Chapter 9
เช้าวันต่อมา แด้ดดี้มาทำหน้าที่เป็นพ่อครัวตามนัด แม่มารับประทานอาหารร่วมกันเหมือนที่จะมาเยี่ยมเยียนบ้านคุณหมอทุกอาทิตย์
ดวงตาคู่คมปลาบจับจ้องใบหน้าสดสวยใต้เครื่องสำอางอ่อนอย่างไม่ละวาง ในชุดเตรียมพร้อมงานลุย ๆ เธอแต่งตัวสุภาพด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวครีมกางเกงแสล็ค บนโต๊ะมีกล่องใส่กล้องตัวโปรดวางไว้ข้างจานอาหารใบใหญ่
บนโต๊ะรับประทานอาหารมีอาหารหลายอย่างทั้งข้าวต้ม ขนมปัง อาหารฝรั่งงานชีสเยิ้ม ๆ ฝีมือเชฟสวิสฯ อย่างคุณพ่ออดัม
พอทุกคนชวนกันนั่งเรียบร้อยดี ครองภพตั้งใจและวางแผนบางอย่างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เขาเห็นว่าเป็นโอกาสเหมาะสมกับการพูดเรื่องนี้
“Daddy... ผมหมั้นกับน้องอันนาเมื่อไร?” เสียงเข้มเครียดถาม ในมือของเขาค่อยหยิบชิมมันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นผอมยาวผสมกับเบคอน หัวหอม ชีสทอด ไข่ดาวสวย ๆ โปะหน้ายิ่งดูหน้ารับประทาน (Rösti)[1]
อดัมตัวสูงใหญ่กว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร อาศัยอยู่เมืองไทยมาสามสิบปีจนพูดไทยได้คล่องปร๋อ นั่งอยู่ในฝั่งตรงข้ามกันกับครอบครัวคุณหมอ ส่วนที่นั่งตรงหัวโต๊ะนั้นเป็นของอันนา
“สิบปีแล้วมั้ง... จำไม่ได้เหมือนกันนะ”
“แต่งเลยได้ไหม?”
คำถามทันทีทำหลายคนตั้งตัวไม่ทัน แม้แต่คุณแม่ผกากำลังดื่มน้ำส้มคั้นอยู่ยังพุ่งกลับลงแก้วเหมือนเดิม ลูกสาวของบ้านก็สำลักอาหารประจำชาติ
“ตะ... แต่งงานอะไรของพี่อิฐ?”
“การหมั้น คือ การที่ชายและหญิงทำสัญญาว่าจะสมรสอยู่กินด้วยกันฉันสมีภริยา สินสอด... ที่ฝ่ายชายมอบให้ไว้แก่ฝ่ายหญิง แสดงความมั่นหมายว่าจะแต่งงานด้วย ตามกฎหมาย...”
ในความหมายว่าทวงเงินคืน! หากว่าเธอไม่ยอมแต่ง
อันนาทนพฤติกรรมของเขาไม่ไหวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ไม่นับรวมที่แอบเอากุญแจสำรองไขประตูห้องนอนเธอมาดูตลอดว่าหลับหรือเล่นโทรศัพท์...! พูดโพล่งขึ้นมา
“อันนาไม่อยากเป็นมะเร็งปอดตายหลังแต่งงานค่ะ... ไม่ชอบคนสูบบุหรี่”
“ลูกสูบบุหรี่เหรอ?” แม่ถามต่อในคราวนี้ด้วยสีหน้าเข้มเครียดกว่า เนตรดาวอบรมสั่งสอนลูกชายมาเป็นอย่างดีไม่ให้ยุ่งกับอบายมุก บ้านนี้ยังเป็นคนรักสุขภาพกันทั้งบ้าน
“พ่อว่าได้กลิ่นอยู่ นี่ถ้าน้องไม่บอกพ่อไม่รู้เลยนะ ไม่เอาน่ะ... ไม่ดีหรอกรู้ไหม? เป็นหมอไปยืนสูบบุหรี่มันดูดีที่ไหน แล้วกลิ่นติดเสื้อกราวน์ไปให้คนไข้ดมอีก”
“ผมเพิ่งสูบไม่นาน... เอาเป็นว่าจะเลิก... ถ้าน้องแต่งกับผมเมื่อไร” น้ำเสียงราบเรียบตอบ ก่อนมองค้อนวงโตไปทางหญิงสาวตรงหัวโต๊ะแทนที่นั่งของเขา จากนั้นก็ถามคุณพ่อด้วยสายตา...
อย่างที่ว่าตามองตาก็รู้ใจกันโดยไม่ต้องพูดมากมาย
อดัมหัวเราะร่ายังว่า “เฮ้ย... มาถามอะไรเล่าลูก อยากได้ เอาไปเล้ยย!”
“ลูกสาวแด้ดดี้เหมือนลูกของพี่ก้อง พี่เนตร... ใช่ไหมคะ?” คุณแม่ผกาถามบ้างและอีกคนก็ตอบอย่างรู้ใจกัน
“เออ... นั่นสิ รู้จักกันมาตั้งแต่ลูกยังไม่เกิดนี่นะ ถึงเมียผมจะท้องก่อน พออันนาเกิดมายังช่วยกันเลี้ยง แต่มีช่วงหนึ่งที่เนตรกลับไทยมาใหม่ ๆ น่ะไม่ได้เจอกันหลายปีอยู่”
ผู้ใหญ่ได้พูดเรื่องราวเก่า ๆ ในวันวานด้วยความที่แต่ละคนอายุมากกว่าห้าสิบปี มีหกสิบปีคือนายแพทย์อาวุโสของบ้าน เป็นเรื่องเพลิดเพลินสำหรับคนอายุมาก
นายแพทย์ก้องเกียรติเคยเล่าให้ลูก ๆ หลาน ๆ ในบ้านฟังว่าเมื่อนานมาแล้ว อาศัยอยู่บ้านคุณพ่อของอดัมถึงหกปีตอนไปศึกษาแพทย์ในต่างประเทศ ด้วยความเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล จึงต้องอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ มีโฮสต์แฟมิลี่ดูแลพ่อเป็นอย่างดี แนะนำวิธีการดำรงชีวิตในต่างแดน พ่อยังได้พบรักกับแม่ที่เป็นนักเรียนทุนในหมู่บ้านละแวกเดียวกัน
เดินชนกัน ปิ๊งกันได้ในทันที จากนั้นพ่อก็ตามจีบแม่จนเรียนหนังสือจบ
เรื่องราวความรักของพ่อแม่ทอดผ่านอารมณ์ทั้งสีหน้าและแววตา คราวผลัดกันเล่าไปรับประทานอาหารสวิตเซอร์แลนด์แบบดั้งเดิม ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนสมัยหนุ่มสาว
เป็นที่รู้กันว่าครอบครัวคุณหมอรักใคร่ปรองดองกันมากขนาดไหน ทะเลาะกันจริง ๆ แทบนับครั้งได้ ถึงต่างคนจะเป็นหมอเวลาทำงานไม่ตรงกัน ยังมีโซ่ทองคล้องใจคือลูกชายเพียงคนเดียว
ต่างจากครอบครัวของอันนา เทียบแล้วคงไม่สมบูรณ์แบบเท่าบ้านคุณหมอ ทว่าเธอก็มีความสุขในแบบของเธอตรงที่พ่อแม่มีเวลาให้ตลอด อยู่กันแบบเพื่อนมีอะไรปรึกษากันได้ทุกเรื่อง ผ่านความลำบากมาด้วยกันมากมายก่อนพอมีพอใช้อย่างทุกวันนี้
“ดีนะ... กลับมาดีกัน พ่อกับแม่ดีใจมาก ๆ นี่เมื่อคืนยังคุยกันอยู่เลยว่าไม่อยากได้สะใภ้บ้านไหน ถ้าไม่ใช่อันนา” คุณพ่อเล่ามาถึงตรงนี้อย่างอารมณ์ดี ลุกไปเรียกแม่บ้านให้เพิ่มอาหารในจานของเขา แวะลูบศีรษะหญิงสาวอย่างเอ็นดู
ไม่บ่อยนักกับการเห็นครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา หากไม่นับวันรวมญาติประสาคนไทย-เชื้อสายจีน เช่นบ้านคุณหมอก้องเกียรติที่มีพี่น้องอีกหลายคน เป็นรุ่นย่ายายกันเสียหมด ที่เสียชีวิตไปแล้วก็มี
สำหรับเพื่อนคนสนิทอย่างอดัมนั้นสนิทสนมกับบ้านคุณหมอขนาดว่าเป็นฝรั่งคนเดียวที่มาไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีน รับประทานเป็ดไก่ร่วมกัน สองบ้านนี้ช่างมีความสุขหลังเงียบเหงากันไปพักหนึ่งพอลูกสาวไม่ยอมมา
“อันนาว่าพ่อหมอ แม่หมอบ้านนี้ไม่โกรธหรอก ใช่ป่ะ...?” เสียงหวานใสหยอกล้อคุณพ่ออย่างเคย ๆ นายแพทย์วัยหกสิบก็ตักอาหารเพิ่มให้เธอเป็นเมนูโปรดอย่างเนื้อลูกวัว Geschnetzeltes เสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งเส้นทอดชีส
บ้านของอันนารับประทานอาหารหนัก ๆ ในตอนเช้าไม่บ่อยเท่าไรนัก พอได้ย้ายมาอยู่เมืองไทยนานแล้วบางทีก็ทานโจ๊ก ข้าวต้ม เมนูธัญพืช ผลไม้ ผัก อย่างเบอร์เชมูสลี่ (Bircherműesli) เสียมากกว่า แต่เป็นเพราะว่าวันนี้คุณพ่ออดัมได้ยินข่าวดีจึงจัดเต็มชุดใหญ่เต็มโต๊ะไม้สักเก่าเข้ากันกับตัวบ้าน
[1] เรอชติ (Rösti) เป็นอาหารขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ เดิมเป็นอาหารของชาวนาชาวสวิส ปัจจุบันรับประทานกันได้ทั้งวัน นิยมเสิร์ฟคู่กับ Geschnetzeltes เป็นอาหารจานแรกของมื้อนั้นๆ