“หลายครั้งแล้วนะ” เสียงเข้มคาดโทษ เกือบแล้ว เกือบไปแล้ว มือหนาลงมาหยุดบนสะโพกนุ่มหยุ่นกลมกลึงแบบพอดิบพอดี ตั้งใจตบลงเบาๆ เนิบๆ ขู่คาดโทษให้เธอรู้ตัวเหมือนน้ำเสียง เขาคงจะทำได้หรอกนะ ถ้าใจแข็งพอ ไม่แพ้ทางให้กับสายตาออดอ้อนทั้งน่าสงสารน่าทะนุถนอมที่มองกันตาแป๋วๆ อยู่นั่น หมดกัน คุณหมอคีรพัทธ์ลอบถอนหายใจ ดีแล้วที่ตอนต่อเฉพาะทางแพทย์เขาเลือกเรียนเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ไม่ใช่หมอเด็ก ก็ไม่รู้จะแพ้ทางเด็กดื้อทุกคน เหมือนเด็กดื้อที่อยู่ตรงหน้าคนนี้หรือเปล่า “เดี๋ยวเถอะ ถ้าไม่ขุนตัวเองให้น้ำหนักขึ้นมา เดี๋ยวผมกลับจากต่างประเทศคราวหน้าจะมาเช็ค ถ้าไม่ดีขึ้น เป็นโรคกระเพาะขึ้นมาจะจับนอนโรงพยาบาลให้หายซ่าส์เลย” เขาขู่ ตามด้วยฝ่ามือหนาที่ตีลงบนสะโพกขาวเนียนแต่ไม่แรงมาก แค่พอรู้สึกเจ็บแปลบๆ นิดหนึ่งมากกว่า วรฐิสาร้อง ‘อุ้ย’ เพราะความเจ็บบวกไม่ทันตั้งตัว ก่อนจมูกโด่งจะไล่พรมจุมพิตไปตามแก้มนวล แล้วหยุดลงที่ปาก