จวนชินอ๋อง

1250 Words
จวนชินอ๋อง วันนี้หวังซูเหยาตั้งใจที่จะไปหาพระชายาฟางหรูแห่งจวนชินอ๋อง เพราะว่ามีจดหมายส่งตรงมาว่าขอพบนาง เมื่ออาทิตย์ก่อนและถือโอกาสมอบของขวัญครบรอบแต่งงานของพระชายาด้วย เป็นชุดชั้นในสีแดงสดที่นางเป็นคนทำขึ้นเอง “รถม้าเตรียมพร้อมแล้วขอรับ” เสียงพ่อบ้านเฉินเอ่ยขึ้นมาหน้าประตู หญิงสาวลอบมองไปที่กระจกก่อนที่จะพอใจในรูปลักษณ์ของตนในยามนี้ “'ไปกันเถิดประเดี๋ยวจะสายเอาได้” วันนี้นางพาแค่สาวรับใช้คนสนิทคนเดียวไปเท่านั้นมิได้เอาใครไปอีก ส่วนเรื่องท่านแม่ทัพจะทราบหรือไม่นางได้ฝากบอกแค่พ่อบ้านเฉินเอาไว้เพียงเท่านั้น ไม่ว่านางจะเป็นตายร้ายดียังไงเขาก็มิเคยสนใจอยู่แล้ว รถม้าเคลื่อนที่ออกเดินทางไปยังจวนชินอ๋องแล้วไม่ลืมที่จะนำจดหมายติดตัวมาด้วย เพื่อที่จะเอาไว้ยืนยันก่อนที่จะผ่านประตูเข้าไปภายในจวน เพราะในจวนชินอ๋องเคร่งครัดเรื่องการเข้าออกอย่างมาก ใช้เวลาไม่นานก็ถึงจุดหมาย จวนชินอ๋องยังดูสง่างดงามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “ฮูหยินหานถึงแล้วเจ้าค่ะ'' สาวรับใช้เอ่ยออกมาพร้อมกับพยุงตัวหญิงสาวให้เดินลงจากรถม้าอย่างระมัดระวัง “เรียนท่านฮูหยิน บ่าวคือสาวรับใช้ส่วนตัวของพระชายาโปรดตามมาทางนี้เถิดเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนก็ได้เดินตามสาวรับใช้ไปพร้อมกับมองไปยังบริเวณโดยรอบที่ประดับประดาไปด้วยสิ่งของเครื่องใช้โบราณที่ถูกรักษาเอาไว้อย่างดี มองตรงไปที่นอกหน้าต่างก็เป็นต้นดอกบ๊วยที่กำลังผลิดอกและส่งกลิ่นหอมตามสายลมอ่อนๆ พัดโชยมา “ถึงแล้วเจ้าค่ะ” พอถึงจุดหมายสาวรับใช้ก็ได้เอ่ยบอกหญิงสาวก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปด้านใน ''ฮูหยินหานมาถึงแล้วเพคะ'' สาวรับใช้ตะโกนออกมาทำให้ หวังซูเหยาได้มองไปยังบริเวณข้างหน้า ยามนี้นางเห็นสตรีคนหนึ่งกำลังวิ่งตรงเข้ามาด้วยใบหน้าดีใจ “เหยาเหยา!” ก่อนที่จะมีเสียงทุ้มตามหลังดังออกมา “ฟางเอ๋อร์เจ้าอย่าวิ่งได้หรือไม่” ชินอ๋องเอ่ยเสียงดุๆ พร้อมส่งสายตาเป็นห่วงไปยังหญิงสาวที่ตนรัก หวังซูเหยาได้ยินเช่นนี้ก็ได้รีบปรับสถานการณ์ของตนเองอย่างรวดเร็วคนที่วิ่งมากอดนางก็คือพระชายาอีกคนที่ตะโกนตามหลังมานั้นก็คือท่านชินอ๋อง ถึงแม้ว่าจะตกใจไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้เพราะมิเจอกันมาหลายเดือน หญิงสาวจึงได้รีบทำความเคารพทันที “เจ้าไม่ต้องมากพิธีหรอก พวกเราคนกันเองทั้งนั้นมาเถิดตามข้ามาเร็วเข้า” พระชายาฟางหรูรีบดึงแขนหญิงสาวให้ตามตัวเองมาอย่างรีบร้อนก่อนที่จะไปหยุดที่โต๊ะคล้ายว่าจะเป็นโต๊ะทานข้าวส่วนตัว โต๊ะเป็นวงกลมมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณสี่ตัว “เหยาเหยาเจ้ารีบนั่งเร็วเข้า วันนี้ข้าสั่งให้หัวหน้าพ่อครัวทำของโปรดเจ้าทั้งนั้นเลยนะลองดูสิ” เอ่ยบอกหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเอ็นดู นางรักเด็กสาวผู้นี้เสมือนดั่งน้องสาวแท้ๆ ของนางคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ มันรู้สึกถูกชะตาอย่างไรก็บอกมิถูกเช่นกันตั้งแต่ได้พบเมื่อห้าปีก่อน “เอ่อ...ขอพระทัยเพคะ” ก่อนที่หวังซูเหยาจะรับรู้การถูกจ้องมองจึงได้คีบอาหารเข้าปากเล็กอย่างรวดเร็ว “.....” “เป็นอย่างไรบ้างเหยาเหยาอร่อยหรือไม่” พระชายาเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้มและความคาดหวัง ชินอ๋องที่เห็นท่าทางของสตรีที่รักแล้วลอบมองไปที่เด็กสาวผู้นี้ท่าทางกระอักกระอ่วนจนเห็นได้ชัดจึงหลุดขำออกมา พระชายาที่ได้ยินเสียงหัวเราะจึงได้ส่งสายตาดุๆ ไปให้เขาก่อนที่จะปรับสีหน้าแล้วมองมาที่เด็กสาวข้างหน้าด้วยรอยยิ้ม ชินอ๋องเห็นสายตาเช่นนี้จึงได้แต่นั่งคอตก หวังซูเหยานางที่เห็นเช่นนี้จึงยิ้มออกมา “อร่อยมากเพคะ” หญิงสาวที่พอใจกับคำตอบของเด็กสาวแล้วจึงค่อยๆ เอ่ยถามออกไปว่า “ช่วงนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเหยาเหยา” นางรับรู้ถึงสถานะการณ์ในจวนของเด็กสาวผู้นี้แม้ว่าอยากจะช่วยเหลือแต่นางเองที่ปฏิเสธแล้วบอกว่าไม่เป็นไรมาโดยตลอด หวังซูเหยาที่ได้เห็นสายตาเป็นห่วงของสตรีตรงหน้าจึงตอบออกไปด้วยรอยยิ้ม เพื่อไม่ให้เป็นห่วงนางมากจนเกินไป “หม่อมฉันสบายดีเพคะ^^” เอ่ยตอบออกไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะหยิบของที่นางนั้นได้เอามาฝากพระชายาออกมา “หม่อมฉันมีของมาฝากด้วยเพคะ แต่ว่า...” หวังซูเหยาทำสีหน้าลำบากใจที่จะหยิบออกมาจนพระชายาฟางหรูนั้นรู้สึกได้จึงได้เอ่ยไล่ชินอ๋องนั้นออกไปก่อน “ท่านพี่ออกไปก่อนเพคะน้องจะคุยกับเหยาเหยาแค่สองคน” “แต่ว่าพี่อยากอยู่กับเจ้า...” ไม่พลายส่งสายตาอ้อนวอนไปให้สตรีที่รัก ก่อนที่จะได้รับสายตาดุๆ ส่งกลับมาแทนจนเขานั้นต้องยอมเดินคอตกออกไปอย่างน่าสงสาร นางตกใจมากไม่คิดว่าความจริงแล้วท่านชินอ๋องผู้นี้จะเป็นคนกลัวเมียและเชื่อฟังถึงขั้นนี้เลย! ฟางหรูที่ได้เห็นหญิงสาวทำหน้าตาตกใจเช่นนั้นจึงได้รีบเอ่ยออกไปอย่างติดตลกว่า “ฮ่าๆๆ เป็นเรื่องปกตินะเจ้าอย่างได้ใส่ใจ” “เอ่อเพคะ!” ก่อนจะหยิบเอาชุดที่นางตัดเอาไว้ออกมาให้พระชายานั้นได้ดู เป็นชุดชั้นในสีแดงบางประดับไปด้วยลวดลายสีทองสวยงาม “นี่มันคือสิ่งใดกันหรือ” มือเรียวหยิบขึ้นมาดูก่อนที่จะเอ่ยถามหญิงสาวออกไปด้วยความสงสัยแต่ก็สนใจมิน้อย “มันคือชุดชั้นในที่หม่อมฉันเป็นคนทำมาเองเพคะ” “ชุดชั้นในหรือ แต่เหตุใดมันถึงดูรูปร่างแปลกๆ” เพราะมันดูบางมากกว่าที่จะเป็นชุดชั้นในนี่สิ “เพคะ หม่อมฉันตัดมันมาให้พระชายาเป็นของขวัญครบรอบแต่งงาน” “ขอบใจเจ้ามากแล้วข้าควรจะใส่มันเช่นไรหรือ?” “ใส่เข้านอนเพคะ” พระชายาหน้าแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัดนางมิเคยใส่ชุดโชว์เนื้อหนังแบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย “มันจะดีหรือ” หวังซูเหยาลอบมองไปที่คนข้างหน้าที่ตอนนี้กำลังลังเล “มันจะทำให้ท่านชินอ๋องหลงท่านมากกว่าเดิมก็ได้นะเพคะ” ลอบมองไปที่เด็กสาวที่บ่นพึมพำออกมาอย่างหน้าตาเฉยทำให้นางนั้นตีไปที่แขนเล็กๆ เข้าทีหนึ่งอย่างมันเขี้ยว เวลาที่เราสองคนอยู่ด้วยกันมักจะคุยเรื่องเช่นนี้เป็นปกติ “เจ้ามันเด็กแก่แดด ได้เช่นนั้นวันนี้ข้าจะลองใส่ดูก็แล้วกัน ผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าจะส่งจดหมายไปหาเจ้าดีหรือไม่” “เพคะ^^” ได้ยินเช่นนั้นก็ได้อมยิ้มออกมา นางมิได้เป็นตัวเองเช่นนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ หากกลับไปที่จวนก็ต้องเปลี่ยนเป็นฮูหยินที่นิ่งขรึมแบบนั้นอีก… *********
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD