นายหัวเถื่อน
บทที่ 7.
"ว้าย! จะทำอะไร!?"
หทัยชนกร้องถามอีกฝ่ายหน้าตื่น เมื่อมือหนายื่นมากระชากร่างบางเข้าไปในวงแขนแข็งแรงอีกครั้ง
"จะลงโทษหมาบ้า!" ราเมศน์ตอบยิ้มๆ
หทัยชนกดิ้นสุดแรง แต่อ้อมแขนของราเมศน์ยิ่งกอดกระชับแน่นขึ้น มือข้างหนึ่งจับยึดท้ายทอยไว้ จากนั้นริมฝีปากอุ่นร้อนก็ฉกวูบลงมาแนบริมฝีปากบาง ก่อนจะเพิ่มแรงบดขยี้เคล้าคลึงไปทั่วริมฝีปากอิ่มอย่างลงโทษที่กล้าทำร้ายเขา
ในตอนแรกราเมศน์แค่ต้องการจะลงโทษร่างบางในอ้อมแขนเท่านั้น แต่ความหวานล้ำของริมฝีปากอิ่มกลับทำให้นายหัวหนุ่มเคลิบเคลิ้มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ในขณะที่หทัยชกเบิกตากว้างชาไปทั้งตัว หัวใจของหญิงสาวเต้นรัวเร็วแทบทะลุออกมานอกอก เธอพยายามดิ้นออกจากวงแขนแกร่ง แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งกอดรัดเธอแน่นจนร่างเล็กๆแทบจมหายไปกับอกกว้าง
"อื้อ!"
หทัยชนกพยายามส่ายหน้าหนี และเมื่อหลบไม่พ้น หญิงสาวก็ส่งเสียงครางประท้วงมือบางทุบตีหน้าอกแกร่งแรง แต่ริมฝีปากร้อนก็ยังไม่ยอมหยุดรังแกเธอ
"หวาน.."
ราเมศน์ลงโทษร่างบางในอ้อมแขนจนพอใจจึงยอมถอนริมฝีปากออกจากปากอิ่มที่ตอนนี้ออกอาการแดงช้ำเพราะเขา ก่อนจะยิ้มยั่วใส่ตาเธออย่างหยอกเย้า
"อ่ะ!..ไอ้คนบ้า! โรคจิต! หื่นกาม!"
หทัยชนกถึงกับฟิวส์ขาด มือบางทั้งหยิกทั้งข่วนทุบตีอกกว้างไม่ยั้ง แต่ราเมศน์ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด ซ้ำร้ายปลายจมูกโด่งยังก้มลงมาซุกไซ้แก้มนวลทั้งสองข้างอีกต่างหาก
"นี่แค่ลงโทษสถานเบาเองนะ ที่เกาะนี้ฉันคือผู้ปกครอง เป็นเจ้าชีวิตของทุกคนที่นี่ ไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายฉัน เห็นแก่ที่เธอพึ่งจะมาใหม่ ลงโทษแค่เบาะๆก็พอ"
"ทุเรศ!..คุณมัน.."
หทัยชนกอ้าปากพะงาบๆ พออ้าปากจะด่าเขาอีก นิ้วชี้แข็งแรงก็จิ้มมาที่หน้าผากของหญิงสาวทันที ตามด้วยเสียงขู่อย่างเอาเรื่อง
"ถ้าด่า...จะโดนอีก และจะโดนหนักกว่าเมื่อกี้นี้ด้วย"
หทัยชนกปิดปากเงียบทันที ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง หนึ่งเพราะเริ่มกลัวสายตาคมของเขาที่มองมาอย่างมีความหมาย
"จากตรงนี้กว่าจะถึงหมู่บ้านต้องเดินเท้าเข้าไปอีกไกล ถ้าไม่อยากถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่ก็ตามฉันให้ทัน"
ราเมศน์พูดเสียงเรียบ มือหนาปล่อยร่างบางเป็นอิสระแล้วก้าวเดินเข้าป่าไปทันที โดยไม่หันมาสนใจหญิงสาวเลยสักนิดว่าจะตามมาทันไหม
"หนอย! นายหัวราม นายคนเถื่อน อย่าให้มีโอกาสเอาคืนนะ จะเอาคืนให้หนักเลย คอยดู!"
หทัยชกพึมพำเบาๆอย่างอาฆาตคนตรงหน้า ก่อนจะก้าวตามร่างสูงไปเพราะไม่อยากถูกทิ้งไว้ที่นี่ แต่เพียงแค่ก้าวเท้าเดินเท่านั้นหญิงสาวก็นิ่วหน้าออกมาทันทีเพราะอาการเจ็บแปลบที่ข้อเท้า ร่างบางเเข็งใจกัดฟันเดินต่อไปโดยไม่คิดจะร้องขอความช่วยเหลือจากร่างสูงที่เห็นหลังไวๆนั่นแม้แต่น้อย
ราเมศน์เดินเร็วมาก ร่างสูงทิ้งระยะห่างจากร่างบางพอสมควรแต่สายตาคมก็คอยหันกลับไปมอง ร่างบางเป็นระยะๆ และเมื่อราเมศน์หันกลับไปมองหญิงสาวอีกครั้ง คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันทันทีอย่างขัดใจกับภาพที่เห็น
ตอนนี้หทัยชนกค่อยๆเดินเกาะต้นไม้สองข้างทางมาอย่างทุลักทุเล ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็สาละวนอยู่กับการถลกชายผ้านุ่งขึ้นมาที่ต้นขาเพราะเกะกะเวลาที่เธอก้าวเดินแต่ล่ะครั้ง
ริมฝีปากหนายิ้มเหยียดก่อนจะเดินกลับไปหาร่างบางที่ตอนนี้สะดุดรากต้นไม้ล้มลงไปนั่งพิงต้นไม้อย่างหมดสภาพ
"ชักช้าแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะถึง"
ราเมศน์พูดเสียงเรียบ แววตาคมขุ่นมัวอย่างเห็นได้ชัด แล้วมือหนาก็ดึงมีดสั้นเล่มเล็กที่พกติดตัวอยู่เสมอขึ้นมา ในขณะที่หทัยชนกมองการกระทำของคนที่เธอเรียกว่าคนเถื่อนตาค้าง และเริ่มสติเเตกเพราะหวาดกลัว!
นี่เขาจะทำอะไรเธอ ทำไมต้องดึงมีดขึ้นมาด้วย หรือเขาจะรำคาญที่เธอชักช้าเลยต้องการจะตัดปัญหาด้วยการฆ่าเธอทิ้งไว้ในป่านี่!
ร่างสูงเดินเข้าไปหาร่างบางด้วยใบหน้าเรียบเฉย ส่วนหทัยชนกก็ขยับถอยหลังไปเรื่อยๆ เมื่อคิดว่ายังไงก็กนีไม่พ้น สองมือก็ยกมือขึ้นมาปิดหูปิดตาและหลับหูหลับตากรี๊ดร้องลั่นป่า
"กรี๊ดด! ไม่นะ! อย่าทำอะไรฉัน! ไม่!"
แคว่ก! แคว่ก! แคว่ก!
"...."
เสียงหลาดที่ได้ยินทำให้หทัยชนกค่อยๆลืมตาขึ้นมอง แล้วก็พบว่านายหัวคนเถื่อนไม่ได้คิดจะฆ่าเธออย่างที่คิดกลัวไปไกล แต่จริงแล้วเขาแค่ต้องการจะตัดชายผ้านุ่งที่เธอใส่ทิ้งไปด้วยมีดพกเล่มเล็กของเขาต่างหาก
"คิดไปถึงไหน? แบบนี้มันคงจะทำให้เธอเดินสะดวกขึ้น รีบตามมาล่ะ ไม่อย่างนั้นเธอได้กลายเป็นผีเฝ้าป่านี้จริงๆแน่"
ราเมศน์พูดด้วยน้ำเสียงดุดันทั้งที่ในใจอยากจะหัวเราะให้กับท่าทางของหญิงสาวเต็มที่ ร่างสูงหันหลังกลับเดินต่อไปทันทีพร้อมกับรอยยิ้มที่ค่อยๆเผยออกมาทีล่ะน้อย
หทัยชนกถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ร่างบางกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ก่อนจะก้าวตามร่างสูงไปอีกครั้ง ตอนนี้ข้อเท้าของเธอเจ็บเหมือนจะฉีกขาดออกจากกัน และพอเธอก้มลงไปมองก็พบว่ามันบวมแดงน่ากลัว
ในแต่ล่ะครั้งที่เธอก้าวเดิน เธอเจ็บจนน้ำตาร่วง แต่ก็ยังอดทนแข็งใจเดินตามร่างสูงไปเงียบๆ เพราะไม่อยากถูกเขาทิ้งไว้ที่นี่
และในที่สุดความอดทนของหทัยชนกก็สิ้นสุดลง เมื่อขาข้างที่เจ็บก้าวไม่พ้นขอนไม้ขนาดใหญ่ที่ขวางทางอยู่ ร่างบางล้มกลิ้งลงไปนอนกับพื้นคล้ายนกปีกหัก
"คุณ...นายคนเถื่อน..."
หทัยชนกเรียกร่างสูงที่เห็นหลังไวๆเสียงสั่น ริมฝีปากบางสั่นระริก น้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม แต่ร่างสูงของราเมศน์ไม่หันกลับมามองเธอแม้แต่น้อย ร่างบางสะอื้นจนตัวโยนมองร่างสูงค่อยๆเดินหายไปจากสายตาอย่างหวาดกลัว
"นายคนเถื่อน...นายมันใจร้าย..."
หทัยชนกตัดพ้อทั้งน้ำตา สองมือโอบกอดตัวเองไว้แน่น เธอมองไปรอบๆตัวอย่างเคว้งคว้าง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอแต่ป่าทั้งนั้น
ในขณะเดียวกันราเมศน์ที่เดินไปข้างๆหน้าเรื่อยๆก็เริ่มเอะใจที่ไม่เห็นร่างบางเดินตามมาสักที แต่ด้วยความที่อยากจะสั่งสอนคนอวดดีทำให้เขาไม่คิดจะย้อนกลับไปดูเธอ
'อวดดี ดื้อรั้น ถ้าไม่ดัดนิสัย ก็คงจะปกครองยาก' ราเมศน์คิดในใจ
ร่างสูงเดินต่อไปอีกจนถึงต้นไม้ใหญ่ เขาตัดสินใจที่จะนั่งรอหญิงสาวอยู่ตรงนี้ หากแต่เวลาที่ผ่านไปนานพอสมควร จนแล้วจนรอดราเมศน์ก็ยังไม่เห็นว่าร่างบางของหทัยชนกจะตามมา
ในที่สุดราเมศน์ก็ตัดสินใจเดินกลับไปยังทางที่ตนเพิ่งจะเดินผ่านมาอีกครั้งเมื่อเริ่มเอะใจ
บางที....
อาจจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเธอ!
แล้วราเมศน์ก็คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ย้อนกลับมาเมื่อเห็นร่างบางของหทัยชนกนั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นปริ่มจะขาดใจอยู่กลางป่า
ร่างสูงตรงเข้าไปทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าหญิงสาว วูบหนึ่งแววตาคมมองดวงหน้าหวานอย่างห่วงใยและรีบกลบเกลื่อนมันไว้ก่อนที่คนตรงหน้าจะทันได้เห็น
สายตาคมกวาดมองไปทั่วร่างบางเพื่อหาสิ่งผิดปรกติก่อนจะอยู่ที่ข้อเท้าบวมเปล่ง มือหนายื่นไปสัมผัสข้อเท้าของหญิงสาวอย่างเบามือ แต่ก็ยังเจ็บอยู่อยู่ดีในความรู้สึกของหทัยชนก
"ทำไมไม่บอก?"
ราเมศน์ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง หทัยชนกไม่ตอบคำถามของเขา ทั้งที่เธออยากจะต่อว่าเขาต่างๆนาๆ แต่ความเจ็บและอ่อนล้าทำให้เธอเหนื่อยเกินกว่าที่จะพูดมันออกไป ตอนนี้เธอทำได้แค่เพียงปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแทนคำพูดเท่านั้น
"ไม่ร้องนะ...ฉันอยู่นี่แล้ว"
ราเมศน์พูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันหลังให้หญิงสาว
"ขึ้นมา..."
คราวนี้หทัยชนกโผเข้าไปเกาะหลังร่างสูงทันทีอย่างไม่มีแง่งอนเพราะกลัวว่าจะถูกทิ้งไว้อีก
เอาเถอะ...
ฝากไว้ก่อนก็ได้ เธอจะยอมให้ก่อน แค่ตอนนี้หรอกนะ เอาไว้ให้เธอเป็นต่อเมื่อไหร่ก่อนเถอะ เธอค่อยเอาคืนตอนนั้นก็ได้
ราเมศน์ลอบยิ้มก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืนโดยมีร่างบางของหทัยชนกขี่อยู่บนหลัง และเพียงแค่เขาก้าวเดินมือบางก็โอบรอบคอแกร่งไว้แน่น จนชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นของทรวงสาวที่แนบมากับแผ่นหลังกว้าง
ขาแข็งแรงพาร่างบางบนหลังก้าวเดินไปอย่างมั่นคง ถ้าเธอยินดีที่วางชีวิตและหัวใจไว้ในมือของเขา แน่นอนว่าราเมศน์เองก็พร้อมที่จะดูแลและปกป้องเธอด้วยหัวใจของเขาเช่นเดียวกัน
...........................