นายหัวเถื่อน
บทที่ 1.
ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดและปิดลง ร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนที่เดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องก็หันมามองแทบจะทันที
"คุณหนู!"
นางอุ่นปรี่เข้าไปหาหทัยชนกอย่างร้อนรนหลังจากที่เฝ้ารอเธออย่างกระวนกระวายใจ
"จะทำแบบนี้จริงๆหรือคะ?" นางอุ่นเอ่ยถาม
"จริงสิจ๊ะป้าอุ่น ถ้าหทัยไม่ไปวันนี้ วันอื่นหทัยก็ต้องไปอยู่ดี แต่คงจะได้ไปแค่วิญญาณเท่านั้น"
คำตอบของคุณหนูที่รักปานดวงใจทำให้นางอุ่นถึงกับหน้าถอดสี ถึงจะไม่เห็นด้วย แต่ถ้าให้เลือก นางก็คงเลือกที่จะให้ดวงใจของนางไปจากที่นี่อย่างมีชีวิต
"ผู้ชายคนนั้นล่ะจ๊ะป้า?"
หทัยชนกถามถึงคนที่เธอกับทุกคนวางแผนการณ์หนีของเธอในครั้งนี้ ถึงมันจะดูเป็นการมัดมือชก แต่เธอก็ต้องทำเพื่ออิสระภาพของตัวเอง
"หินกับตาชัยกำลังจัดการค่ะ คุณหนูจะเปลี่ยนเสื้อผ้าไหมคะ?"
นางอุ่นเอ่ยถึงสามีและลูกชายเพียงคนเดียวของนาง ก่อนจะเอ่ยถามหทัยชนก เพราะหากหทัยชนกออกไปทั้งชุดเจ้าสาวแบบนี้ต้องเป็นที่สังเกตของคนอื่นแน่
"จ้ะ"
หทัยชนกพยักหน้ารับแล้วทำท่าจะถอดชุดเจ้าสาวออก หากแต่ยังไม่ทันได้ขยับตัวเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงของนายชัยสามีของนางอุ่นที่ดังตามม
"นังอุ่น ๆ"
นางอุ่นรีบเดินไปเปิดประตูทันทีที่รู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกเป็นสามีของตัวเอง
นายชัยหันมองรอบ ๆ ตัวอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าบริเวณนี้ไม่มีใครร่างผอมเกร็งก็ผลุบเข้าไปในห้องทันที
"นังอุ่น เอ็งรีบพาคุณหนูไปเร็ว ตอนนี้เจ้าหินจอดรถรออยู่ที่ท้ายสวนแล้ว"
นายชัยก้าวเข้ามาในห้องและพูดเสียงเบาแทบจะเป็นกระซิบ แต่หทัยชนกกับนางอุ่นกลับได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำ
"ไปครับคุณหนู รีบไป ตอนนี้ไอ้ประวิทย์เริ่มจะสงสัยที่คุณหนูหายไปนาน ลุงเห็นมันสั่งให้ลูกน้องมาตามคุณหนูแล้ว รีบไปเถอะครับลุงจะพาไป"
นายชัยพูดอย่างร้อนใจ ก่อนจะดึงมือบางขึ้นมาเตรียมจะพาออกจากห้อง
"ไม่ต้องจ้ะลุง"
หทัยชนกร้องห้ามพร้อมกับขืนตัวเองไว้
"ลุงกับป้ากลับเข้าไปในงานเถอะจ้ะ หทัยไปเองได้ ถ้านายประวิทย์ไม่เห็นลุงกับป้าเขาจะยิ่งสงสัย หทัยไม่อยากให้ลุงกับป้าต้องเดือดร้อน"
"แต่มันมืดนะคะคุณหนู"
นางอุ่นค้านด้วยความเป็นห่วง และอีกอย่างนางก็อยากเห็นดวงใจของนางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเพื่อความสบายใจของตัวเอง
"หทัยไปได้จ้ะ ท้ายสวนอยู่แค่นี้เอง ป้าอุ่นไม่ต้องห่วงหทัยนะจ๊ะ"
"เอาเถอะๆ คุณหนูพูดถูกถ้าเราหายไปกันหมดทุกคนต้องสงสัยเราแน่ๆนังอุ่น ให้คุณหนูรีบไปเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันการณ์"
นายชดพูดตัดบทก่อนจะเปิดประตูออกไปชะเง้อดูลาดราวข้างนอกห้อง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยก็หันหน้ามาพยักเพยิดให้หทัยชนกตามตัวเองออกไป
"คุณหนู ดูแลตัวเองดีๆนะคะ"
นางอุ่นพูดเสียงสั่นเครือก่อนจะโอบกอดร่างบางไว้อย่างอาลัยอาวรณ์เมื่อถึงเวลาต้องจากลากันจริงๆ ต่อไปนี้นางคงไม่มีโอกาสได้ดูแลหญิงสาวอีกแล้ว
"จ้ะป้า หทัยจะไม่ทำให้ป้าต้องเป็นห่วง ป้ากับลุงก็เหมือนกันนะจ๊ะ ดูแลตัวเองด้วย ไว้หทัยมีที่ๆปลอดภัยแล้วหทัยจะติดต่อมาหานะจ๊ะ"
หทัยชนกโอบกอดตอบนางอุ่น เธอเองก็รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องจากกันแบบนี้ หลังจากที่มารดาของเธอเสียชีวิตไปก็มีแต่ป้าอุ่นกับสามีของนางเท่านั้นที่คอยดูแลห่วงใยเธอเรื่อยมา
"รีบไปเถอะครับคุณหนู เจ้าหินจะดูแลคุณหนูเอง ไปอยู่ที่โน่นคุณหนูจะปลอดภัยจากคนพวกนี้ที่คอยเอารัดเอาเปรียบ"
นายชดบอก และอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงคนชั่วที่มีศักดิ์เป็นถึงลุงแท้ๆแต่คอยเอารัดเอาเปรียบหญิงสาวเรื่อยมาตั้งแต่คุณนายดวงใจมารดาของเธอสิ้นบุญไป
"หทัยไปนะจ๊ะ"
หทัยชนกบอกลาทั้งสองคนพร้อมกับยกมือไหว้ จากนั้นหญิงสาวก็หันหลังออกวิ่งและพาตัวเองหายเข้าไปในสวนที่สองข้างทางมีแต่ความมืดมิด หากแต่ในใจของหญิงสาวกลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่นิดเดียว เธอรู้แค่เพียงว่าเธอต้องไปจากที่นี่เพื่ออิสระภาพของตัวเอง
สองคนผัวเมียมองตามร่างบางในชุดเจ้าสาวที่วิ่งหายเข้าไปในสวนจนลับสายตา ความห่วงใยยังคงมีอยู่เต็มหัวใจแต่เมื่อคิดถึงความเป็นจริงทั้งสองคนก็ต้องยอมให้มันเป็นไป
"คุณหนูไม่เป็นอะไรหรอกน่านังอุ่น ลูกเราอยู่ทั้งคน"
นายชดเอ่ยปลอบใจคนเป็นเมีย ก่อนจะพากันกลับเข้าไปในงานที่ตอนนี้ลูกน้องของนายประวิทย์กำลังตามหาตัวเจ้าสาวกันจ้าล่ะหวั่น
"มึงหาทั่วดีรึยัง คนทั้งคนจะหายไปได้ยังไง!?"
นายประวิทย์แผดเสียงด่าลูกน้องลั่นด้วยความโมโห ข้างๆกันนั้น นายสุรชัยและนางมารศรีสองสามีภรรยาผู้มีศักด์เป็นลุงแท้ๆกับป้าสะใภ้ของหทัยชกยืนก้มหน้าอยู่ข้างๆอย่างหวาดกลัว
"พวกมึงไปหาใหม่ ตามหาให้ทั่ว ถ้าไม่เจอไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้า!"
นายประวิทย์สั่งลูกน้องของตนอีกครั้งก่อนจะหันมาสองคนสามีภรรยาอย่างเอาเรื่อง
"ถ้าคืนนี้ฉันไม่ได้ตัวเจ้าสาวของฉันล่ะก็ สัญญาระหว่างเราเป็นอันยกเลิก!"
นายประวิทย์พูดเสียงกร้าวก่อนจะเดินผ่านหน้าทั้งสองคนไปยังรถที่จอดรออยู่
เหตุการณ์ทั้งหมดตกอยู่ในสายตาของนางอุ่นกับนายชดตลอด สองคนผัวเมียทำทีเป็นช่วยเด็กในบ้านเก็บของเพื่อไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกตุของคนอื่น ทั้งสองคนภาวนาในใจให้ตอนนี้หทัยชนกพ้นจากเขตุบ้านสวนไปแล้วด้วยเถอะ
ในขณะเดียวกันนั้น ร่างบางในชุดเจ้าสาววิ่งลัดเลาะไปตามคูน้ำอย่างเร่งรีบ แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจแต่เธอก็ยังกัดฟันวิ่งต่อ อีกนิดเดียวเท่านั้นแค่พ้นโค้งตรงหน้าหญิงสาวก็จะไปถึงยังจุดหมายที่ศิลารออยู่
คิดแค่นั้นหทัยชนกก็ออกตัววิ่งเร็วขึ้น เพื่อจะไปให้ถึงเร็วกว่านี้
แต่...
ในขณะที่ร่างบางกำลังจะพ้นชายสวน อยู่ๆเงาดำสูงใหญ่ก็โผล่พรวดเข้ามาขวางทางเธอเอาไว้ หทัยชนกตกใจแทบสิ้นสติ สองมือยกขึ้นปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองเอาไว้เพราะกลัวคนอื่นจะได้ยินและพากันมาที่นี่
ร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาหทัยชนกช้าๆ ในขณะที่หญิงสาวค่อยๆก้าวถอยหลังไปทีล่ะก้าว....