และหลังจากวันที่ถูกลักพาตัวมา เรเชลกับอีรอนก็เหมือนตกอยู่ในห้วงเสน่หาของกันและกัน เมื่อเธอกับเขาดันเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาอึดเธอเองก็ไม่ยอมแพ้ ทั้งสองเฝ้ามอบประสบการณ์รักอันสุดลึกล้ำให้แก่กันในทุกครั้งที่เกิดความต้องการเลยก็ว่าได้
“ฉันคิดว่าคงต้องกลับไปทำงานแล้ว และอีกอย่าง โทรศัพท์ของฉันล่ะ ขอหน่อยได้ไหม”
และตอนนี้เธอกับเขาก็อยู่ด้วยกันเข้าอาทิตย์ที่สองแล้วทำให้เรเชลอดคิดไปถึงงานของเธอไม่ได้เพราะเธอไม่เคยหยุดทำงานนานขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ที่ทำงานของเธอคงพากันวุ่นวายไปหมดแล้ว
“หือ? ผมไม่ได้บอกเหรอว่าผมลักพาตัวคุณมา แล้วโทรศัพท์น่ะ ผมทิ้งไปตั้งแต่วันแรกแล้ว”
“อะไรนะ!? คุณทิ้งไปได้ยังไง รู้ไหมว่าข้อมูลในนั้นมันสำคัญกับฉันมาก ทิ้งไว้ตรงไหนไปเอามาเดี๋ยวนี้!!”
“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้จำ”
“นี่คุณ!!...”
เรเชลถึงกับหัวเสียเมื่อรู้ว่าเขาทิ้งโทรศัพท์ของเธอไปแล้วทั้งๆที่ในนั้นเธอเก็บข้อมูลและรหัสสำคัญต่างๆเอาไว้มากมายเพราะถึงแม้ว่าเธอจะมีไอคิวสูงลิบลิ่วแต่สิ่งเดียวที่เธอไม่เคยใช้สมองให้เป็นประโยชน์เลยคือการจดจำรหัสต่างๆนี่แหละ
ส่วนอีรอนได้แต่มองตามร่างบางที่โกรธจนเดินหนีหายออกจากห้องนั่งเล่นไป ก่อนเขาจะเดินเข้าไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบเอาโทรศัพท์ของเธอออกมา เพราะเขาปิดเครื่องเอาไว้และเก็บไว้ตรงนี้ ถ้าเธอรู้จักค้นบ้างเธอคงเจอมันไปแล้ว ก่อนเขาจะเก็บมันเอาไว้ที่เดิมเพราะไม่อยากให้เธอติดต่อใคร
“อีตาบ้า! ลักพาตัวบ้าบออะไรกัน”
เรเชลเดินออกมานั่งที่หน้าหาดแล้วหันมองซ้ายมองขวาเผื่อจะมีคนผ่านมาบ้างแต่กลับไร้ร่องรอยหรือแม้แต่เงาของคนอื่น
“ที่นี่มันที่ไหนกันแน่ ทำไมถึงไม่มีคนผ่านมาเลยเนี่ย”
เธอบ่นก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไปตามชายหาดเผื่อว่าเขาโกหกที่บอกว่าทั้งเกาะมีแค่เขากับเธอ เรเชลเดินไปเรื่อยๆและพบว่าเกาะนี้ยิ่งได้เห็นยิ่งสวย ทุกอย่างถูกธรรมชาติสร้างขึ้นมาจริงๆเหรอ? ทำไมมันดูสวยลงตัวไปหมด และกว่าจะรู้ตัวเรเชลก็เดินลึกเข้ามาจนหาทางกลับไม่ถูกเสียแล้ว
“ทำไงดีล่ะ อีตาบ้าเอ้ย หลงจนได้”
เรเชลมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินกลับตามทางเดิมซึ่งยังมีรอยเท้าที่เธอเดินมา และยังเดินกลับได้ไม่เท่าไหร่ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาเหมือนฟ้ารั่ว เธอรีบวิ่งหาที่หลบและยังดีที่มีโขดหินให้หลบฝน
“หนาวจัง...เพราะอีตานั่นคนเดียวเลย”
เรเชลเริ่มคิดว่าไม่น่าเดินออกจากบ้านพักมาเลย เมื่อดันหลงป่าแถมมาเจอฝนตกอีก ส่วนคนต้นปัญหา ตอนนี้กำลังยืนมองฝนที่ตกลงมาอย่างเริ่มคิดหนักเมื่อเธอหายออกไปจากบ้านพักได้พักใหญ่ๆแล้วยังไม่กลับมาอีก
“ไปไหน? ไม่ใช่ว่ายน้ำหนีไปแล้วหรอกนะ? อ้อ เธอว่ายน้ำไม่เป็นนี่ โกรธถึงขนาดไม่ยอมกลับมาเลยเหรอ สงสัยจะสำคัญมาก”
เขาตัดสินใจเดินออกจากบ้านพักไปกับร่มคันใหญ่ ด้วยที่นี่เป็นเกาะ ถ้าไม่ฝนตกก็แดดออก มีแค่สองอย่าง
อีรอนเดินไปจนทั่วแต่ก็ไม่เจอเรเชล ก่อนเขาจะเริ่มเดินลึกเข้าไปในป่าบนเขา เพราะคิดว่าเธออาจหลงเข้าไป
“คุณ!! นี่คุณ!!!...ไปไหน...คุณ!!!...”
เขาพยายามตะโกนเรียกแต่ด้วยฝนก็ยังตกเลยแทบไม่ดังเท่าที่ต้องการ ตอนนี้อีรอนเริ่มกังวลแล้วว่าเธออาจเกิดอันตราย จากเดินเขาก็เริ่มวิ่ง เมื่อเกาะนี้ก็ไม่ใช่เล็กๆที่พอจะใช้เวลาไม่นานก็เจอ เขาทั้งวิ่งทั้งตะโกนเรียกเธอไปด้วยแต่ดูท่าจะไร้วี่แวว
“คุณ!!...ชิส์! หาให้ตายไปเลยไป อีตาโรคจิต”
เรเชลที่ได้ยินเสียงเขาตะโกนเรียกรู้สึกดีใจแต่กลับเปลี่ยนใจที่จะไม่วิ่งออกไปหาเขา เพราะถ้าเกิดเธอหายตัวไปจริงๆเขาคงให้คนออกตามหาและถ้าเธอแกล้งป่วยเธอจะถูกส่งไปตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แค่นั้นเธอก็หนีเขาได้แล้ว หญิงสาวผู้ชาญฉลาดกลับเข้าไปนั่งใต้หินผาอีกครั้ง
ส่วนอีรอน พอเริ่มเหนื่อยเขาก็เริ่มคิดหนักว่าคนแบบเรเชลจะไปหลบฝนอยู่ที่ไหนได้เมื่อทั้งเกาะก็มีแค่ต้นไม้กับก้อนหินใหญ่บนภูเขา เขาเลยตัดสินใจเดินหาตามโขดหินแทน และพอเขาเดินไปเรื่อยๆเขาก็เห็นว่าเธอนั่งกอดเข่าอยู่ใต้โขดหินจริงๆ
“ผมเรียกคอแทบแตก ไม่ตอบรับห๊ะ!”
เขาตะคอกถามอย่างโมโหเพราะเป็นห่วงเธอแทบบ้า
“อ่าว ก็ฝนตก ไม่ได้ยิน...และฉันก็หนาว ป่วยแล้วด้วย”
“ใครบอกให้ออกมาที่นี่ล่ะ คุณนี่มันน่า...”
“พูดมาก...จะออกมาตามทำไมเล่า!”
อีรอนมองเรเชลด้วยสายตาโกรธจัดเมื่อเธอดูไม่ได้สะทกสะท้านกับอาการร้อนรนของเขาเลยสักนิด ดูเหมือนเธอไม่ได้อยากให้เขาหาเธอเจอด้วยซ้ำ
“ดึกกว่านี้จะมีงู หมีขาว เสือ สิงโต สารพัดสัตว์มีพิษที่ผมให้คนเอามาปล่อยเพราะกะจะให้เป็นสวนสัตว์ธรรมชาติ ถ้าผมไม่เจอคุณ คุณได้ตายเป็นศพไร้ญาติอยู่ที่นี่แน่นอน!”
“ห๊ะ! คุณจะทำบ้าอะไรแบบนั้น! ที่นี่น่ะสวยไม่เหมาะกับสัตว์พวกนั้นหรอก เสียดายจริงๆ”
ปากบ่นแต่ก็รีบลุกเดินมาหาเขา เพราะดันกลัวจะถูกสัตว์ป่าทำร้ายเอา ส่วนอีรอนพอหลอกเธอได้สำเร็จเขาก็พาเธอเดินกลับไปที่บ้านพัก แต่ยิ่งเดินเขากลับรู้สึกว่ายิ่งไกลขึ้นเรื่อยๆ...หรือว่าเขาจะพาเธอหลงเข้าเสียแล้ว
“คุณ...ฉันปวดขาแล้วนะ...ฉันเดินหลงมาไกลขนาดนี้เลยเหรอ?...”
เรเชลหยุดเดินด้วยความเหนื่อยแล้วถามออกมา เมื่อเดินตั้งแต่ฝนตกยันฝนหยุดตกแล้วก็ยังไม่ถึงสักที
“คือว่า...ผมหลงน่ะ”
“ห๊ะ!? หลง!! ไหนว่านี่เกาะคุณไง หลงได้ไงกัน! แล้วเกิดมืดก่อน แล้วมีสัตว์ แล้ว...”
“นี่ๆๆๆ ใจเย็นก่อน มีผมคุณจะกลัวอะไร”
“ก็เพราะมีคุณนั่นแหละถึงกลัว”
เรเชลบอกออกมาก่อนจะเป็นคนเดินนำเขา เมื่อเขาดันพาเธอหลงทางอีกรอบเสียอย่างนั้น และสุดท้ายทั้งสองก็หลงทางจนกลับที่พักไม่ถูก ต้องหาที่หลบภัยเวลากลางคืนกันแทน
“โธ่ เลิกโกรธผมได้แล้วน่า ก็ผมไม่เคยเดินรอบเกาะ อยู่ก็แค่บ้านพัก”
อีรอนบอกขอโทษออกมาเมื่อเรเชลไม่ยอมพูดยอมจากับเขา เพราะโกรธที่เขาพาหลงป่าจนกลับกันไม่ถูก ทั้งสองพากันหาใบไม้มาปูเป็นที่นอนในถ้ำเล็กๆที่เจอตอนเดินหาทางออกเลยคิดจะแวะพักกันที่นี่เพราะเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ออกมาไม่รู้จักเอาเสื้อหนาๆมา ใส่มาทำไมเสื้อกล้าม”
เรเชลบ่น เมื่ออากาศเริ่มหนาวแต่ทั้งตัวไม่ได้มีเสื้อผ้าหนาๆกันเลย
“ผมมีวิธีทำให้อุ่น...”
“พอเลย คิดแต่เรื่องลามก”
เรเชลล้มตัวลงนอนบนเสื่อใบไม้แล้วหันหลังให้เขา วันนี้เธอโกรธเขาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ส่วนอีรอน นี่เองก็เป็นครั้งแรกที่เขาถูกโกรธแถมยังต้องมาติดกลางป่าขนาดนี้ ชีวิตเขาสุขสบายจนแทบไม่ต้องทำอะไรหรือใช้กำลัง แค่เอ่ยปากทุกอย่างก็แทบมาวางไว้ตรงหน้าเขาแล้ว วันนี้เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อย เบื่อ หรือรำคาญเลย แต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขกับสิ่งที่เจอเสียอีก เพราะเขาซื้อเกาะนี้มาด้วยราคาที่สูงลิบลิ่วแต่กลับไม่เคยรู้เลยว่ามันใหญ่ขนาดไหนและมีอะไรในเกาะนี้บ้าง เพราะปกติถ้าเขามาก็แค่พักผ่อนไม่กี่วันก็กลับเลยไม่คิดสนใจอะไรมากมาย
อีรอนค่อยๆล้มตัวลงนอน ก่อนจะเอื้อมมือไปกอดร่างเล็กของเธอ
ปึก!
“อุ๊ก! เจ็บนะ...อื้อ ผู้หญิงป่าเถื่อน...”
แต่ยังกอดไม่เท่าไหร่ ศอกเล็กก็กระทุ้งเข้าเต็มๆกล้ามท้องของเขาจนอีรอนรีบยกแขนออก
หมับ!!!
“นี่!! ไม่ต้องมากอดเลยนะ...”
อีรอนกอดเธออีกรอบแต่ครั้งนี้เขากอดแน่นเพราะกลัวเธอกระทุ้งศอกอีกและเธอก็พยายามทำมันจริงๆแต่ไม่สำเร็จเลยเลิกดิ้น ปล่อยให้เขาได้กอด
“เอาน่า เดี๋ยวหนาวตายนะ”
เขากระซิบบอกพร้อมกับกดหน้าไปดอมดมกลิ่นหอมจากกายสาว ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเมื่อรู้สึกได้ถึงลมหายใจอันสม่ำเสมอของเธอ
“อะไรยังหาไม่เจออีกเหรอ? แล้วสัญญาณจีพีเอสที่ฉันเคยให้ล่ะ ไม่มีสัญญาณเลยรึไง?”
ทางด้านเพชรภีระกว่าอาทิตย์แล้วที่ยังหาพี่สาวของเขาไม่เจอ เขาเลยแทบอยู่เฉยไม่ได้
“ครับ เราหาคุณเรเชลไม่เจอเลย ไม่มีแม้กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ของเธอ...เอ่อ ผมว่าบางทีคุณเรเชลอาจ...”
คนปลายสายรายงายออกมาตามความจริง เมื่อพยายามตรวจจับทุกสัญญาณที่สามารถทำได้ก็ไม่พบเบาะแสของเรเชล
“ฉันไม่สนว่าต้องใช้คนเท่าไหร่หรือเงินมากแค่ไหน 3 วัน ฉันให้เวลาอีก 3 วัน ถ้าไม่เจอฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่”
เพชรภีระสั่งออกมาอย่างเด็ดขาด ก่อนจะกดวางสายไป
“เอ่อ บอสคะ เรนนี่มีเรื่องจะรายงานค่ะ...นี่เป็นชื่อร้านอาหารที่คุณเรเชลไปเจอเพื่อนมา...บางทีอาจได้เบาะแสของเธอจากที่นั่น”
เรนนี่ที่พึ่งนึกออกรีบเอาชื่อร้านอาหารที่เธอเป็นคนโทรจองให้กับเจ้านายสาวเข้ามายื่นให้เพชรภีระ ก่อนที่เขาจะรีบหยิบมันมาดูและก็กดโทรออกให้เลขาคนสนิทเข้ามาหาทันที
“นี่ที่อยู่ล่าสุดของเรเชล ไปหาข้อมูลมาให้ละเอียด จ่ายเท่าไหร่ก็ได้ขอให้ได้มันมา”
“ครับ”
พอเลขาเดินออกไป เพชรภีระก็พิงพนักเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ เพราะพึ่งประชุมเสร็จก็ต้องมานั่งคิดเรื่องการหายเงียบไปของเรเชลอีก เมื่อคำสัญญาเดียวในชีวิตของเขาคือต้องดูแลพี่สาวของเขาจากอันตรายทั้งหมดแท้ๆ แต่เพราะเขาเอาแต่ชะล่าใจว่าเธอฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดเลยไม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถ้าเกิดบิดามารดารู้เข้ามีหวังได้ร้อนอกร้อนใจบินมาที่นี่กันอย่างแน่นอน