ความรู้สึกที่ไม่อาจควบคุม (18)

1658 Words
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้แวะมาที่ผับเลย จริง ๆ แล้ว ตั้งแต่แต่งงานกับริสา ผมรู้สึกว่าอยากอยู่บ้านมากขึ้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยชอบมาที่นี่เต็มที่ จนบางครั้งก็รู้สึกสับสนว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ หรือว่ามันมีอะไรรั้งให้ผมไม่อยากออกไปไหนเลย? เหมือนชีวิตทุกอย่างในช่วงนี้มันกลับไปโฟกัสที่บ้านและเรื่องของริสาจนผมลืมไปว่าเคยมีช่วงเวลาที่สนุกสนานอยู่ที่นี่ พอวันนี้คิดได้ว่าควรออกมาหายใจบ้าง เลยตัดสินใจแวะมาที่ผับเพื่อสัมผัสบรรยากาศเดิม ๆ ที่เคยอบอวลอยู่ที่นี่อีกครั้ง “โอ๊ย ไอ้ภูวิน! โผล่มาสักที กูนึกว่ามึงหลงใหลเจ้าแมวที่บ้านจนลืมทางมาผับแล้วนะเว้ย!” เสียงแซวของไอ้นิวดังขึ้นทันทีที่เห็นผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง VIP ของผับ มันเป็นพวกขี้โวยวายแต่ก็ดูแลเพื่อนได้ดีเสมอ “ไอ้นิว อย่าแซวไอ้ภูแบบนั้นดิวะ เดี๋ยวมันก็โกรธ” ไอ้โซจูพูดพร้อมหัวเราะ ผมขำในลำคอ พวกมันสองคนเป็นพวกที่ชอบเล่นมุกใส่กันอยู่ตลอด ผมนั่งลงที่โซฟาข้างไอ้ธันวาที่ดูเหมือนจะยังเงียบอยู่ มันไม่ได้พูดอะไรแต่แค่ยกแก้วขึ้นเชิงทักทาย ผมยักคิ้วรับและหยิบแก้วเครื่องดื่มมาจากโต๊ะ “เออ มึงหายหน้าหายตาไปนาน สรุปชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไงบ้างวะ?” ไอ้นิวเอ่ยถามพลางเทเหล้าใส่แก้วให้ผม มันมองผมอย่างตั้งใจเหมือนจะขุดคุ้ยให้ได้คำตอบให้ได้ “ก็...ปกติ ไม่มีอะไรมาก” ผมตอบสั้น ๆ แกล้งทำเป็นไม่สนใจสายตาของพวกมันที่มองมาทั้งสามคน “เหรอออ?” ไอ้นิวลากเสียงยาว มันยิ้มแบบกวนๆ ก่อนพูดต่อ “เห็นทำตัวเป็นผัวที่ดี ทำอาหารเช้าด้วยตัวเองอย่างนี้ กูนึกว่ามึงรักเขาจริง ๆ ซะอีก” “เออ ใช่ ๆ” ไอ้โซจูเสริม “มึงดูไม่เหมือนทำไปเพื่อแผนการอะไรเลย ดูเต็มใจมากกว่านั้นอีกนะเว้ย” ผมหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับส่ายหน้า “พวกมึงเข้าใจผิดแล้ว กูแค่ทำตามแผนที่วางไว้เท่านั้น ทั้งหมดนี่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่กูจะยึดครองตระกูลเขาอยู่แล้ว” ผมพูดเสียงเรียบ แต่ในใจลึก ๆ ก็รู้สึกสะกิดนิด ๆ “แล้วมึงไม่เคยรู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ?” ไอ้ธันวาที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถามขึ้น มันเป็นคนที่มักจะคอยสังเกตและเก็บรายละเอียดได้เก่งเสมอ คำถามของมันตรงไปตรงมาและทำให้ผมเงียบไปชั่วครู่ ผมมองหน้ามัน ก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น “มันก็แค่แผน... ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้น” “เหรอวะ?” ไอ้นิวหรี่ตามองผม “แต่กูว่ามึงเริ่มมีใจให้เมียมึงแล้วล่ะ ไม่งั้นมึงจะดูแลเขาขนาดนั้นทำไม” “เออ นั่นดิ” ไอ้โซจูเสริมอีก “ถ้าแค่ทำตามแผน มึงไม่จำเป็นต้องทำให้มันดูเต็มที่ขนาดนั้นก็ได้ มึงใส่ใจทุกอย่างตั้งแต่อาหารเช้า ยันพาเขาไปเที่ยวทะเล ดูแฮปปี้ออกนอกหน้าเลย” ผมถอนหายใจ พยายามไม่ให้พวกมันอ่านใจได้ “ก็แค่สร้างภาพให้ดูสมจริง มันเป็นหน้าที่ของกูที่จะต้องทำให้ทุกอย่างออกมาดี” “แต่พวกกูรู้จักมึงดี มึงไม่เคยทำอะไรขนาดนี้ และก็ไม่เคยเห็นมึงนึกถึงความรู้สึกของอีกคนมากขนาดนี้มาก่อนเลยนะเว้ย” ไอ้ธันวาพูดพร้อมกับมองหน้าผม มันพูดอย่างจริงจังและตรงประเด็นเหมือนทุกครั้ง “กูแค่ไม่อยากให้แผนพัง ก็แค่นั้นแหละ” แต่ในใจลึก ๆ ผมรู้ดีว่าความรู้สึกที่ผมมีให้ริสาเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่กับเธอ แต่การยอมรับความรู้สึกนี้มันเท่ากับการทรยศต่อแผนการที่ผมวางไว้ทั้งหมด “แล้วมึงจะทำยังไงต่อวะ ถ้าวันหนึ่งมึงรู้สึกมากเกินไป?” ไอ้โซจูถามอีก มันมองผมด้วยความสงสัย “มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก กูยังมีเป้าหมายของตัวเอง กูจะไม่มีวันปล่อยให้ความรู้สึกมาทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง” ผมตอบเสียงแข็ง “เออ ๆ ตามใจมึงละกัน แต่กูว่าถ้ามึงยังดึงดันที่จะไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง มึงจะต้องเสียใจทีหลัง” ไอ้นิวพูดพร้อมกับยิ้มบาง ๆ “เพราะบางที ความรักมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับแผนหรือเป้าหมายอะไรหรอก มันมาเองโดยที่เราไม่ทันได้รู้ตัว” ผมหัวเราะแห้ง ๆ และยกแก้วขึ้นดื่ม “เออ ไอ้นิว มึงอย่าเสือกคิดลึกเกินไป กูบอกแล้วไงว่าทุกอย่างมันเป็นแค่แผน” “เออ ๆ กูไม่คิดก็ได้ แต่จำไว้แล้วกันว่าพวกกูเตือนมึงแล้ว” ไอ้นิวตอบพร้อมยักคิ้วใส่ผม ผมยิ้มตอบแบบไม่จริงจังนัก บรรยากาศในห้องเริ่มคลายตัว พวกมันเปลี่ยนเรื่องคุยไปถึงเรื่องงานและธุรกิจ ผมนั่งฟังพวกมันคุยกัน แต่ในใจกลับวนเวียนกับความคิดที่ไอ้ธันวาและไอ้นิวพูดกับผม ผมพยายามจะไม่คิดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่กับริสา แต่ทุกครั้งที่ผมนึกถึงรอยยิ้มของเธอ หรือการที่เธอหัวเราะอย่างมีความสุขเมื่ออยู่กับผม มันทำให้ผมรู้สึกว่า...บางทีแผนที่ผมวางไว้ มันอาจจะไม่ได้ควบคุมทุกอย่างได้อย่างที่ผมคิด “ไอ้ภู กูถามจริง มึงคิดว่าแผนมึงจะสำเร็จไหม?” ไอ้ธันวาถามขึ้น มันมองผมด้วยสายตาที่จริงจัง “กูก็ไม่รู้ แต่กูจะทำทุกอย่างเพื่อให้มันสำเร็จ” ผมตอบด้วยความมั่นใจ แม้ว่าความรู้สึกที่มีต่อริสาจะทำให้ผมเริ่มลังเลเล็กน้อย “แล้วถ้าต้องเลือกระหว่างแผนกับความรู้สึกของมึงล่ะ มึงจะเลือกอะไร?” ไอ้โซจูถามขึ้นอีก มันมองหน้าผมรอคำตอบ ผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ “กูก็ต้องเลือกแผนของกูอยู่แล้ว ความรู้สึกมันเป็นแค่สิ่งที่เปลี่ยนไปมาได้ กูจะไม่ยอมให้มันมาทำให้กูพลาดเป้าหมาย” “กูหวังว่ามึงจะคิดถูกแล้วนะไอ้ภู” ไอ้ธันวาพูดพร้อมกับยกแก้วขึ้น “กูรู้ว่ามึงเก่ง และมึงมักจะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดเสมอ แต่บางที...การฟังใจตัวเองบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแย่” ผมยกแก้วขึ้นชนกับมัน “เออ ขอบใจว่ะ แต่ตอนนี้กูขอโฟกัสกับแผนก่อน” ไอ้นิวและไอ้โซจูหัวเราะพร้อมกัน “เออ ตามใจมึงละกัน ไอ้ภู แต่ถ้าวันหนึ่งมึงคิดได้แล้ว กลับมาบอกพวกกูบ้างนะเว้ย จะได้ไม่ต้องทนดูมึงทำหน้าเครียด ๆ แบบนี้” ผมหัวเราะออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก แม้ว่าคำพูดของพวกมันจะทำให้ผมเริ่มสับสน แต่ผมก็ยังคงมั่นใจในแผนของตัวเอง ผมจะไม่ยอมให้ความรู้สึกมาทำให้ทุกอย่างพัง ผมต้องทำตามแผนนี้ให้สำเร็จ...แม้ว่ามันอาจจะหมายถึงการต้องทิ้งสิ่งที่มีค่าไปบ้างก็ตาม หลายชั่วโมงผ่านไป ในขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากกระเป๋าของผม ผมหยิบมันขึ้นมาดูเห็นชื่อริสาขึ้นบนหน้าจอ ชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกอึดอัดใจปะทุขึ้นในอก ก่อนที่ความรู้สึกอบอุ่นจะเริ่มเข้ามาแทนที่ “ริสาโทรมา” ผมบอกเพื่อนๆ ด้วยน้ำเสียงปกติ ทั้งๆ ที่ภายในใจกลับมีอาการขัดแย้ง “เดี๋ยวกูรับก่อนนะ” “เออๆ แค่โทรมากูก็คิดว่ามึงจะกลับแล้ว” ไอ้นิวแซวพร้อมกับยิ้ม ผมไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ ก่อนกดรับสาย “ฮัลโหล ริสา” น้ำเสียงของผมเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที . “เดี๋ยวกูกลับนะ” หลังจากที่ผมวางสายจากริสา ผมก็รีบหันไปบอกไอ้พวกนั้นว่า จะกลับแล้ว จนทำให้เพื่อนๆ หัวเราะออกมา “เฮ้ย ไอ้ภู มึงนี่ไม่ใช่แล้ว!” ไอ้โซจูตะโกนขึ้นมา “แค่เขาโทรตามต้องรีบขนาดนี้เลยเหรอ?” “ขนาดปากบอกว่าไม่รักนะเนี่ย!” ไอ้นิวทำท่าแซวอย่างขำขัน “แค่โทรตาม ก็แทบจะบินกลับบ้านแล้ว!” “กูแค่ไม่อยากให้เขารอนาน” ผมตอบกลับลวกๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้น “เออๆ รีบไปเถอะ” ไอ้ธันวายิ้มให้ “ถ้ามึงรักเขาจริง คงต้องบอกให้เขารู้บ้างแล้วล่ะ” “กูแค่ไม่อยากให้เขารู้สึกเหงา” ผมเถียงเบาๆ แต่ในใจเริ่มลังเลอีกครั้ง เมื่อเห็นแววตาของเพื่อนๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกแซว “อ๋ออออ เรอะ!” ไอ้นิวพูดแซวทันทีที่สิ้นเสียงของผม “เออ กูไปละ” ผมตอบเสียงแข็งและเดินออกจากห้อง ผมรู้ว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อริสากำลังเริ่มเปลี่ยนไป แต่การยอมรับมันกลับทำให้ผมรู้สึกหวั่นใจ ขณะที่เดินออกไป ผมได้ยินเสียงเพื่อนๆ หัวเราะและแซวกันอีกครั้ง “แค่โทรตามยังรีบขนาดนี้! ยังจะมีหน้าบอกไม่รักเขาอีก ไอ้นี้!” ผมเพียงแต่ส่ายหน้าและรีบเดินออกไปจากผับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ไอ้ความรู้สึกนี้มันคืออะไร รู้แค่ว่า แค่ห่างจากเธอไม่นานก็รู้สึกร้อนใจยังไงไม่รู้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD