20

1208 Words
“เงียบ แล้วไปนอนนะคะ คนบ้า” คำหลังเธองึมงำเบา ๆ ไม่กล้าให้เขาได้ยิน เสียงหัวเราะของจุติลอยวนในหัว กว่าจะหลับก็ค่อนคืน แถมยังรู้สึกว่ามีมือมาป้วนเปี้ยนวนเวียนกับร่างกายของเธออีกด้วย จนเคลิ้มหลับสนิทในเวลาต่อมา เช้าตรู่ อรนลินรู้สึกตัวตื่นก่อนเขา แล้วก็ต้องตกใจที่มืออุ่นไต่จากหน้าท้องขึ้นมาที่ทรวงอิ่มของเธอ อรนลินพลิกตัวหันมองเจ้าของมือ ก่อนจะออกแรงถีบเปรี้ยง แรงแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่า เขาลงไปนอนอยู่ที่พื้นแล้วตอนนั้น “เฮ้ย! อะไรวะเนี่ย” เจ้าของมือซุกซนแกล้งโวย เห็นอยู่นะว่าหน้าเขายิ้มกริ่มอยู่น่ะ อรนลินคิดอย่างเคือง ๆ หายง่วงในทันที “ก็คุณจะทำอะไรละคะ ล้วงอยู่ได้ โรคจิตหรือไงคะ” อรนลินว่าแล้วยกมือกอดอก คล้ายกันเขาไว้ให้อยู่ที่ตรงนั้น อย่าได้มารู้ใจเธอเชียวว่าตอนนี้มันเต้นตูมตามแค่ไหน “ก็ทำอะไรเล่า ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ยังมีหน้ามาทำไขสืออีก ตวาดแวดถามเค้นเขา “แต่คุณกำลังจะทำใช่ไหมล่ะคะ” “อะไรของคุณวะเนี่ย” “ตาบ้า! คนหื่น!” ว่าเขาแล้ว เธอรีบลุกออกจากเตียง เข้าไปอาบน้ำ ล้างหน้า เพื่อจะได้ลงไปเตรียมตัว ช่วยขนของที่ด้านล่าง แต่พอเข้าห้องน้ำไป ก็เจอแต่สบู่ยี่ห้อดังยี่ห้อเดียว วางเกลื่อนทั้งที่ขอบอ่างและแถวหน้ากระจก ข้าวของของเธอหายไปไหนหมด เลยจำใจต้องแกะใช้ของ ๆ เขาไปใช้ก่อน อย่างช่วยไม่ได้ บ่นไม่หยุดปาก ที่ถือวิสาสะเอาข้าวของเครื่องใช้เธอไปทิ้งโดยพลการแบบนี้ “ของในกล่อง จัดขึ้นรถเลย” จิลลายืนบอกเด็กรับใช้ จุติเดินลงมาพอดี พร้อมกับเอามือคลึงแถวบั้นเอวตัวเองพร้อมถามไปพลาง “โห นี่จะไปกันกี่วันครับ ของเต็มรถเลย” “เอาไปเถอะน่า เหลือดีกว่าขาด แล้วนั่นเป็นอะไร ปวดหลังหรือติ” “ก็...ครับ เมื่อวานก้ม ๆ เงย ๆ ผิดท่าไปหน่อย ได้เรื่องเลย” จิลลาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง “เอายาไหม” “ไม่ละครับ” “เมียเราล่ะ” “นู่นครับ” จุติจิ้มมือไปทางด้านหลัง ด้วยท่าทางเคือง ๆ จะไม่ให้เคืองได้อย่างไร คนอะไรหวงเนื้อหวงตัวชะมัด ตื่นมาเจอเขากอดหน่อยเดียว ถีบจนเขาตกเตียง แรงเยอะ ผิดกับใบหน้าอ่อนหวานนั่นราวกับมีผีมาสิงอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว อรนลินใส่หมวกปีกสานปิดหน้าตาเกือบครึ่ง แล้วเดินเข้ามาสมทบพร้อมข้าวฟ่าง เธอเองก็นึกเคืองคนเจ้าเล่ห์เช่นกัน ที่ไปตามเธอที่ห้องข้าวฟ่างไม่พอ ยังนอนละเมอจับนั่นจับนี่ไปทั่วตัวของเธออีก จนสะดุ้งตื่น เลยถีบเข้าให้เลย จะได้เลิกมายุ่มย่ามกับเนื้อตัวของเธอเสียที “ตกลงว่าไปนะติ” จิลลาถามย้ำ “ครับ ไปไม่กี่วัน ทางนี้ให้เษมช่วยดูแล้ว คงไม่น่ามีอะไรให้ห่วง” แต่ที่ห่วงคือเมียตัวแสบนั่นมากกว่า จุติมองเขม็งไปทางคนตัวน้อย ที่ยืนคุยยืนหัวเราะอยู่กับข้าวฟ่างและวาคิม จิลลาพยักหน้ารับ ก่อนสั่งขึ้น “เรียบร้อยแล้วขึ้นรถเลยเด็ก ๆ” “เมียจ๋า ไปรถพี่นะ…” หัสนัยที่มาถึงแต่เช้า เดินเข้ามาสมทบ บอกด้วยท่าทางเจียมตัว แต่จิลลาเดินลิ่วไปที่รถของจุติแล้ว อรนลินที่แม้จะยืนคุยอยู่อีกวง แต่มีเรดาร์มองเหตุการณ์ตรงที่หัสนัยและจิลลาอยู่ตลอด เธอรีบเดินเข้ามาคว้ากุญแจรถในมือจุติส่งให้หัสนัยแทน “แลกรถกันค่ะ” หัสนัยชี้มือมาที่เธออย่างถูกใจ “หัวใสนะเนี่ย” “เฮ้ยพี่ เอางั้นเลยนะ แล้วเดี๋ยวพี่จิลลาจะไม่งอนผมหรือไง” “เออน่า พี่รับผิดชอบเอง” หัสนัยบอกจบ เดินตามไปเปิดประตูรถของจุติ ก่อนจะพารถออกไปก่อนเป็นคันแรก จุติยืนมองตามหลังก็นึกขัดใจ บ่นตามไปว่า “ตลอดอะ” บรรยากาศสองข้างทางสบายตา ผ่อนคลายจนเธอเคลิ้มหลับและตื่นไปสองรอบ จนทำท่าจะหลับลงไปอีกครั้ง แต่พอรถจอดลงใต้ต้นหูกวางภายในบ้านพักริมทะเล เธอก็ลืมตาตื่น หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง รถของจุติที่หัสนัยขับไปกับจิลลาสองคนมาถึงก่อนหน้าไล่ ๆ กัน ประตูฝั่งคนนั่งถูกเปิดออกแทบทันที ที่รถจอดสนิท ใบหน้าเรียบเฉยดูบึ้งตึงของจิลลาทำบรรยากาศดีดีหม่นหมองลงอีกครั้ง จุติรีบส่งสายตาบอกไปยังพี่สาวของเขาทำนองว่า ‘ผมถูกบังคับ’ แต่แล้วจิลลาก็เมินหน้าไปทางอื่น เมื่อหัสนัยยิ้มถูกใจ เมื่อได้ใช้เวลาในรถกับภรรยาจอมงอนตามลำพังถึงสามชั่วโมง จุติเข้าไปคล้องแขนพี่สาวของเขา แล้วว่า “เอาน่าพี่ มาเที่ยว อย่าคิดอะไรให้มากมายเลยครับ ทำใจให้สบาย ๆ ดีกว่า” จิลลา ข้าวฟ่าง เธอและนิดช่วยกันเก็บข้าวของมาวางรอให้พวกผู้ชายขนเข้าบ้านไป “พวกผู้ชายจะกลับมาเมื่อไรกัน” “คงเย็นมังคะพี่จิลลา” “อย่าหิ้วท้องรอเลย เราไปจ่ายตลาดกันดีกว่า” ทั้งหมดมีความเห็นตรงกันกับจิลลา จึงพากันขึ้นรถออกมายังตลาดสด ได้ของทะเลติดมาหลายรายการ แล้วจึงกลับที่พัก บ่ายคล้อย จิลลาจึงให้นิดตั้งเตาเตรียมปิ้งย่างอาหารทะเล เมื่อเตรียมของจนเรียบร้อย ยกมาที่โต๊ะหน้าบ้าน พวกผู้ชายก็กลับมาพอดี “สาว ๆ กินอะไรกันหรือยัง” หัสนัยร้องถามก่อนจะเดินเข้ามาสมทบ “กำลังจะกินค่ะ ได้อะไรมาบ้างคะ” หัสนัยชูผลงานในมือ อรนลินที่มองหาจุติอดแซวไม่ได้ “แวะซื้อตรงตลาดแหง ๆ เลย ตัวนี้มีแผลที่ปากหนูดีจำได้” หัสนัยแกล้งว่า “ตลกแล้วยายแสบ” จุติหิ้วถังแช่ลงจากรถตามมาแล้วร้องเรียก “มาช่วยกันขนของหน่อยครับ” อรนลินที่ยืนรออยู่หันไปบอกข้าวฟ่างอีกที “ปะฟ่าง” “ฟ่างไม่ต้องไป คุณนั่นแหละมานี่” ได้ยินเขาพูดราวกับออกคำสั่ง อรนลินจึงละงานในมือตรงไปที่เขาอย่างไม่เกี่ยงงอน พอเดินไปจนถึง จุติก็ยื่นตาข่ายใส่บรรดาเปลือกหอยใหญ่น้อยส่งให้ “เอามาฝาก เห็นนั่งปะดิษฐ์ประดอยงานอะไรของคุณน่ะ เผื่อจะเอาไปใช้ได้มั่ง” รับมาพลิกไปมาอย่างสนใจ แล้วถามเขาไปว่า “คุณซื้อมาหรือคะ” “เก็บจากหาดแถวนั้นแหละ” ได้ยินว่าเขาเก็บมาให้ ก็อมยิ้ม รู้สึกดีนิด ๆ บอกเขาไปว่า “ขอบคุณค่ะ” ข้าวฟ่างมองยิ้ม ๆ อดส่งสายตาแซวไม่ได้ “โอ้ย ฟ่างอิจฉาคนมีคู่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD