยืนริมเตียง แล้วช้อนมองชายหนุ่มอีกคน
“ฉันจะจัดการคุณหนูเอง ส่วนคุณจัดการด็อกเตอร์นะคะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“เจ้าสัวให้จัดฉากเหมือนสองคนมีอะไรกันน่ะค่ะ”
แววตาคนฟังไหววูบธีร์ขบกรามปรับสีหน้าตนเอง ถึงทำใจไว้แล้วแต่ทว่าหัวใจกลับไม่ยอมฟังเลย มันเจ็บขึ้นมา วันนี้เธออาจเป็นหญิงสาวแสนสวยที่ไม่มีใครครองเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว
“ก็ได้ครับ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณจัดการคุณกันตธรก่อนนะคะ ฉันจะออกไปรอตรงโซฟาด้านนอกก่อน”
“ครับ”
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ด้านนอกเรียบร้อยแล้ว บอดี้การ์ดหนุ่มหยุดยืนมองดูผู้หญิงที่ตนรักแววตาหม่นเอื้อมมือจับแก้มแผ่วเบาด้วยความรวดร้าว หากเธอไม่หลับเขาคงไม่มีโอกาสได้ทำเช่นนี้ นี่คงเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย ลุกยืนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ตัดใจกี่ครั้งไม่เคยทำได้ครั้งนี้คงจำเป็นต้องทำ
ธีร์เปลี่ยนด้านมองดูใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มผู้ร่วมเตียงกับเจ้านาย เขาสังเกตตั้งแต่ในผับผู้ชายคนนี้เป็นคนดีไม่ฉวยโอกาสเลยสักนิด เขาเชื่อว่าคุณหนูจะต้องมีความสุขมากแน่ๆ
“ขอโทษนะครับ แต่ผมจำเป็นต้องทำ คุณเมเป็นคนดีวันนี้คุณอาจจะคิดว่าคุณเมเป็นผู้หญิงใจแตก แต่หากคุณได้ทำความรู้จักกับเธอ คุณจะรักเธอเหมือนที่ผมรัก”ธีร์พึมพำแผ่วเบา แม้รู้ดีอีกฝ่ายไม่มีทางได้ยิน
บอดี้การ์ดหนุ่มจัดการกับเสื้อผ้าของกันตธรรีบร้อย ก่อนดึงผ้าห่มคลุมเพื่อกันไม่ให้คนของเจ้าสัวซึ่งเป็นหญิงได้เห็น แล้วเดินออกมาด้านนอก
“เรียบร้อยแล้วเหรอคะ”เธอถาม
“ครับ คุณจัดการได้เลย”
“ค่ะ”
เธอเดินเข้าด้านในแล้วจัดการกับเสื้อผ้าของคุณหนูตามคำสั่งเจ้านายที่ให้ไว้ โชคดีโรงแรมแห่งนี้เจ้าของคือเพื่อนสนิทของเจ้าสัวรัฐพิมุกต์ทุกอย่างเลยไม่มีปัญหา คนของเจ้าสัวจัดการใช้ผ้าห่มคลุมไว้เช่นเดียวกัน โยนเสื้อผ้าไว้ตรงพื้นเพื่อความสมจริง ยืนตรวจสอบอีกครั้งแล้วระบายลมหายใจ
ธีร์หันมอง “เรียบร้อยแล้วเหรอ”
“เรียบร้อยค่ะ เรากลับกันดีกว่า”
“ครับ”
ไม่วายชายหนุ่มยังคงห่วง ธีร์ตัดสินใจเปิดประตูมอง ด้านในทุกอย่างเรียบร้อยดีคุณหนูกำลังนอนหลับเคียงข้างกับชายหนุ่มรูปงามผู้พรั่งพร้อมด้วยทรัพย์สมบัติ ประตูปิดลงตามเดิม ดวงตาคมกริบหลุบมองพื้นกล้ำกลืนความเสียใจไว้ภายใน
“กลับกันเถอะครับ”ธีร์บอกเสียงเบาแล้วเดินนำออกไป
ภายในห้องสวีทโทนสีครีมเงียบสนิทมีเพียงเสียงลมหายใจของสองคน ผิวกายเปลือยเปล่าเย็นเฉียบจนทำให้เจ้าของร่างลุกนั่งสะบัดไล่ความมึนงง กันตธรอ้าปากหาวด้วยความเคยชินเพราะคิดว่านี่คือห้องนอนและเป็นเช้าของวันทำงาน ดวงตาเรียวคมลืมเต็มตามองทัศนียภาพภายในห้องด้วยความสงสัย เขานิ่งงันชะงักค้างคิดว่าตนอยู่ในความฝัน
สะบัดไล่ศรีษะหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้ตื่น กันตธรเม้มริมฝีปากแน่น เขาอยู่ที่ไหนกันแน่แล้วมาที่นี่ได้อย่างไร ลำดับเหตุการณ์ทุกอย่างที่ตนพบเจอ
“เช้าแล้วเหรอ?”เสียงหวานดังแว่ว
คนตัวใหญ่หลับตาแน่นภาวนาให้สิ่งที่คิดไม่เป็นความจริง ค่อยๆ หันคอเอียงมอง และแล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้
เจ้าของเสียงหวานลุกนั่งอ้าปากหาว บิดกายขับไล่ความเมื่อยโดยไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนนั้นอยู่ในสภาพเช่นใด ยกมือกุมขมับเพราะอาการปวดร้าว ครู่หนึ่งเมื่อปรับสภาพตนเองดีแล้วจึงใช้สายตามองรอบตัว เมริยานั่งแข็งเหมือนร่างกายตนไม่มีเรี่ยวแรง ไม่ใช่บ้านได้ยังไง
ยกมือขึ้นกุมขมับหาเหตุผลให้ตัวเองเหตุใดถึงไม่จบที่ห้องนอนตนเองเหมือนทุกที ที่นี่ที่ไหนมาอยู่ได้ยังไงกัน หรือเธอพลาดเสียแล้ว หันมองด้านข้างมีใครหรือเปล่าที่อยู่เคียงยามค่ำคืนที่ผ่านมา สองสายตาผสานกันเมริยาชะงักดวงตาเบิกกว้างริมฝีปากสั่นระริก
“กรี๊ด!!”
“เฮ้ย!”