เย่ปิงฉาง

1018 Words
เย่ปิงฉาง วันต่อมา ท่านแม่ทัพหานสือเสวี่ยนได้พาคุณหนูเย่ปิงฉาง ญาติห่างๆ ของฮ่องเฮาที่มาจากต่างเมือง เดิมชมตลาดในตัวเมือง “ท่านแม่ทัพข้าขอบคุณท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่าของท่านพาข้ามาเดินเที่ยวเล่นนะเจ้าคะ” “มิเป็นอันใดหรอกข้าเต็มใจขอรับ” เย่ปิงฉางได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกหัวใจเต้นแรง ท่านแม่ทัพหานสือเสวี่ยนนั้นโด่งดังด้านการรบวรยุทธแถมยังรูปร่างหน้าตางดงามราวกับภาพวาด ใครเห็นต่างก็ชื่นชมนางไม่คิดเลยว่าจะได้เจอตัวเป็นๆ เช่นนี้ หากแต่งเข้าไปเป็นสนมก็ยอม “คุณ…คุณหนูขอรับ?” “อ๊ะ! ขออภัยเจ้าค่ะ ท่านว่าอย่างไรนะเจ้าคะ?” “ถึงโรงเตี๊ยมแล้วขอรับ” หญิงสาวมองดูตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปข้างใน โรงเตี๊ยมแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยไม่แพ้วังหลวง ก่อนทั้งสองจะเดินขึ้นไปชั้นสองของร้านที่จองเอาไว้ล่วงหน้า ทางด้านของหวังซูเหยา ตื่นเช้ามาก็ไม่พบเขาแล้ว ได้ยินว่าออกไปตั้งแต่เช้า นางเองก็ชินแล้วแหละ ก่อนจะรีบแต่งตัวเดินทางไปยังตลาดในเมืองเพื่อซื้อข้าวของเตรียมเดินทางไปเยี่ยมนายท่านผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าที่เมืองลั่วหยางทางใต้ นั่งรถม้าไม่กี่นาทีก็ถึงตลาดในตัวเมือง หวังซูเหยาหันมองหันซ้ายหันขวาด้วยความตื่นตาตื่นใจ นางตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพราะว่ามิได้ออกจากจวนมานานแล้ว ร้านค้าตั้งเรียงกันยาวไปจนสุดสายตา แม่ค้าพ่อค้าเอ่ยตะโกนเรียกลูกค้าเสียงตีกันจนฟังไม่รู้เรื่อง ผู้คนเดินขวักไขว่กันไปมามองแล้วชวนให้ลายตาอยู่บ้าง ก่อนที่หญิงสาวจะเดินตรงไปยังร้านเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องประดับหวังซูเหยาที่กำลังเลือกมองดูเสื้อผ้าอย่างสนอกสนใจก็ได้หันไปตามเสียงเรียกของเถ้าแก่ร้าน “ยินดีต้อนรับขอรับ” เสียงเถ้าแก่เอ่ยต้อนรับลูกค้าที่เข้ามาใหม่ “คุณหนูท่านนี้มิทราบว่าต้องการหาอันใดอยู่หรือไม่ขอรับ” หลี่ซูได้หันไปตามเสียงเรียก แน่ล่ะสิไม่มีผู้ใดรับรู้ว่าตัวนางเป็นใครเพราะว่าท่านแม่ทัพหานสือเสวี่ยนมิเคยพานางออกงานเลยแม้แต่น้อยและให้นางอยู่แต่ในจวน แม้แต่งานแต่งก็จัดแบบเงียบๆ มีแค่บางคนเท่านั้นที่รู้ว่านางเป็นฮูหยิน นึกแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดข้างใน “เรียนเถ้าแก่ข้าอยากได้ผ้าไหมสีขาวท่านพอจะมีให้ข้าหรือไม่ อ๊ะข้าขอสีแดงสดด้วยนะเจ้าคะ” “ได้ขอรับวันนี้สีขาวและสีแดงสดตามที่ท่านต้องการเข้ามาพอดีเชิญคุณหนูทางนี้เถิดขอรับ” เถ้าแก่พลางชี้มือนำทางให้หญิงสาวเดินตามมา หนึ่งชั่วยามต่อมา... “ประเดี๋ยวข้าจะส่งของทั้งหมดนี้ไปให้คุณหนู เช่นนั้นไว้มาร้านข้าอีกนะขอรับ ครั้งหน้าข้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ” เถ้าแก่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจ คุณหนูผู้นี้ไม่ได้ซื้อแค่พวกผ้าไหมเท่านั้นแต่ยังซื้อพวกเครื่องประดับและเสื้อผ้าไปหลายชุดอีกด้วย เขาไม่ค่อยเจอลูกค้าที่ซื้อของมากมายเช่นนี้แล้วไม่ต่อราคาแบบคุณหนูผู้นี้มาก่อนไม่รู้ว่านางนั้นมาจากตระกูลใดมิเคยเห็นหน้าค่าตาของนางมาก่อน “ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะให้คนมารับของไปเอง” เถ้าแก่ร้านเดินออกมาส่งหญิงสาวถึงหน้าร้านด้วยความเป็นมิตรก่อนที่จะเดินกลับเข้าร้านไป ผ้าทั้งหมดที่นางได้ซื้อมันมากะว่าจะมาตัดเย็บเป็นเสื้อคลุม ให้กับฮูหยินผู้เฒ่าและพระชายาฟางหรูแห่งจวนชินอ๋องที่เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ๆ ของนางคนหนึ่ง ร่างบางพลางคิดในใจแล้วเดินตามทางไปเรื่อยๆ พร้อมกับมองบรรยากาศโดยรอบดูคึกครื้นเสียจริงไม่ทันที่นางจะมองทางข้างหน้าก็ได้เดินไปชนกับใครคนหนึ่งเข้าทำให้ร่างกายของนางเซล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง “โอ๊ยย!!” “ท่านเป็นอะไรหรือไม่?” ร่างบางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็พบกับคนที่นางไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่กับสตรีอื่น “ท่านแม่ทัพ…” คนตัวเล็กเอ่ยเรียกขึ้นเสียงเบา ก่อนที่แม่ทัพหานสือเสวี่ยนจะไม่สนใจมือหนาคว้าแขนคุณหนูปิงฉางขึ้นมาจากพื้น หวังซูเหยาที่เห็นภาพเช่นนี้ก็รู้สึกปวดใจ และคิดว่าหากเป็นเขาที่ยื่นมือเข้ามาช่วยนางขึ้นมามันคงจะรู้สึกดีไม่น้อยก่อนจะค่อยๆ ดันตัวเองให้ลุกขึ้น “เป็นอันใดหรือไม่?” หันไปถามสตรีข้างๆ ก่อนที่เย่ปิงฉางจะส่ายหน้าออกมาด้วยรอยยิ้ม “เอ่อขอโทษด้วยเจ้าคะข้าเพียงคิดอะไรเพลินๆ โดยมิทันมองทางข้างหน้า” หวังซูเหยาเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิดก่อนที่เย่ปิงฉางจะยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไร พร้อมหันไปมองบุรุษข้างกายที่ดูเงียบไป สายตาของเขากำลังจ้องมองไปที่สตรีตรงหน้าอย่างไม่ลดละ “เอ่อท่านแม่ทัพรู้จักแม่นางท่านนี้ด้วยหรือเจ้าคะ” หานสือเสวี่ยนไม่ตอบเพียงมองหวังซูเหยานิ่งๆ “คุณหนูเย่พวกเราไปซื้อของกันเถอะประเดี๋ยวคนจะเยอะกว่านี้” แม้ว่านางอยากจะเอ่ยถามออกไปอีกรอบแค่ก็กลัวว่าแม่ทัพผู้นี้จะรำคาญจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจ “เอ่อเจ้าค่ะ” หวังซูเหยามองภาพบุรุษและสตรีทั้งสองคนเดินจากไปในใจก็รู้สึกถึงความต่ำต้อยอย่างรุนแรงโถมทะลักออกมาจากเบื้องลึกของจิตใจ เขาคงอายที่แต่งงานกับคนเช่นนางสินะ **********
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD