“ยินดีอย่างยิ่งครับ เชิญเข้าข้างในดีกว่า ผมจะได้พาเยี่ยมชมงานโดยทั่ว” คชาเดินนำชายหนุ่มเข้าไปในงาน
“งานครั้งนี้ผู้ประกอบการอัญมณีไทยชั้นน้ำร่วมสนับสนุน นำผลงานทรงคุณค่ามาออกงาน คุณสามารถมั่นใจในผีมือและผลงานของเรา”
“ผมขอแค่ความเป็นสากลในการทำงาน ถ้าเราต่างยึดหลักสากล เราก็สามารถทำงานกันได้อย่างราบรื่น ส่วนเรื่องผลงานการออกแบบและฝีมือ ผมมั่นใจเต็มร้อยอย่างไม่ต้องดูด้วยซ้ำ ฝีมือคนไทยประณีตกว่าชาติไหนๆ ในโลก” อลันตอบกลับเสียงหนักแน่น
“ขอบคุณมากเลยครับ ได้ยินนักค้าอัญมณีระดับแถวหน้าพูดอย่างนี้ ผมก็หายกังวลไปมาก”
“ผมเป็นนักธุรกิจ คงไม่เยินยอโดยที่ไม่เป็นความจริง”
คชาโค้งให้อย่างขอบคุณ “ผมขอพาคุณอลันเดินชมให้ทั่วงานก่อนนะครับ”
คชาพาอลันเดินทักทายโดยรอบ จนกระทั่งถึงตอนเปิดงานเขาจึงขอตัวเดินเลี่ยงขึ้นไปบนเวที ส่วนอลัน...ก็เดินหนีความอึดอัดออกไปสูดอากาศข้างนอกแทน เขารู้ว่างานพวกนี้ก็แค่ให้ข้อมูลน้ำไหลไฟดับดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลงทุน แต่สำหรับเขา หากคิดจะลงทุนอะไรสักอย่าง เขาจะไม่รับข้อมูลที่ถูกสรรค์แต่งแบบนี้เด็ดขาด
ธุรกิจในเครือจีแอลกรุ๊ป ทุกสัญญาจะต้องมีการเช็คข้อมูลอย่างละเอียด วิเคราะห์ในเชิงลึกให้ครอบคลุมทุกด้าน เมื่อก้าวเข้ามาร่วมงานกับองค์กรใด ก็หมายถึงพร้อมที่จะตอบรับและร่วมลงทุน
ลลินเข้าไปในงานได้ทันตอนที่เธอต้องพรีเซนต์แนวความคิดที่เธอออกแบบ แต่กว่าที่เธอออกมาได้ก็ใช้เวลาซ้อมเดินอยู่ร่วมชั่วโมง
“ปาน...พี่ไม่มั่นใจ” หญิงหันกลับไปบอกปานดาวอีกครั้ง จากที่ตลอดหฯงชั่วโมงที่ผ่านมาเธอก็พร่ำพูดคำนี้มาตลอดเวลา
“เอาน่า...พี่ลินทำได้แน่นอน เชื่อป่านสิ ขนาดโรงงานกำลังจะเจ๊งยังกู้มาได้เลย”
“มันเกี่ยวกันตรงไหน”
“ก็เกี่ยวกันตรงที่ใจ ถ้ามั่นใจ ทุกอย่างก็ง่ายสำหรับพี่ทุกอย่าง”
“แต่พี่ไม่มั่นใจชุดบ้าๆ รองเท้าสูงๆ คู่นี้ ไม่รู้ว่ามันจะพาพี่ล้มให้อับอายตอนไหน”
“ไม่มีเวลาแล้ว ไม่ต้องกังวล พี่ก็แค่เดินปกติ เชิดหน้าด้วย” ปานวาดดุนหลังลลินเข้าประตูด้านหลังของงานที่เธอพามาส่ง
ลลินเดินเข้าไปในงานอย่างไม่ค่อยถนัดนัก เป้าหมายคือเคาเตอร์ที่เธอต้องยืนประจำเตรียมพรีเซนต์ ถ้าเดินไปถึงตรงนั้นแล้วหาที่ยืนพิงไปด้วยก็คงไม่เป็นอะไร
ในที่สุดลลินก็ก้าวผ่านมา เธอสามารถเดินมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัยไม่หกล้มให้เสียหน้าจนได้
“ทำไมเพิ่งมา ผมก็มองหาลินอยู่” คชาถามลลินทันทีที่เขาเห็นเธอเดินมาถึง
“ก็ปานมัวแต่จับให้ลินแต่งตัวแบบนี้ ขอโทษด้วยนะคะที่เข้ามาช้า”
คชาไล้สายตามองลลินตั้งแต่ปลายผมจนกะทั่งถึงรองเท้าส้นสูงที่กำลังพาขาคนสวมสั่นระริก “สวยดี ไม่น่าเชื่อว่าลินแต่งตัวแล้วจะสวยได้ขนาดนี้ เยี่ยมมาก”
“แต่มันคงไม่เหมาะกับลิน”
“เหมาะสิ เหมาะกับงานด้วย รสนิยมของปานดาวดีมากเลย” คชาเอยปากชม แววตาของเขาก็ชื่นชมด้วยความจริงใจ
“ลินไม่อยากเดินนาน ขอตัวเข้าประจำเคาเตอร์เลยดีกว่านะคะ”
“ได้เลย อีกสักพักนักข่าวคงจะไปหน้าบูธกะรัต ลินพร้อมแล้วนะ”
“ค่ะ”
“ฝากด้วยก็แล้วกัน ถ้าเราทำได้หมายถึงผลระยาวที่เราจะเก็บเกี่ยวไปได้ตลอด ที่จริงผมอยากจะแนะนำลินให้รู้จักคุณอลันก่อนด้วย เขาเป็นเจ้าของจีแอลกรุ๊ป คนที่เราต้องดึงเขามาร่วมหุ้นให้ได้ ” คชาบอกพรางกวาดสายตามองหาชายหนุ่มที่ตนกำลังพูดถึงไปด้วย
“แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนแล้ว ผมก็มัวแต่ยุ่งกับแขกหลายกลุ่ม”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณคชา เดี๋ยวก็คงมีโอกาสได้เจอ”
“งั้นผมขอตัวไปรับแขกกลุ่มนั้นก่อนนะ ถึงเวลาจะตามไป”
“ค่ะ”
คชาเดินเลี่ยงจากหญิงสาว ตรงไปที่แขกต่างชาติอีกกลุ่มทันที
ห้องจัดเลี้ยงที่คาคั่งไปด้วยผู้คน สูทหรูหราแบรนด์ดังถูกเลือกใช้ครบทุกแบรนด์ ไม่ต้องพูดถึงชุดราตรีที่อยู่บนเรือนร่างสาวๆ แสงวาววับจากเครื่องเพชรที่ประดับบนลำคอ ก็อวดแสงกับแสงไฟไม่ต่างกัน
หากในความรู้สึกของอลันเขากลับเบื่อหน่าย ถ้าไม่ต้องรอฟังบรรยายให้เห็นแนวคิดในการออกแบบ เขาคงหนีกลับไปตั้งแต่เปิดงานได้ครึ่งชั่วโมงแรก
อลันเดินเข้ามาในงานอย่างเซ็งๆ งานอย่างนี้ทำให้เขาอดนึกถึงมารดาไม่ได้ นางอลันดาชอบออกงานสังคมอวดรวยอย่างนี้ นางเคยบอกว่ามันเป็นความสุขช่วยคลายเหงา แต่เขากลับไม่ได้มองเห็นสิ่งอื่นนอกไปจากความเบื่อหน่าย ไร้สาระ และสวมหน้ากากเข้าหากัน
สิ่งที่หยุดสายตาเบื่อหน่ายของเขา ผู้หญิงร่างโปร่งระหงที่อยู่บนแท่นเวที รอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นที่มุมปากอย่างเผลอๆ เขาคงไม่แปลกใจหากผู้หญิงคนบนแท่นเวทีไม่ใช่ยัยเพิ้งหมัดหนักคนนั้น วันวานเธอเป็นแม่สาวเชยจืดชืด หากวันนี้เขาต้องคิดใหม่ เธอกลายเป็นซินเดอเรลล่าเพียงข้ามวัน
ผู้หญิงที่เขาไม่คิดว่าหล่อนจะสามารถสะกดสายตาเขาเอาไว้ได้ แต่มันกลับเป็นไปแล้วจริงๆ ทุกจังหวะการเอื้อนเอ่ยเจรจาจนเรียบร้อยปากได้รูปกระจับ ช่างน่าจูบมากว่าจะใช้มันทำสิ่งอื่น
สมองสั่งให้ขายาวๆ ของเขาก้าวเข้าไปใกล้ๆ ดูให้แน่ย้ำให้ชัดว่าเป็นเธอคนนั้นจริงๆ สายตาคมสีมรกตยังจับจ้องเจ้าของเรือนร่างโปร่งไม่วางตา จังหวะการเอี้ยวตัวเผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนมีเพียงสายเส้นเล็กพาดไขว้กันเอาไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเหนืออะไรทั้งหมด ริมฝีปากอิ่มเป็นกระจับรั้งสายตาของเขาจับจ้องไม่ละห่างไปไหน
ความตื่นตัวในร่างกายพร้อมเลือดร้อนที่สูบฉีดวิ่งพล่าน อาการนี้เขาจะเรียกว่ารักแรกพบคงไม่ใช่ แต่ถ้าเรียกว่าความต้องการปรี่ล้นเมื่อแรกเห็นคงจะเหมาะกว่า
เรียวปากรูปกระจับเอื้อนเอ่ยไปเรื่อยๆ
“เครื่องเพชรชุดพิเศษชุดนี้ดิฉันได้แนวความคิดมาจากดอกไม้ของไทย ความสวยผสานความบอบบางของดอกไม้เมืองร้อนที่เลื่องชื่อด้านความงาม นำมารังสรรค์เป็นเครื่องประดับชิ้นหรูหรา และยังมีลายน่ารักๆ สำหรับหนุ่มสาววันทำงาน”
หญิงสาวบรรยายคุณสมบัติและแนวความคิดที่เกิดเครื่องประดับแต่ละชิ้นอย่างมีความสุข สายตาของคนบรรยายเปล่งประกายเหมือนเธอหลุดไปอยู่ในอีกโลก ภาพตรงหน้าสะกดสายตาคมคู่สวยของสวยของชายหนุ่มไม่ให้ละไปไหน จนกระทั้งจบประโยคสุดท้ายของเธอ
“คุณค่าความเป็นไทย แต่ไม่ตกเทรนด์โลกค่ะ”
เสียงปรบมือดังก้องหลังจบการบรรยายของแบรนด์กะรัต หญิงสาวบนแท่นบรรยายก็เจิดจรัสไม่แพ้ผลงานที่โดดเด่นของเธอ ค่ำคืนนี้เธอสวย...จนหลายคนถึงกับจำไม่ได้
แมทซ์ขยับเข้ามาใกล้ชายหนุ่ม กระซิบถามย้ำความแน่ใจของตนที่ถกเถียงกันในใจไม่ต่างจากชายหนุ่ม
“บอสว่าเธอคือคนเดียวกับที่มีเรื่องกับบอสวันนั้นหรือเปล่า” แมทซ์เปิดประโยคสนทนา หลังจากที่เขายืนมองอลันอยู่นาน บอกได้เลยว่าผู้หญิงตรงหน้าต้องมีอะไรสักอย่างยึดตรึงดวงตาพี่ชายของเขาเอาไว้
อลันเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของแมทซ์ แต่เขาสั่งเสียงหนัก ทุกสิ่งที่เขาต้องการต้องมากองแทบเท้า มหาเศรษฐีหนุ่มผู้ไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
“ทำอย่างไรก็ได้ ฉันต้องได้เธอมายืนข้างกาย”
“แต่เธอปฏิเสธทุกข้อเสนอ”
อลันหันกลับมามองหน้าน้องชายนอกสายเลือดอย่างไม่สบอารมณ์
“ฉันต้องจัดการเองไหม”
แมทซ์โค้งน้อยๆ เป็นเชิงขอโทษ เขาทำให้เจ้านายที่เป็นทั้งเจ้านายโกรธอีกครั้ง
“ผมขอจัดการเอง”
“ดี! ฉันออกไปข้างนอกละ” อลันบอกเสียงเข้ม ยกมือขึ้นบีบบ่าน้องชาย ขยับขาเดินออกไปจากตรงนั้น แต่เขาก็ไม่ลืมกำชับ “ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเพียงอย่างเดียวนะแมทซ์”