ตอนที่ 5 กลิ่นเดิม

1144 Words
ตอนที่ 5 กลิ่นเดิม เสียงทุ้มนุ่มหูของอาจารย์ใหม่ไฟแรงดังแว่วให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ จากหน้าชั้นเรียน ท่ามกลางเสียงพูดคุยของกลุ่มนักศึกษาที่ต่างพูดคุยกันเกี่ยวกับตัวอาจารย์คนใหม่เป็นระยะ หากแต่ลดลงมาเป็นระดับกระซิบกระซาบแทน ด้วยเกรงว่าจะถูกอาจารย์รูปหล่อดุเอา 'หล่อ คนอะไรหล่อชิบ' 'นั้นอาจารย์เลยนะแก' 'จับอาจารย์ทำผัวก็ไม่เลวนะแก' 'ทะลึ่งจริงนะหล่อน แต่ถ้าเป็นฉัน...ก็เอาเหมือนกันแหละ' เสียงหัวเราะคิกคักทั้งยังพูดคุยกันอย่างสนุกปาก ทำเอาคนได้ยิน ที่ไม่ได้อยากได้ยิน ส่ายหัวไปมาเล็กๆ ก่อนจะหันมาสนใจกับเนื้อหาการเรียนตรงหน้าแทน เพราะถึงแม้เขาจะผ่านอะไรพวกนี้ไปแล้ว แต่ด้วยความชอบในรายวิชาก็ทำให้วาโยตั้งใจและจดจ่อกับมัน อย่างที่ไม่ต้องแสดงเลยสักนิด โดยที่เธอคงไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองกำลังตกอยู่ในการสายตาของใครบางคน ที่จ้องมองมาเป็นระยะ 'อาจารย์องศาอะไรนี่ ทำไมเอาแต่จ้องพี่โย หรือว่าสงสัยอะไร?' เด็กหนุ่มวัยยี่สิบสองที่นั่งเคียงข้างวาโย อดตั้งคำถามกับตัวเองในใจไม่ได้ เมื่อเริ่มสังเกตสายตาของอาจารย์มาใหม่ ลอบมองมายังวาโยอยู่บ่อยครั้ง แต่ด้วยว่าที่ผ่านมาวานิมตัวจริงก็ไม่ได้สนิทกับเพื่อน หรืออาจารย์คนไหนเป็นพิเศษ นอกจากเขาและซาน ทั้งชายหนุ่มมาดดุที่หน้าชั้นเรียน ยังเป็นอาจารย์ใหม่ที่ไม่เคยเจอว่านิมมาก่อน ความคิดที่ว่าอาจารย์องศาคนนี้จะสงสัยในตัววานิมตัวปลอม ก็ถูกปัดตกไปทันที 'แต่ก็นะ ก็พี่โยเปล่งออร่าขนาดนี้ ไม่แปลกมั้ง' เด็กหนุ่มคิดกับตัวเองอย่างขบขัน แล้วเลิกสนใจอาจารย์หนุ่มไปโดยปริยาย แต่แล้วดูเหมือนความคิดที่เพิ่งถูกตีตกไป จะถูกกลับมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง เมื่อหลังเลิกคลาสเรียนวันเดียวกันนั้น... "เดี๋ยว คุณตรงนั้น อยู่ก่อน" เสียงเรียกที่ดังอยู่ข้างหลังทำให้วาโยและเรอาที่กำลังจะเดินเคียงขนาบกันออกไปชะงัก แล้วหันมามองอาจารย์ใหม่ผู้เอ่ยเรียก "อาจารย์หมายถึงผมเหรอครับ" เรอาว่าด้วยสีหน้างุนงง ทั้งยังชี้นิ้วเข้าใส่ตัวเองเป็นเชิงถาม "ไม่ใช่คุณ แต่เป็นคุณต่างหาก" สายตาขององศาบ่งบอกได้ดีว่าคนที่เขาต้องการคุยด้วยเป็นวายโย คิ้วของเรอาและวาโยขมวดเข้าหากันเล็กน้อย พลางมองสบตากันอย่างไม่ค่อยเข้าใจความต้องการของอีกฝ่ายนัก "ผมอยากจะขอคุยเรื่องคะแนนของคุณหน่อย ไปเจอผมที่ห้องภาควิชาหน่อยนะ" คนตัวโตว่าแต่นั้นแล้วเดินออกไปทันที ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามที่ปรากฏอยู่เต็มหน้าของสองคนด้านหลัง "นี่เจ้านิมไปก่อเรื่องอะไรไว้รึเปล่า" เสียงกระซิบถามของคนพี่ดังลอดผ่านไรฟันทันที เมื่ออยู่กันตามลำพังกับหนุ่มรุ่นน้องคนเดิม ฝ่ายนั้นได้แต่ไหวไหล่กลับมา เป็นเชิงตอบว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกัน "ถ้าพี่ไม่สบายใจ ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมล่ะ" "ไม่ต้องหรอก คงไม่มีอะไรหรอก กลับไปก่อนเถอะ" เมื่อคนพี่หน้าหวานต้องการแบบนั้น เรอาจึงได้แต่พยักหน้ารับแล้วทำได้แค่มองตามคนพี่ที่เดินตรงไปยังห้องนัดหมายเท่านั้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก "เข้ามาสิ" เสียงราบเรียบของคนภายในห้องดังลอดออกมา เมื่อวาโยเคาะส่งสัญญาณที่หน้าประตู ส่งให้คนด้านนอกรู้สึกประหม่าไม่น้อย สองขาเรียวค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องตามคำสั่งช้าๆ ใบหน้าหวานยังคงนิ่งอยู่เพื่อรอดูว่าอาจารย์คนใหม่นี่ต้องการอะไรจากเธอ ไม่สิ ต้องการอะไรจากวานิมกันแน่ "เอ่อ อาจารย์เรียกฉัน...เอ่อ หนู มามีอะไรเหรอคะ" วาโยตัดสินใจเอ่ยถามออกไป เมื่อเข้ามายืนได้สักพักแล้วแต่คนเรียกมา กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ นอกจากกอดอกยืนส่งสายตามองวาโยนิ่งอยู่แบบนั้น "งั้นเอาไว้อาจารย์นึกเรื่องที่คุยกับหนูออกแล้วค่อยเรียกมาใหม่ดีมั้ยคะ" "เดี๋ยวสิ" เสียงทุ้มทรงอำนาจดังขึ้นเสียทีหลังจากนิ่งเงียบมานาน ขับให้สองขาที่กำลังจะก้าวกลับออกไปชะงักลง แล้วเดินกลับมายืนยังจุดเดิมเหมือนเก่า อาจารย์หนุ่มที่ยังคงทำหน้าเคร่งขรึมเริ่มสาวเท้าเข้ามาหานักศึกษาสวมรอยช้าๆ นัยน์ตาสีนิลยังคงจับจ้องอยู่เพียงวงหน้าของวาโยอยู่อย่างนั้น ไม่ละไปไหน ร่างใหญ่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนแทบประชิดตัวขับให้วาโยผงะถอยหลังตามคำสั่งของสมอง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่มีท่าทีคุกคามหยุดการกระทำลงแต่อย่างใด ยังคงก้าวเท้าตามติดคนตัวเล็กมาเรื่อยๆ จนแผ่นหลังของคนถูกต้อนไปชนกับผนังห้อง ทั้งฝ่ามือของคนตัวโตยังค้ำยันดักวาโยเอาไว้ทั้งสองข้าง จนไร้ทางจะหนีไปไหนได้อีก "อะ อา อาจารย์จะทำอะไรคะ?" คนหน้าเด็กพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นเวลาถามออกไป แค่อีกฝ่ายกับยังคงนิ่งเงียบเหมือนเคย ทั้งยังก้มลงมาประชิดใบหูของคนตัวเล็ก จนวาโยรู้สึกได้ความอุ่นร้อนจากลมหายใจของอีกฝ่ายได้อย่างไม่ยาก แต่นั่นคงไม่ทำให้ลูกสาวคนโตของตระกูลชวัลลักษณ์ รู้สึกหวาดกลัวได้เท่ากับลมหายใจจากปลายจมูกของอีกฝ่ายที่เหมือนกำลังสูดดมกลิ่นกายของเธออยู่ "อืม กลิ่นเดิม" "กะ กลิ่นเดิมอะไรกัน อะ อาจารย์ทำบ้าอะไรคะ! ถอยออกไปนะ ไม่อย่างนั้นหนูจะฟ้องผู้บริหาร" คนตัวเล็กกว่าพยายามจะทำเสียงขู่ออกไป ในใจทั้งกลัวแต่ว่าหมอนี่จะเคยรู้จักกับวานิมมาก่อน หรือว่ามีเหตุผลอะไรให้เขาต้องทำแบบนี้วาโยคิดไม่ตกส่งเสียงตะกุกตะกักถามออกไปซ้ำๆ แต่เหมือนคนคุกคามจะไม่ใส่ใจนัก ถึงได้ยังยกยิ้มกริ่มออกมาแล้วเอ่ยประโยคหนึ่งออกมาแผ่วเบา พอให้ได้ยินแค่สองคน "หึ วาโย เป็นเธอนี่เอง" ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทั้งยังหน้าซีดลงราวกับไก่ต้ม เมื่อได้ฟังคำพูดของคนตรงหน้า คำเรียกชื่อราวกับว่ารู้จักตัวจริงของหญิงสาว ตัวจริงที่ไม่ใช่ วานิม ชวัลลักษณ์ เหมือนที่กำลังสมบทบาทอยู่ ***
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD