ลูกสาวพ่อเลี้ยงสิงห์

1676 Words
ไร่พ่อเลี้ยงสิงห์ นายดินขับรถกระบะสีดำประจำตำแหน่งเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านของพ่อเลี้ยงสิงห์ พลันยกข้อมือขึ้นมองนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว เขาเพิ่งรู้ราวหนึ่งชั่วโมงก่อน ว่าบุตรสาวเจ้าของไร่กลับมาจากอังกฤษตั้งแต่เมื่อวาน ตอนที่มีคนไปเชิญให้มาร่วมรับประทานมื้อค่ำเพื่อเป็นการต้อนรับหญิงสาวนั่นเอง "พี่ดิน ลงมาสิจ๊ะ" สร้อย สาวใช้วัยละอ่อนเดินมาเคาะกระจกรถของเขา ทั้งยังฉีกยิ้มกว้างเพราะพึงใจในความหล่อเหลาของหัวหน้าคนงานหนุ่มมาตั้งแต่หล่อนแตกเนื้อสาว นายดินยังคงมีสีหน้าราบเรียบ เขาไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหน แม้คนที่พยายามเข้าหาจะเป็นสาวน้อยสาวใหญ่ สาวใช้หรือสาวสังคมที่มีชื่อเสียงก็ตาม ร่างสูงราวหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรก้าวลงจากรถ เป็นจังหวะที่พ่อเลี้ยงสิงห์และพ่อเลี้ยงธาราเดินออกมาต้อนรับพอดี สร้อยจึงรีบเดินกลับเข้าไปในบ้าน "สวัสดีครับ พ่อเลี้ยงสิงห์ พ่อเลี้ยงธารา" ดินเอ่ยทักทายเจ้านาย "ยายสร้อยยังไม่เลิกมาเกาะแกะอีกเหรอนายดิน" พ่อเลี้ยงสิงห์ถามเมื่อเห็นสาวใช้ของตนรีบร้อนเดินออกไป "ก็อย่างที่เห็นล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น" เสียงตอบฟังดูเหนื่อยหน่าย ไม่บ่อยนักที่เจ้านายจะถามเรื่องพวกนี้ แต่ต่อให้ถามสักกี่ครั้งก็ยังคงเป็นคำตอบเดิม "พูดถึงเรื่องสาวๆ นายไม่คิดจะแต่งงานสร้างครอบครัวบ้างเลยหรือยังไงกัน ตั้งแต่ที่นายมาอยู่ที่นี่สี่ปี ฉันไม่เคยเห็นนายมีผู้หญิงคนไหนเลยแม้แต่คนเดียว" พ่อเลี้ยงสิงห์แปลกใจ เพราะมันจะมีผู้ชายสักกี่คนบนโลกที่ไม่ขวนขวายหาเรื่องพวกนี้ "ผมยังไม่ได้คิดครับพ่อเลี้ยง" นายดินยังคงตอบคำถามน้ำเสียงเช่นเดิม "ก็เอาเถอะ ถ้าอยากมีก็อย่าปิดกั้นตัวเอง อยากได้ใครเป็นเมียก็บอก ฉันจะเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอให้ มานี่ มานั่งดื่มชากันหน้าบ้าน รออาหารเย็นเสร็จค่อยเข้าไปทานพร้อมกัน คิดไม่ถึงเลยว่าปีนี้จะหนาวขนาดนี้ ที่บ้านพักเป็นยังไงบ้าง ขาดเหลืออะไรหรือเปล่า?" พ่อเลี้ยงสิงห์ถามลูกน้องคนโปรดด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเฉกเช่นทุกครั้งที่พบกัน "ไม่ขาดเหลืออะไรหรอกครับพ่อเลี้ยง อีกอย่างผมก็รู้สึกชินแล้วก็ชอบอากาศเย็นๆ แบบนี้มากกว่าอากาศร้อน" นายดินตอบเสียงถ่อมเนื้อถ่อมตัวลง เขาพูดคุยเรื่องอื่นได้เสมอ ยกเว้นเรื่องความรักที่ไม่ชอบพูดกับใครมากนัก "พ่อเลี้ยงสิงห์โชคดีจังเลยนะครับที่มีนายดินคอยดูแลฟาร์มม้าให้ แล้วไหนจะยังหาเวลามาดูแลไร่ในส่วนอื่นๆ ให้อีกด้วย ผมอยากจะมีลูกน้องเก่งๆ แบบนี้สักคนสองคน สงสัยคงต้องมาปรึกษาพ่อเลี้ยงสิงห์บ้างแล้วล่ะครับ" พ่อเลี้ยงธาราชวนคุย ระหว่างที่ทั้งสามนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สำหรับรับแขกบริเวณสวนหน้าบ้าน "จะหาแบบนายดินให้ได้สักคนสองคนไม่ใช่เรื่องง่าย คงต้องลำบากหน่อยแล้วล่ะพ่อเลี้ยงธารา" นายสิงห์พูดติดตลก ดินได้แต่คลี่ยิ้มกับคำชมระหว่างฟังเจ้านายทั้งสองคนพูดคุยกัน "อ้อ ที่ฉันเชิญนายมาทานข้าวเย็นด้วยกันวันนี้เพราะว่าอยากแนะนำให้รู้จักลูกสาวคนโตของฉัน แล้วก็จะบอกให้นายดินรู้ด้วยว่าหนูสาจะมาดูแลงานในส่วนของฟาร์มม้า แต่ว่านายดินก็ยังคงเป็นหัวหน้าคนงานเหมือนเดิม แค่ช่วยสอนงานให้หนูสา แล้วก็ให้เธอหัดทำอะไรที่จำเป็นต้องทำ" พ่อเลี้ยงสิงห์อธิบายเหตุผลหลักที่เชิญมาวันนี้ นายดินขมวดคิ้วแปลกใจ เขารู้สึกสังหรณ์ใจประหลาดเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานละมุนของหญิงสาวที่ไปที่ไร่เมื่อเช้านี้ "ครับ แล้วผมต้องเรียกเธอว่าคุณหนูสาใช่ไหมครับ?" "แบบนั้นคงไม่ดีหรอกมั้ง ส่วนมากจะเป็นพ่อแม่หรือคนสนิทจริงๆ ที่เรียกเขาว่าหนูสา เพื่อนเขาก็เรียกสาเฉยๆ บางคนก็เรียกสาลิน ก็แล้วแต่นายดินจะสะดวกเรียก แต่ถ้าจะให้ดีก็ถามเจ้าตัวเอาเองว่าอยากให้เรียกว่าอะไร" "ครับ" นายดินรับคำสั้นๆ ทำให้พ่อเลี้ยงธาราสังเกตเห็นถึงความกังวลภายใต้สีหน้าราบเรียบ เพราะเมื่อเช้าศสาลินออกไปที่ฟาร์มม้า สองคนนี้คงได้พบกันบ้างแล้ว พ่อเลี้ยงสิงห์เองก็รู้สึกแปลกใจต่อท่าทางกังวลของนายดินเช่นเดียวกัน "หนูสาเป็นเด็กน่ารัก เข้ากับคนง่าย แกเป็นเด็กอารมณ์ดีแล้วก็นิสัยดีมากด้วย เพราะฉะนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก" ผู้เป็นบิดาพูดถึงบุตรสาวด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ เพราะศสาลินป็นเด็กดีโดยเนื้อแท้มาแต่ไหนแต่ไร "คุยอะไรกันอยู่คะหนุ่มๆ เมาชากันแล้วมั้งคะเนี่ย" เสียงหวานละมุนหูของแม่เลี้ยงรสาดังขึ้น นางโปรยยิ้มมายังสามีหนุ่มรวมถึงดินและพ่อเลี้ยงธาราด้วย แม้อายุจะล่วงเลยเข้าสู่วัยสี่สิบสี่กะรัต ทว่ากลับแลดูอ่อนเยาว์ ใบหน้ายังคงความงดงามเปล่งปลั่งไม่ต่างจากบุตรสาวมากนัก "ไม่เคยเมาชาแต่ยังคงเมารักอยู่ทุกวันครับ" พ่อเลี้ยงสิงห์หยอดคำหวานต่อภรรยา สร้างเสียงหัวเราะร่าจากหนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี "พูดอะไรไม่อายลูกหลานเลยนะคะ อาหารพร้อมแล้วค่ะ เชิญทุกคนเข้าไปร่วมรับประทานมื้อเย็นด้วยกันนะคะ" นางเอ่ยเชื้อเชิญ ทั้งสามคนจึงลุกขึ้นและเดินเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร สำรับงดงามถูกจัดเรียงรายอยู่บนโต๊ะตระการตา "ว้าว ผมอยู่บ้านทุกวันคุณแม่ไม่เห็นทำอาหารเยอะแยะขนาดนี้เลยครับ พอพี่หนูสากลับมาก็ทำอาหารอย่างกับเลี้ยงคนทั้งไร่" สิงหาบุตรชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงสิงห์และแม่เลี้ยงรสาเอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีกวาดสายตามองอาหารบนโต๊ะด้วยรอยยิ้ม "ก็วันนี้มีทั้งพ่อเลี้ยงธาราแล้วก็นายดินมาทานมื้อเย็นด้วย เป็นการต้อนรับพี่สาวเรากลับมาแค่วันเดียวเองจะมาน้อยอกน้อยใจอะไร ปกติอยู่บ้านแม่ก็ทำแต่ของอร่อยให้ทานทุกวัน" คุณรสาเดินมาโอบกอดบุตรชายด้วยความรัก จากนั้นทุกคนจึงนั่งลงประจำที่ พ่อเลี้ยงสิงห์นั่งหัวโต๊ะ ขวามือของเขามีพ่อเลี้ยงธาราและนายดินนั่งถัดมา อีกฝั่งหนึ่งแม่เลี้ยงรสานั่งถัดจากสามีซึ่งตรงข้ามกับพ่อเลี้ยงธารา สิงหาเว้นที่ว่างติดกับมารดาให้พี่สาว ซึ่งเป็นที่ตรงข้ามกับนายดินนั่นเอง "อ้าว แล้วหนูสาไปไหนล่ะคะเนี่ย" รสรินเอ่ยขึ้นระหว่างเดินมานั่งประจำที่ของตนเองพร้อมกับเขม พลางกวาดสายตามองหาหลานสาวจอมซน "อีกหน่อยคงออกมาแล้วค่ะพี่รส" รสาบอกด้วยรอยยิ้ม "คุณหนูสาล้างมืออยู่ค่ะ เมื่อครู่ช่วยป้าตักอาหารแล้วบังเอิญทำแกงหกเลอะมือน่ะค่ะ" ป้าคำนาง แม่บ้านคนเก่าแก่เอ่ยขึ้น "ขอโทษค่ะที่หนูสามาช้า" เสียงใสดังขึ้นระหว่างที่กำลังเดินก้มหน้าก้มตาเพราะเกรงว่ามารดาจะดุเอา ร่างเล็กเดินมานั่งลงตรงเก้าอี้ของตนเอง ก่อนจะสังเกตเห็นว่าบุรุษที่นั่งอยู่ตรงข้ามตนนั้นคือนายดิน "นายดิน..." เธอพึมพำชื่อเขา ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจ ไม่เห็นมีใครบอกเลยว่าจะเชิญหัวหน้าคนงานที่ฟาร์มม้ามาร่วมรับประทานมื้อเย็นด้วย ในขณะที่นายดินเอาแต่นั่งหน้านิ่งและจ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความโกรธเคือง ศสาลินคิดว่าตนควรจะรู้สึกสาแก่ใจมากกว่านี้หากนายคนป่าเถื่อนรู้ว่าตนเป็นใคร ทว่าวินาทีนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย "พ่อจะแนะนำให้รู้จักกันนะ นี่นายดินเป็นหัวหน้าคนงานที่ฟาร์มม้า เขาคนนี้แหละที่จะเป็นคนสอนหนูทำงาน รู้จักกันไว้ซะสิ นายดิน นี่หนูสาลูกสาวคนโตของฉันเอง" พ่อเลี้ยงสิงห์แนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ "สวัสดีครับคุณหนูสา" เสียงทักทายนั้นแสนเย็นชา ถึงแม้ว่าตอนนี้นายดินจะรู้แล้วว่าตนเป็นใคร แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีต่างไปจากเดิม ทุกคนบนโต๊ะอาหารไม่มีใครสนใจท่าทางแข็งกระด้างของชายหนุ่ม คงเป็นเพราะอนุภาคบางอย่างที่ส่งผ่านสายตาของแหลมคมออกมา และมีเพียงคนโกหกคำโตเท่านั้นที่สามารถสัมผัสได้ "สวัสดีนายดิน ยินดีที่ได้รู้จักนะ พรุ่งนี้ฉันจะออกไปที่ไร่ แล้วเจอกัน" เธอฝืนยิ้มทักทายชายหนุ่มกลับไปตามมารยาท "ผมคิดว่าสองคนเจอกันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วซะอีก เมื่อเช้าผมแวะไปที่ฟาร์มม้าแล้วเจอหนูสาที่นั่น" พ่อเลี้ยงธาราพูดแทรกขึ้นเพื่อทำลายสายตาแข็งกร้าวของทั้งคู่ที่กำลังจ้องมองกันอยู่ "หนูสาโดนพ่อดุไปแล้ว เมื่อเช้าบอกว่าให้รอออกไปที่ฟาร์มม้าพร้อมกันก็ไม่รอ แถมพอกลับมาแล้วก็บอกว่าไม่อยากออกไปที่ไร่อีก" พ่อเลี้ยงสิงห์มองไปยังบุตรสาวที่บางครั้งก็ดื้อรั้น "พรุ่งนี้ค่อยไปก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่คะคุณพ่อ ทานมื้อเย็นกันดีกว่านะคะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเอา" ศสาลินรีบตัดบท เพราะไม่อยากให้ใครถามเรื่องของตนและนายดินไปมากกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD