ที่ผับชื่อดังย่านแหล่งท่องเที่ยว
อรนลินในชุดเสื้อกระโปรงเข้าชุดสีหวานสมวัยและหน้าตา เดินคล้องแขนเจ้าของงานวันเกิดที่ปิดร้านเลี้ยงเพราะเป็นญาติกับเจ้าของผับ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มคุยหัวเราะสนุกกันหลายต่อหลายเรื่อง เพราะไม่ได้เจอกันมาเกือบครึ่งปี
“เสียดายอะที่หนูดีหมั้นกับพี่ดิน” เจ้าของงานวันเกิดบอกขึ้น อรนลินขมวดคิ้วถามด้วยสีหน้างุนงง “ทำไมหรือข้าวฟ่าง”
ข้าวฟ่างบอกก่อนโบกมือเรียกคนมาใหม่ “ก็จะแนะนำให้รู้จักกับพี่ชายฟ่างไง นู่นแนะมาละ ยู้ฮู ทางนี้ค่ะ”
สาวผมยาวตรงสลวยเจ้าของวันเกิด โบกมือเรียกชายหนุ่มที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นพี่ชาย แต่อรนลินจำได้ว่าข้าวฟ่างไม่มีพี่ชายนี่นา ก็คงจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกันที่สนิทสนมกันนั่นเอง
ไม่ได้สนใจมองตามเพื่อน อรนลินมัวแต่วุ่นวายกับเครื่องดื่มที่บริกรส่งให้เธอ
“ไม่ต้องใส่เหล้านะคะ”
พนักงานพยักหน้ารับติด ๆ กัน รับเครื่องดื่มแล้ว ก็ค่อยหันตามแรงดึงของเพื่อน จากใบหน้ายิ้มแย้มก็แทบหุบยิ้มในทันที เมื่อเห็นว่าญาติของเพื่อนเป็นใคร
“หนูดี นี่พี่ติ พี่ชายฟ่างเอง”
อรนลินชะงักไปครู่ วางเครื่องดื่มลง แล้วยกมือไหว้อย่างเสียมิได้ “สวัสดีค่ะ”
จุติพยักหน้าตอบ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรด้วย บอกข้าวฟ่างว่า“พี่ขึ้นไปบนออฟฟิศก่อนนะ เดี๋ยวลงมานั่งด้วย แล้วอย่าดื่มเยอะนักล่ะ เจ้าของงานเมาน่าเกลียดน่าดูเลย รู้ไหม”
จุติบอกข้าวฟ่างด้วยน้ำเสียงเข้มงวด แล้วใช้นิ้วเคาะเบา ๆ ที่หน้าผากเจ้าของวันเกิด ก่อนจะหันหลังเดินไปยังบันได ขึ้นไปยังชั้นลอย อันเป็นที่ตั้งออฟฟิศที่เขาว่าไว้
“เป็นไงมั่งพี่ชายฟ่าง”
อรนลินยักไหล่ แล้วว่า “ไม่เป็นไงนี่”
“หนูดีเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ไม่สนุกหรือ”
ข้าวฟ่างถามอย่างตกใจ เมื่อเพื่อนสนิทที่ยังยิ้มแย้มอยู่ดี ๆเปลี่ยนเป็นเฉยเมยไปเสียนี่ จะว่าไปก็เห็นหน้าบึ้ง ตั้งแต่ที่จุติปรากฏตัวขึ้นนี่เอง
แต่อรนลินรีบปัดความขุ่นมัวทิ้ง ไม่อยากให้เจ้าของวันเกิดคิดมาก เพราะข้าวฟ่างเพิ่งมีเรื่องเข้าใจผิดกับแฟนหนุ่มและยังปรับความเข้าใจกันไม่ได้
ด้วยความรักเพื่อนของอรนลิน จึงรีบปรับอารมณ์เพื่อเจ้าของงาน บอกเสียงสดใสไปว่า “ไม่มีอะไรหรอกน่าฟ่าง มาสนุกกันดีกว่า แฮปปีเบิร์ดเดย์นะ มีความสุขมาก ๆ แต่งงานคิวต่อไปเลยก็ดี”
กอดคอเพื่อน โยกไปตามเพลงโปรด ดื่มเครื่องดื่มด้วยกันเป็นครู่ใหญ่ ก็ปลีกตัวไปนั่งพัก เมื่อข้าวฟ่างขอออกไปคุยกับแฟนหนุ่มที่ด้านนอกของร้าน
นั่งคนเดียวร่วมชั่วโมงได้ อรนลินก็ต้องผงะหนี เมื่อจู่ ๆ ก็มีมือยื่นแก้วเครื่องดื่มส่งให้ตรงหน้า หญิงสาวแหงนมองเจ้าของมือ พอเห็นว่าเป็นใคร ก็ขยับหนี ไม่รับเครื่องดื่ม แล้วเบือนหน้ามองคนอื่น ที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงบนฟลอร์
อดมองหาเจ้าของวันเกิดไม่ได้ ว่าป่านนี้แล้วคุยกันถึงไหน ปรับความเข้าใจกันได้หรือยังก็ไม่รู้
คอยดูนะถ้าเข้ามาแล้ว จะแกล้งงอนใส่เสียเลย ค่าที่ปล่อยให้ต้องรอนานแบบนี้
“ข้าวฟ่างไปไหน”
อรนลินชะงักเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าควรพูดหรือไม่ เลยตัดสินใจปดออกไป “ไปคุยกับเพื่อนอีกกลุ่มข้างนอกมั้งคะ”
จุติพยักหน้า “ไอ้ดินมันรู้ไหมเนี่ยว่าว่าที่คู่หมั้นมาเที่ยวที่แบบนี้”
“คู่หมั้นไม่ใช่เจ้าชีวิตนะคะ ต่อให้แต่งงานกันแล้วก็ไม่ควรลิดรอนสิทธิของกันและกันค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ” จุติถามกลับด้วยการลากเสียงยาว อย่างต้องการยียวน กดมุมปากสองข้างลง ทำหน้าราวกับกำลังฟังเด็กอนุบาลอธิบายหลักการเศรษฐศาสตร์ขั้นสูงอยู่
“ถ้าเป็นผมนะ จะตีให้ก้นลายเลย ถ้ารู้ว่ามาเที่ยวแบบนี้ ผมไม่ชอบให้แฟนมาเที่ยวที่แบบนี้น่ะครับ”
จุติโน้มหน้าเข้าไปจนใกล้เกินเหตุ แต่สาวเจ้าก็ย้อนกลับ อย่างไม่ยอมแห้ง่าย ๆ “ดีที่ฉันไม่ใช่ว่าที่คู่หมั้นหรือแฟนของคุณ”
จุติมองว่าที่คู่หมั้นของณัฏฐ์อย่างเคือง ๆ “คุณไม่มีบุญขนาดจะได้เป็นคู่หมั้นหรือแฟนของผมหรอก”
“ถ้าต้องมีบุญแล้วได้เป็นแฟนของคุณ ฉันขอไม่มีดีกว่า”
จุติอ้าปากจะงัดข้อต่อ แต่แล้วกลับถูกเสียงหวานร้องเรียกขัดขึ้นว่า “ติขา...” เสียงดัดจนหวานแหลม ดังมาก่อนตัวเสียอีก จนเจ้าของผับและอรนลินต้องหันไปมองแทบจะพร้อม ๆ กัน
“ริต้าตามหาตั้งนานแหนะ”
จุติผงะตัวออกจากคนที่อยากแกล้งเมื่อครู่ จนอรนลินนึกหมั่นไส้ หญิงสาวคู่ควงจุติตามมากอดแขนจุติแน่น พอเห็นว่าเขาอยู่กับผู้หญิงหน้าตาสวยหวานก็เบ้ปาก ถามด้วยความระแวงปนหมั่นไส้ “แม่นี่ใครคะติ”
อรนลินยิ้มแล้วคิดอะไรสนุก ๆ ได้เลยย้อนถามไปว่า “คิดว่าใครล่ะคะ”
“ติ นี่คุณนอกใจริต้าหรือคะ”
อรนลินเลยบีบเสียงถามบ้าง กลั้นยิ้มเต็มที่ เมื่อเห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของจุติ “แล้วแม่นี่ใครคะติขา”
ริต้าไม่ฟังคำใด ๆ ตวัดมือขึ้นจะตบ จุติไวกว่า รีบเอาตัวเข้าไปบังว่าที่คู่หมั้นของเพื่อน พร้อมจับมือริต้าไว้มั่น ปรามเสียงเข้ม “อย่านะริต้า”
“นี่ติรักมัน จนลงมือกับริต้าเลยหรือคะ”
การลงมือที่สาวริต้ากล่าวหา คือการจับมือเอาไว้ ไม่ให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับหญิงสาวอีกคน เพราะริต้าขึ้นชื่อมากเรื่องหาเรื่องกับคนอื่นไปทั่ว แล้วก็ยังขี้หึงมาก ๆ อีกด้วย ทั้งที่คุยกันแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นแบบไหน แต่ริต้าก็ไม่วายจะผลักตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ในอีกสถานะ
ริต้าดิ้นจนหลุดจากมือของจุติแล้ว ก็ตรงเข้าไปคว้าคอเสื้อของอรนลิน ออกแรงกระชากสุดแรง จนมีเสียงดัง แคว้ก! และเศษผ้าชิ้นเล็ก ๆ ก็ขาดติดมือเจ้าหล่อนไปด้วย
“ว้าย!”
อรนลินยกสองมือขึ้นปิดด้านหน้าลำตัวเอาไว้ เพราะชุดถูกทึ้งจนขาด
บรรยากาศโดยรอบชะงักความสนุกทันทีจุติปล่อยมือจากคู่ขาคนที่ใช้บริการกันประจำ มาคว้าว่าที่คู่หมั้นของเพื่อนให้ซุกกับอกของเขา เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นอกอวบ ๆ ของเจ้าหล่อนไปเสียก่อน ส่วนเขาหรือ เห็นหมดแล้ว จนต้องลอบกลืนน้ำลายอยู่นี่อย่างไรเล่า
แล้วภาพที่ทุกคนในร้านเห็น ก็คือจุติกอดอรนลินอยู่ แถมยังตะโกนสั่งคนในร้านด้วยว่า “เด็ก ๆ ใครก็ได้ มาพาคุณริต้าออกไปหน่อย”
สั่งเสร็จก็ยอมคลายร่างนุ่มนิ่มออก พร้อมกับถอดเสื้อของตัวเองคลุมให้อรนลิน เมื่อนึกได้ว่าจะกอดกันไปแบบนี้ตลอดไม่ได้
“ข้าวฟ่างไปไหนวะเนี่ย” เจ้าของผับชื่อดังตวาดถามเสียงดุกับพนักงานในร้าน
“ขึ้นรถไปกับเพื่อนแล้วค่ะคุณติ”