“เป็นอะไรเบบี๋ มายืนเงียบ ๆ ทำหน้าอย่างกับคนอกหัก”
“อือ...อิงอกหัก”
“อกหัก?”
“ค่ะ...ฮึก!”
“อิง ร้องไห้ทำ...”
หมับ!
“อิงเจ็บพี่เวย์ อิงโคตรเจ็บเลย ฮื่อ ๆๆ”
“ใครทำเบบี๋ของพี่อกหักในวันเกิดตัวเอง สนใจจะบอกไหม เดี๋ยวไปกระทืบมันให้”
“ฮึก! ไม่เอา”
“หึ ๆๆ ท่าทางจะชอบมันมากใช่ไหมเรา” ผมขำยัยเบบี๋ที่กำลังร้องไห้ซุกอกผมแน่น ไม่รู้รองพื้นเลอะเสื้อผมแล้วรึยัง
“ไม่ชอบจะร้องรึไงคะ ฮื่อ ๆๆ”
“ใครมันกล้าหักอกเบบี๋ของพี่วะ แต่งตัวจัดเต็มขนาดนี้กล้ามองข้ามคุณหนูอิงได้ยังไง” ผมพูดกลั้วขำเพราะเห็นมาตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนตอนนี้เข้ามหาลัยแล้ว ไม่เคยได้ยินข่าวว่าไปรักไปชอบใครสักคน แต่ที่แน่ ๆ คนที่หักอกเธอน่าจะอยู่ในปาร์ตี้คืนนี้แน่นอน
“ไม่ต้องรู้หรอก รู้แค่อิงอกหักก็พอ ฮื่อ~” น้ำอิงกอดผมแน่นกว่าเดิมแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“เบบี๋เอ้ย~” ผมไม่รู้จะปลอบยังไงก็เลยได้แค่ยืนให้เด็กน้อยกอดแล้วก็ร้องไห้ปล่อยโฮจนน้ำตาซึมผ่านเสื้อเข้ามาโดนผิว มือข้างหนึ่งก็ขยี้ผมเธอเบา ๆ
“ฮึก! ผมอิงจะเสียงทรง” เสียงอู้อี้ของคนที่เอาหน้าซุกอกพูดขึ้นทำให้ผมอดขำไม่ได้
“ให้มันเสียบ้างเถอะน่า” ผมบอกแล้วก็ขยี้ผมเธอมากกว่าเดิม จากนั้นก็ปล่อยให้เธอร้องไห้ออกมาจนกระทั่งพอใจน้ำอิงก็เป็นฝ่ายผละออกไปเอง
“หน้าอิงเลอะไหมพี่เวย์” พอผละออกก็ซับน้ำตาตัวเองเบา ๆ ถามผมแล้วก็ทำปากจู๋เหมือนเด็กขี้แย
“ไม่เลอะ พี่ว่าช่างน่าจะอัดมาหนาเลยนะนั่น”
เพี้ยะ!
“เดี๋ยวเถอะ” ทำหน้างอนแล้วครับ ระดับความงอนคงเยอะพอสมควรเพราะฟาดอกผมแรงมาก
“หึ ๆๆ ร้องไห้เยอะแล้วสบายใจบ้างรึยังเรา”
“ไม่อ่ะ เจ็บเหมือนเดิม”
“เดี๋ยวมันก็ผ่านไป หัดอกหักซะบ้างไม่ใช่ไปหักแต่อกคนอื่นเขา”
“อิงไม่เคยเรียกใครเข้ามาหาแล้วหักอก เขาเข้ามาแล้วเขาก็อกหักกันเองทั้งนั้น”
“เหมือนที่เราเข้าไปหาคน ๆ หนึ่ง แล้วก็อกหักเองใช่ไหม” ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋าคุยกับยัยเด็กน้อยสบาย ๆ พอผมถามน้ำอิงก็เบะปากทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง
“ฮึก!”
“อย่า ฮึ๊บไว้เลย ห้ามร้องมาคุยกันก่อน”
“ใครจะรู้ว่าชอบคนไหนแล้วจะไม่อกหัก ถ้ารู้ตั้งแต่แรกไม่เดินเข้าไปชอบหรอกค่ะ”
“ก็ใช่ไง แต่เดินเข้าไปแล้วไม่สมหวังก็เดินออกมา แค่ชอบเองยังไม่ได้ถึงขั้นคบแล้วเลิกกันสักหน่อย ยังไม่เสียอะไรเลย แล้วทำไมต้องเสียน้ำตาล่ะอิง”
“...มันก็จริง”
“ไม่ต้องร้อง ตาแดงแล้วเห็นไหม วันนี้มีคนที่รักอิงมาหาอิงเยอะแยะแต่อิงหนีทุกคนมาร้องไห้เพราะผู้ชายที่ไม่ได้รักอิงแค่คนเดียวนี่เหรอ ไม่เห็นยุติธรรมกับอีกหลาย ๆ คนเลย” ผมปาดน้ำตาให้เบบี๋ของผมช้า ๆ พร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดู
ผมเห็นมาตั้งแต่เป็นแค่เด็กน้อยมัธยมต้น จนตอนนี้โตเป็นสาวสะพรั่งแถมยังเซ็กซี่มากด้วย แต่นั่นสำหรับสายตาคนอื่น เพราะสำหรับผมน้ำอิงก็ยังเป็นเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ คนนั้นอยู่วันยังค่ำ
“พี่เวย์พูดซะอิงรู้สึกผิดเลยค่ะ”
“หึ ๆๆ ไม่ต้องรู้สึกผิด เดินหน้าไปสนุกกับทุกคนก็พอ”
“ตกลงหน้าไม่เลอะใช่ไหมคะ”
“ไม่เลอะครับ”
“แน่นะพี่เวย์ยิ่งชอบแกล้งอิงอยู่ด้วย” น้ำอิงมองผมด้วยสายตาไม่ไว้ใจ ทำหน้าหงิกหน้างอใส่อีกต่างหาก ผมก็เลยก้มลงให้หน้าผมอยู่ระดับเดียวกันกับหน้าเธอแล้ววางมือลงบนหัวของเธอ
“เอาตาพี่เป็นกระจก ถ้าแกล้งพี่อดขำไม่ได้หรอก” ผมพูดจบก็จ้องหน้ากับน้ำอิง จ้องอยู่พักใหญ่จนน้ำอิงขำออกมา
“ฮ่า ๆๆ พี่เวย์จะทำตาเหล่ใส่ทำไมเล่า”
“ก็หน้าเราตอนร้องไห้มันขี้เหร่ พี่อยากให้ยิ้ม เวลายิ้มน่ารักกว่าเยอะเลย ยิ้มซะ ใครรักก็ช่างมัน เรามีเวลาหาคนที่เป็นของเราอีกตั้งเยอะ”
“นี่ใช่พี่เวย์ตัวจริงรึเปล่าคะ พูดจาแบบนี้เป็นด้วย”
“ทำไมล่ะ พี่ดูพูดจาไม่น่าเชื่อถือรึไง” ผมขำเพราะเธอมองหน้าผมอย่างกับผมเป็นใครอีกคน
“ก็พี่เวย์เพลย์บอยจะตาย ไม่น่าเชื่อว่าจะพูดคำว่าคนที่เป็นของเราเป็นกับเขาด้วย”
“หึ ๆๆ รู้อะไรไหมอิง ถึงพี่จะดูเพลย์บอยมากในสาบตาใครต่อใครแต่พี่ก็มองหาคนที่เป็นของพี่เหมือนกันนะ ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่ที่เข้ามามันยังไม่ใช่สักคน ไม่ใช่ก็ไม่รู้จะฝืนทำไม”
“นี่คือคุณเวย์ตัวจริงใช่ไหมเนี่ย”
“ตัวจริงสิ หล่อขนาดนี้ไม่ใช่ได้ยังไง เป็นไง อารมณ์ดีขึ้นรึยัง”
“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว ขอบคุณนะคะพี่เวย์”
“ดีแล้ว อิงก็น้องพี่ พี่ไม่อยากให้เบบี๋ของพี่ร้องไห้เพราะผู้ชายคนไหนหรอกนะ”
“อิงก็ไม่อยากให้พี่เวย์ไปทำผู้หญิงที่ไหนร้องไห้เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะเพื่อนอิง”
“หึ ๆๆ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเลย พี่จะไม่ยุ่งกับเพื่อนอิงอีกแล้วไม่ว่าจะสวยอึ๋มแค่ไหนก็ตามพี่สาบาน”
“แน่นะคะ” น้ำอิงจ้องผมเขม็งเลยครับ ก็เพื่อนเธอมีแต่คนสวย ๆ นี่ ไม่แปลกที่จะไม่ไว้ใจคำพูดของผม
“แน่สิคะ เพราะพี่รำคาญมาก~ รำคาญตอนอิงด่าพี่”
“...พี่เวย์!”
“หึ ๆๆ แบบนี้เลยเบบี๋ เสียงนี้แหละโคตรน่ารำคาญเลย”
“พี่...โอ้ย! กวนประสาทที่สุดเลย! ญาติดีกันได้ไม่เคยเกินสิบนาทีเลยนะ ชอบยั่วโมโหอิงตลอดเลย!”
“...แต่อย่างน้อยพี่ก็ไม่เคยทำให้อิงร้องไห้ก็แล้วกัน”