เสียงประตูหน้าห้องทำงานดังขึ้นบทสนทนาจึงหยุดลงทั้งคู่หันไปมองผู้มาเยือน ชายสูงวัยเดินเข้ามาภายในห้องหยุดยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงาน ความอึดอัดบรรยากาศชวนน่าขนลุกเริ่มต้นขึ้น กันตธรกลืนน้ำลายลงคอ ไม่อยากเชื่อว่าพ่อจะมาหาเขาถึงที่นี่
“พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เกิดอะไรขึ้นธร พ่อไม่เข้าใจลูกไปทำอะไรมา”วิภาคถามบุตรชายเสียงเครียด
“มันไม่ใช่อย่างที่พ่อคิดหรอกครับ มันเป็นแค่เรื่องผิดพลาดตอนนี้ผมกับเมริยาเราตกลงกันได้แล้ว พ่อไม่ต้องห่วงหรอกครับ”
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิลูก เพราะเจ้าสัวรัฐพิมุกต์โทรมาหาพ่อเมื่อเช้านี้เขาขอให้พ่อไปพบเรื่องรูปที่โชว์อยู่ตามนิตยสารในเวลานี้”
“ผมไม่เข้าใจครับพ่อ ผมจำเป็นต้องรับผิดชอบเธอด้วยเหรอ ถ้าหากเป็นอย่างนั้นผู้ชายที่เป็นข่าวกับเธอก่อนผมก็สมควรจะรับผิดชอบมากกว่าผมไม่ใช่หรือไงครับ”ชายหนุ่มบอกเหตุผล
วิภาคครุ่นคิดกับคำพูดของบุตรชาย ความจริงฝ่ายหญิงเองก็มีข่าวมากมายกับชายอื่นนับไม่ถ้วน มีนักข่าวจับภาพเธอโอบกอดกับผู้ชายอยู่หน้าโรงแรมไม่รู้กี่ครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นภาพของบุตรชายกับเธอก็ยังชัดเจนกว่าคนอื่นอยู่ดี แต่หากบุตรชายของเขาได้แต่งงานกับเมริยาแล้วล่ะก็ธุรกิจของครอบครัวจะก้าวหน้าและได้กำไรอย่างมหาศาลเลยทีเดียว
“แต่ภาพของลูกมันชัดเจนกว่าคนอื่น หากลูกไม่รับผิดชอบเธอ เราจะเป็นขี้ปากเอาได้ และฝ่ายหญิงจะเสียหายมากกับเรื่องนี้”
“แต่พ่อครับ ผมยังไม่พร้อมจะแต่งงานตอนนี้ อีกอย่างผมไม่ได้รักเธอด้วยจะให้ผมรับผิดชอบได้ยังไง!”ชายหนุ่มรู้สึกหนักใจ
“ถ้าลูกไม่ต้องการรับผิดชอบก็ไม่เป็นไรแต่พ่ออยากให้ลูกคิดดูอีกที พ่อแค่อยากให้ลูกแสดงความเป็นลูกผู้ชาย ไม่อยากให้ลูกเป็นขี้ปากคนอื่น อย่างน้อยลูกก็แสดงให้เห็นว่าตนเองนั้นมีน้ำใจกว่าผู้ชายที่ควงเธอแล้วมองผ่านเลยไปไม่เคยคิดจะรับผิดชอบเลยสักคน”
วิภาคลุกยืนหลังจากให้ข้อคิดบุตรชายแล้วเดินออกจากห้อง กันตธรมองแผ่นหลังบิดาแล้วระบายลมหายใจออกมา ครุ่นคิดไม่รู้จะตัดสินใจเช่นไร คำพูดของบิดายิ่งทำให้เขากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แล้วจะต้องทำยังไงเขาไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากรับผิดชอบใคร ยิ่งผู้หญิงอย่างเมริยา ยังห่างไกลจากคำว่าสเป็คของเขานัก
คนตัวเล็กนั่งกัดฟันแน่น เมื่อนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับถูกโยนลงตรงหน้า แม้ว่าบิดาจะทำเช่นนี้กับเธอหลายต่อหลายครั้งแต่ครั้งนี้มันกลับแตกต่างกัน เมื่อภาพที่โชว์อยู่มันชัดเจนจนเธอไม่อาจปฏิเสธได้ แม้กระทั่งตนเองยังไม่แน่ใจเลยว่ามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาหรือเปล่า
“แกมีอะไรจะพูดไหม!”เจ้าสัวตวาดลั่น
เมริยาสะดุ้งกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนเชิดหน้าท้าทายเหมือนทุกครั้ง
“ไม่มีค่ะ”
“แกบ้าไปแล้วใช่ไหม ไม่มียางอายหรือไงครั้งนี้ฉันสุดจะทนกับแกแล้ว!”
หญิงสาวกัดฟันแน่น ต่อให้ด่าทอรุนแรงกว่านี้เธอก็ยอม หากมันทำให้พ่อต้องเจ็บปวด
“แล้วพ่อจะเอายังไง จะไล่เมออกจากบ้านหรือเปล่าล่ะคะ”คนเป็นลูกย้อนถามเสียงสั่น
“ทำผิดแล้วยังจะมายอกย้อนฉันอีกหรือยัยเม ไม่คิดจะสำนึกเลยหรือไงกัน!”
“แล้วจะให้เมทำยังไงในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เมก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อย!”
รัฐพิมุกต์จ้องมองบุตรสาว ในเมื่อเรื่องราวมันเลยเถิดมาถึงขึ้น เขาจะจัดการขั้นเด็ดขาดลูกสาวตัวดีจะได้ไม่ต้องเตร็ดเตร่เที่ยวกลางคืนสร้างความเสื่อมเสียอีก
“แกต้องแต่งงานกับด็อกเตอร์กันตธร”เจ้าสัวโพลงออกมา
“อะไรนะ! ไม่มีวันเมไม่แต่งกับเขาเด็ดขาด!”
“แกไม่ต้องมาปฏิเสธอะไรทั้งนั้น พรุ่งนี้ฉันจะพาแกไปพบพ่อแม่ของด็อกเตอร์กันตธรที่บ้านของเขา ฉันนัดพวกเขาไว้แล้ว”
“เมไม่ไปค่ะ ยังไงก็ไม่ไปเด็ดขาดพ่อไม่มีสิทธิ์มาบังคับเมแบบนี้!”หญิงสาวตะโกนลั่นออกมา
“แกไม่มีสิทธิ์มาเถียงฉันยัยเม ฉันปล่อยแกมามากแล้ว ดีแต่สร้างเรื่องให้อับอายขายหน้าได้ทุกวัน หากแกไม่ยอมทำตามที่ฉันสั่งคราวนี้ฉันจะไม่เหลียวแลแม่แกอีกเลย ฉันจะไม่ส่งเงินสักแดงไปให้แม่แก แกเลือกเอายัยเมว่าแกจะเอายังไง!”
“ทำไมพ่อทำแบบนี้ ทำไมต้องเอาแม่มาขู่เมด้วย ทำไม!”หญิงสาวสะอื้นออกมา
เจ้าสัวสาวเท้าเข้าหาบุตรสาว เขาจำเป็นต้องทำเช่นนี้ไม่อยากให้ลูกต้องเสื่อมเสียไปมากกว่านี้ เขาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำแต่เขามีเหตุผลที่ให้บุตรสาวไปพบกับแม่ที่แท้จริงไม่ได้
หญิงสาวสะอื้นไม่อยากจะเชื่อว่าบิดาจะใช้แม่มาต่อรองกับเรื่องนี้ เธอไม่อยากแต่งงานกับเขา เขาทั้งหยาบคายไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ จะแต่งกันได้ยังไง และที่สำคัญเราสองคนไม่ได้รักกันเลย
ไหล่มนถูกจับไว้แน่นแล้วบีบ เจ้าสัวกันฟันแน่น หนทางนี้ดีที่สุดแล้ว
“พรุ่งนี้แกต้องไปกับพ่อยัยเม ไม่มีขอต่อรองอะไรทั้งนั้นจำไว้”คนเป็นพ่อบอกแล้วเอามือออกจากไหล่ สาวเท้าห่างออกมาเพื่อให้เวลาลูกได้ครุ่นคิดและตัดสินใจ
หญิงสาวยืนก้มหน้าหลุบตามองพื้นเพื่อแอบซ่อนน้ำตาเอาไว้ บิดาทำร้ายจิตใจเธอมากเหลือเกินในคราวนี้ ก็ได้หากต้องการเช่นนั้น หากนี่มันจะทำให้แม่ยังได้รับการช่วยเหลือต่อไป
เพียงดาราก้าวเข้ามายืนเคียงข้างเพราะต้องการปลอบประโลมลูกเลี้ยง แต่เมื่อสายตาเมริยาสอดผสาน เห็นความเกลียดชังในนั้นเธอเลยต้องถอยห่างออกมา
“หนูเมไม่เป็นอะไรใช่ไหม เจ้าสัวคงยังโกรธอยู่ ไว้ใจเย็นค่อยขอท่านอีกทีนะคะ”เพียงดาราบอกเสียงแผ่ว
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของฉัน!”
แม่เลี้ยงเงียบกริบไม่กล้าพูดอะไรอีก เมริยาตวัดสายตามองอีกครั้งแล้วเร่งก้าวขึ้นห้องนอน เวลานี้เธอเจออะไรนักหนาเหลือเกินจนล้าทั้งร่างกายและหัวใจ