Chapter 5

1899 Words
Chapter 5 เสียงก้องตรงบันไดหนีไฟนี้คงจะมีแค่เสียงของเธอ... หลายวันแล้วที่ต้องใจแข็งไล่คนเคยนอนเคียงข้างกอดกัน หนุนนอนแขนแข็ง ๆ แทนหมอน พูดคุยกันได้ทุกเรื่องไร้สาระ เสียงหัวเราะคิกคักของหล่อนยังดังอยู่โสตประสาท อาบน้ำด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน พัสกรไม่ต่างจากผู้ชายตัวโต ๆ แต่กลับทำตัวไม่แมน เหมือนไม่ใช่คนด้วยซ้ำไป! “ไอ้พัด... มึง... อย่ากลับมาอีกละกัน... ฮือ!” หลายนานที่พร่ำด่าทอสาวหล่อวัยสามสิบปีว่าใจร้ายเท่าไร จู่ ๆ ดวงตาคู่สวยก็กลอกไปมา พยายามกดเสียงตัวเองให้เงียบลง... ตึง... ตึง ๆ.. ตึง! ทางหนีไฟอาจมีเสียงคนเดิน สำหรับผู้พักอาศัยบางคนที่ขี้เกียจรอลิฟต์หรือช่างซ่อมมาทำงาน นับเป็นเรื่องปกติ... ทว่าวันหยุดแล้วจะไม่มีใครนอกจากเธอ เร็วกว่าความคิด ร่างบางลุกพรวดขึ้นไปเกาะราวบันไดมองไปทางข้างล่าง ทางวนเวียนละลานตา ไม่มีใครนี่... อันนาเกือบจะกลับไปนั่งที่เดิม ทว่าทันใดนั้นเอง ความรู้สึกเย็นวาบสัมผัสเข้าบนศีรษะของเธอจนต้องเงยหน้าขึ้นมอง... หยดน้ำ...? คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมือแตะหน้าผากลากผ่านมัน แบออกกว้างเพื่อดู น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่คนกลัวผี ถึงหนังสยองขวัญชวนขนลุกสักเรื่องจะปรากฏภาพเป็นฉาก ๆ ราวกับว่าในหัวสมองของเธอเป็นม้วนฟิล์ม “ใครน่ะ!?” ถามดัง สองขาด้วยรองเท้าส้นเตี้ยก้าววิ่งไปตามทาง เป็นวงกลมและก็เพิ่งจะเห็นหลังไว ๆ ที่ลับหายไป มือเปิดประตูตามในอีกชั้นหนึ่งส่ายคอมองซ้ายขวา... นั่นใคร!? เป็นโชคดีที่คลาดกันกับหญิงสาวได้พอดิบพอดี หลังจากที่เขายอมทนร้อนแอบมองเธอได้สักพักผ่านกระจกบานเล็ก ๆ ของประตู มือกระตุกเสื้อเชิ้ตให้เข้าที่ ปาดเม็ดเหงื่อจากหน้าผาก ร่างสูงก้าวฉับ ๆ เดินไปในอีกฝั่งหนึ่งของคอนโดมิเนียมใหญ่โต มีลิฟต์มากกว่าหนึ่งตัว ตึกยังเชื่อมต่อกันด้วยสวนหย่อมกว้างขวาง รอยยิ้มมุมปากปรากฏบนวงหน้าหล่อเหลา พร้อมกับแผนการหนึ่งที่เขาแน่ใจว่าจะใช้มันต่อรองกับเธอได้ ฮึ! อันนา... คราวนี้พี่ไม่ปล่อยเธอไปแน่! “พวกยูสองคน...! บอกว่าไอเจอพี่อิฐเป็นพรหมลิขิตแป๊ะซะอะไรวะ ใช้สมองส่วนไหนคิดเนี่ย” เสียงประท้วงโวยวายดังเสียจนลูกค้าโต๊ะข้างกันยังต้องหันมอง สาวสวยลูกครึ่งไทย-อังกฤษคือนับดาว ไลลา นั่งอยู่ในฝั่งตรงข้ามกับอันนาที่เป็นลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่จบโรงเรียนนานาชาติย่านชานเมืองนนทบุรี จนเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเรียนที่เดียวกัน ถึงวันนี้ต่างคนจะแยกย้ายไปทำงานคนละที่กลางเมืองกรุง ไม่ไกลจากกันมากนักจึงนัดเม้าส์มอยกันได้บ่อย ๆ ตามร้านกาแฟ ยิ่งเวลาที่มีปัญหา ส่วนใหญ่มักเป็นของปัญหาอันนา... “หรือว่าจะเป็นแผนของพ่อแม่ยูวะอัน?” ไลลาถามขึ้นมา บางครั้งพวกหล่อนพูดไทยคำอังกฤษคำเป็นเรื่องปกติสังคมเด็กนานาชาติ “ไอว่าไม่... ฝีมือบ้านนั้นมากกว่า คุณพ่อคุณแม่พี่หมอเขาอยากได้อันนาเป็นลูกสะใภ้อยู่แล้วจะเป็นใครไปได้” นับดาวกำลังนึกถึงบ้านคุณหมอรูปหล่อพ่อรวย หล่อนจิบกาแฟเย็นพอชุ่มคอก่อนจะออกความเห็นในทางสนับสนุน “พี่หมอยูก็ออกจะดีนะ โปรไฟล์เพรียบพร้อม เบ้าหน้าดีเลิศ ดีกว่าผัวทอมอ่ะ เลือกผิดเลือกใหม่เหอะ... ขอเลย” “เออ... เลิกเอาอีทอมเจ้าชู้ เลิกกับมันไปได้ละ กลับไปคบกับพี่อิฐ ไม่ก็อยู่โสด ๆ สวย ๆ รวยเพื่อนไป ไอหวังดีนะ ถึงได้เตือนเพื่อน” ความรักบางทีมันก็คงจะห้ามกันยาก อันนาก้มหน้าลงมองพื้นที่ว่างบนโต๊ะ นึกถึงวงหน้าหล่อเหลาเย็นชา คนอย่างเขาไม่เคยเห็นใครสายตา! “ไม่อ่ะ ไม่เอา... I’m not Okay with him...” ในท่าทางเอาแต่ใจด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียว ไลลากับนับดาวรู้ทุกเรื่องของเพื่อน วันที่ทั้งสองครอบครัวปรองดองกัน พวกหล่อนยังไปเป็นพยานงานหมั้นหมาย “ถ้าคุณพ่อคุณแม่พี่หมอเกิดทวงเงินค่าสินสอดทองหมั้นเมื่อสิบปีที่แล้วขึ้นมาล่ะ ยูจะทำไง? มีปัญญาหามาเฉ่งเรอะ...” “You told them that you were ok with it... หาเรื่องบ่ายเบี่ยงไม่ได้นะ ยูพูดเองจำได้เปล่า?” นับดาวประท้วงด้วยอีกคน หญิงสาวก้มหน้างุด ๆ เบะปากพอได้มีคนทักเรื่องเงิน! งานหมั้นหมายตอนอันนาอายุสิบห้า ครองภพเพิ่งเรียนจบเป็นนายแพทย์ใหม่ ๆ อายุย่างเข้ายี่สิบหกปี บ้านเวลเนอร์ล้มละลายค่อยมาเริ่มทำธุรกิจในเมืองไทยจนตั้งตัวได้ มีเหรอว่าเงินก้อนนั้นมันจะยังอยู่ หัวสมองพลันนึกถึงคุณหมอหนุ่มที่ทำร้ายเธอเอาไว้อย่างเจ็บแสบ แววตาคู่สวยสลดเศร้าฉายประกายเกรี้ยวกราดขึ้นมา “ไอตัดสินใจไปแล้วป่ะตอนบอกเลิกพี่เขาอ่ะ ไม่เห็นมีใครว่าอะไร แล้วนี่... พวกยูเคยเจอคนที่แบบ... ปล่อยให้เส้นก๋วยเตี๋ยวอืดแล้วกินมันหลังจากนั้นอีกสามสิบนาทีมะ ลูกค้าต่อคิวยาวแค่ไหน พี่แกก็ไม่สน พี่ก้มหน้าก้มตาทำงานตลอดเวลา จนไออิ่มแล้วแกยังไม่เลิกกดหุ้น กดงานในมือถือ กดมันเข้าไปอ่ะ” สองสาวมองหน้ากันนิ่งอึ้งกับเรื่องที่เคยได้ยินมา อันนาย้ำด้วยท่าทีเป็นตัวของตัวเองเต็มเปี่ยม ขณะทุบฝ่ามือเล็กลงบนโต๊ะ “พูดจริง! ไม่ใช่แค่เส้นก๋วยเตี๋ยวนะ ราเมน ก๋วยจั๊บ ถ้าพี่เกิดงานเข้า สวมวิญญาณนักธุรกิจพันล้านขึ้นมา... อืด! จนแทบทะลักออกจากถ้วย แล้วแกกินหน้าตาเฉยมาก ส่วนตัวไอคือต้องนั่งรอเมื่อยก้นไปหมด... Life style ของพี่แกไม่มีอะไรไอเลยสักอย่างเดียว” นับดาวส่ายหน้าไปมา “พี่เขาเป็นคนเงียบ ๆ แสดงออกไม่เก่งมากกว่า พวกไอสองคนเห็นสายตาพี่อิฐมองยู พอยูมองกลับ เขาชอบทำเป็นมองไปทางอื่น” “yehh That’s him... ไม่เหมือนไอ้พัดมันชอบนอกใจยูจะตาย ติดโรคมาแล้วยังไม่ซึ้งอีกเหรอวะ? ต้องเป็นเอดส์ตายก่อนเหรอ” “ผู้หญิงที่ไหนตีฉิ่งแล้วเป็นเอดส์ อีบ้า...!” “ไว้ไอจะถามพี่หมอ คอยดูเหอะ... แต่ไอขอให้เลิก ไม่งั้นพวกไอสองคนนี่แหละจะเลิกคบกับยูแทน!” ไลลาย้ำชัดหนักแน่น ก่อนที่จะลดระดับเสียงลงด้วยไม่อยากให้ใครมาสนใจพวกหล่อนมากนัก ด้วยหน้าตาสะสวยและเสื้อผ้า... ไลลา นับดาวเป็นคนขี้ร้อนก็บ่นว่าอยากใส่สายเดี่ยวหรือเสื้อกล้ามกางเกงยีนส์ มีเสื้อคลุมเล็ก ๆ ตัวไม่ให้น่าเกลียดจนเกินไปในสังคมคนไทย ไม่เหมือนอันนาที่แต่งตัวคนละสไตล์หากว่าเป็นวันหยุด วันนี้อันนาอยู่ในชุดคุณหนูเรียบหรูดูดีด้วยเดรสสีแดงเสื้อระบายงานซีทรู เผยให้เห็นต้นแขนและเนินอกขาวเนียน กระโปรงประเข่าออกแนวเด็กมัธยมน่ารัก ๆ ใส ๆ ทั้งที่ปีนี้อายุย่างเข้ายี่สิบหกปีแล้ว ไปไหนมาไหน ดวงตาสุกใสกลมโตรับวงหน้าเรียวไข่ และความขาวสวยอึ๋ม! ในแบบสาวลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ หนุ่มน้อยใหญ่ต้องเหลียวมองหลังคอแทบหลุดทุกราย ความมั่นใจของอันนาแน่ว่าเธอเป็นคนที่มี Sex Appeal สูงมากเว้นกับคนคนเดียว “นี่พวกยูรู้ไหม? ไอเคยนอนแก้้ผ้าถ่างขาอยู่เพราะความเมาปริ้น ตอนเช้าตื่นมายังอยู่ท่านั้น... อ้าซ่า! ส่วนพี่หมอแกนอนข้าง ๆ ในท่าฤษี... ยูเคยเห็นฤษีนอนไหม?” ในน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายบอก ยังทำท่าให้คนในฝั่งตรงข้ามดูคือประสานมือไว้บนหน้าท้้อง พิงคอนอนมองเพดานไว้กับม้านั่งยาวด้วยสีหน้าเหมือนคนตาย! ก่อนจะลุกพรวดบอก “ไอเคยไปรอถ่ายภาพศพตอนหมอชันสูตรคดีฆาตกรรม ยังไม่เคยเห็นใครแม่งเหมือนศพ! เท่าพี่หมออิฐเลย” “บางทีพี่แกอาจจะดูจิ้มิ้มาเยอะจนชินชาก็ได้มั้ง วันหนึ่งแกต้องส่องช่องคลอดตั้งกี่อัน ส่องกันจนตาแฉะเลยไหม? พยายามเข้าใจพี่หมอหน่อยดิ” เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนสาวนั้นอันนาคงไม่ได้ขำไปด้วย “คนเราคบกันมาตั้งหกเดือน พี่อิฐเห็นหน้าไอมาตั้งแต่เกิดนะ ถึงไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันตลอด มันควรจะมีน้ำใจ ควรต้องเอาผ้าห่ม ห่มให้กันบ้างป่ะ...?” “หรือไม่ของยูมันคงไม่มีอะไรให้น่าดูแหละ...” ไลลาหัวเราะตาม พิงศีรษะไว้กับเพื่อนสาวข้างกายบนโต๊ะโซฟาตัวยาว ตรงข้ามกับอันนาที่นั่งอยู่คนเดียว กาแฟเย็นในแก้วพลาสติกแทบไม่ได้แตะเพราะมัวแต่พูด... “ถ้าพี่แกจะเกิดอารมณ์เปลี่ยวอยากปลุกปล้ำผู้หญิงสวย ๆ มันยังพอเมคเซ้นส์... แต่นี่... นอนเป็นศพค่ะ” “พี่หมอยูเป็นหุ่นยนต์ไซบอร์กปลอมตัวมารึเปล่า...? เหมือนในหนังเกาหลีไง” “เออ... เป็นไปได้นะไลลา เกิดมาฉันยังไม่เคยเจอคนที่แม่งทำตัวได้เหมือนรูปปั้นฉาบปูนตราช้างเสริมโครงเหล็ก เหมือนศพมีชีวิตเท่าพี่หมออิฐ พระอิฐพระปูน... he's freaking like a walking dead!” ไม่น่าเชื่อว่าอันนาสามารถสาธยายเรื่องราวของคุณหมอน้ำแข็งได้ไม่หยุดปาก ฝั่งสองสาวยังเถียงคอแข็งเชียร์คุณหมอเต็มที่ ต่อให้เขาเย็นชาเท่าไรบางครั้งยังชอบประชดโยนของของเธอทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี คุยกันไปเพลิน ๆ พอเธอได้ยกฝ่ามือทั้งห้านิ้วขึ้น คงไม่ได้เห็นสีหน้าประหลาดของเพื่อนที่จู่ ๆ ก็อ้าปากทำตาค้าง “เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งตกใจ ยังเล่าไม่จบนะคะ ครั้งหนึ่งพี่แกบอกจะนอน อีกครั้งหนึ่งพี่แกบอกจะอ่านหนังสือ... แกคืออยู่ท่านั้นได้ถึงสิบชั่วโมง ถ้าไอหิว... ไอจะต้องนั่งแท็กซี่ออกไปหาของแดกเอง วันไหนอยากเที่ยว ไปเลย... นั่งรถเล่นถ่ายรูปรอบเมืองกรุง ชมทัศนียภาพอันแสนสวยงามเสร็จ พี่แกยังคงอยู่ท่านั้น ให้ไอเล่าเรื่องพี่อิฐ บอกเลยว่าสามวันไม่จบอ่ะ...” “ให้โอกาสพี่ได้ไหม? อันนา...” คำถามที่ดังขึ้นในอากาศนั้นเธอแค่ตอบ “โอกาส? เหรอ... เฮอะ!” ดวงตาคู่สวยเบิกโพล่งตะลึง หันหลังขวับมองหนุ่มหล่อที่กำลังพูดถึงข้างหลังทันที ด้วยสีหน้าตกใจกว่า “พี่อิฐ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD