CHAPTER 3 “เกลียดตั้งแต่ยังไม่ได้เจอ”

2321 Words
“เฮ้อ...จากประวัติ โคตรแย่ แม่จะจับแต่งงานกับไอ้พี่คนนี้นี่แหละ” ‘ห๊ะ!!!’ / ‘ห๊ะ!!!’ เมื่อสมายพูดจบ เพื่อนสองคนก็ตะโกนลั่น จีนเด้งตัวจากที่นอน ลุกมานั่งขัดสมาธิจ้องหน้าเพื่อนผ่านโทรศัพท์ ในขณะที่โบว์ต้องหันไปบอกสามีว่าไม่มีอะไร เพราะเธออุทานจนเค้าต้องวิ่งมาดู ‘แล้วแกจะยอมหรอ นิสัยขนาดนี้ ขั้วตรงข้ามชัด ๆ’ จีนถามสมายด้วยความเป็นห่วง “จริง ๆ วันนี้ตอนที่รู้เรื่องคือมันสตั๊นไปอ่ะ บอกไปแล้วนะว่าไม่โอเค เรื่องนี้ขอเลือกเอง แม่ก็ไม่ยอม คือแม่จะให้ไปกินข้าวกับสองพ่อลูกนั่นพรุ่งนี้เย็น แถมทิ้งท้ายมาว่า ห้ามปฏิเสธอีก” สมายบ่น ‘ทำไมไม่ลองคุยดูล่ะ ว่าไม่ได้ชอบไม่ได้รัก มันจะอยู่กันยากนะแก ทั้งชีวิตเลยนะ’ โบว์แนะนำเพื่อน “แกก็รู้ ว่าที่ผ่านมา แม่จัดการทุกเรื่องมาตลอด แต่เรื่องนี้ชั้นไม่เคยมีแฟนไง เลยไม่เคยเจอว่าปัญหามันจะเป็นยังไง ก็ตะหงิดใจตั้งแต่แม่เริ่มถามและ ว่ามีแฟนมั้ยตอนนี้” สมายระบายให้เพื่อนฟัง ‘แล้วถ้าแกมีแฟนล่ะ แม่แกจะยอมยกเลิกงานแต่งมั้ย’ จีนถาม สมายมองเพื่อนผ่านหน้าจอแล้วส่ายหน้า “ไม่รู้สิ แม่ก็คงถามกลับ ‘ไหนว่าไม่มีแฟนไง’ ประมาณนี้มั้ง แต่ชั้นไม่มีแฟนไงแก ประเด็นมันอยู่ตรงนั้นแหละ” สมายคิดไม่ตก ไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไง ‘หาสิ ตอนนี้เลย ถ้าแกมีแฟน ก็จะมีคนช่วยคุยกับแม่ให้’ โบว์เสนอวิธี “มันหาง่ายมั้ง แฟนเนี่ย เดิน ๆ ไปหยิบมาคนนึง เงี้ยหรอ” สมายเริ่มโวยวาย โบว์ก็นั่งยิ้มขำท่าทีเพื่อน ‘คนที่รอเค้าจริงจังอยู่ไง ไปขอให้ช่วยสิ แค่มาแกล้ง ๆ หลอกก็ได้มั้ง’ จีนแซวเพื่อนกลับ “วุ้ย ไม่เอาหรอก ไปขอให้มันช่วย เดี๋ยวก็แซว รำคาญเจอหน้ากี่ทีก็ได้แต่แซว แซวมาจะสิบปีแล้ว ไม่รู้จักหยุด” สมายโบกมือปัดไปมา ปฏิเสธข้อเสนอจีน ‘รำคาญจริงป่าว’ โบว์ทำหน้าล้อเลียน ‘นั่นสิ หรือจริง ๆ ไม่ได้รำคาญที่แซวหรอก รำคาญเมื่อไหร่จะจีบจริง ๆ ซะทีวะ ไรงี้ป่ะ’ จีนรับไม้ต่อ “หยุดเลยพวกแก ช่วยกันคิดก่อน เอาไงดี เครียดและเนี่ย แกก็รู้ชั้นไม่ชอบคนเจ้าชู้ นี่มันตัวพ่อเลยนะ” สมายลากเพื่อนกลับเข้าเรื่อง ‘แล้วพรุ่งนี้แกไม่ไปได้หรอ ถ้าได้ เดี๋ยวชั้นช่วยเอง’ จีนเสนอตัวช่วยเพื่อนออกจากสถานการณ์อึดอัด “คงไม่ได้อ่ะ เฮ้อ...เอาเป็นว่า พรุ่งนี้จะลองไปดูท่าทีทางนู้นก่อน แล้วค่อยลองคุยกับแม่ดีดีว่าไม่ชอบ หาทางปฏิเสธไป ดีมะ” สมายคิดออกแค่ทางนี้ทางเดียว ‘ก็คงได้แค่วิธีนี้แหละ เตรียมไปให้พร้อม อุปกรณ์ป้องกันตัว ตั้งเบอร์ชั้นเป็นเบอร์โทรด่วน มีอะไรโทรมาเลย พรุ่งนี้จะสแตนบาย โอเคนะ’ จีนกำชับสมาย ‘เดี๋ยวจีน มันไปกับแม่ แล้วไปกินข้าวไม่ได้ไปรบ ต้องเบอร์นั้นเลยเนอะ’ โบว์ถามเพื่อน ‘แน่นอนจ่ะ เผื่อไว้ฉุกเฉิน แกอย่าลืม มันกับแม่เป็นผู้หญิงสองคน ทางนู้นเค้าผู้ชายทั้งคู่ ระวังไว้ดีกว่า เข้าใจนะสมาย มีอะไรโทรมาเลย’ จีนตอบโบว์แล้วย้ำกับสมายอีกที “เออ ๆ ขอบใจนะแก ไว้พรุ่งนี้กลับมาแล้วรายงานอีกที ฝากขอบคุณคุณสามีแกด้วยโบว์ สำหรับข้อมูล ไปนอนและ พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้า” สมายขอบคุณเพื่อนแล้วขอตัวไปนอน ทั้งสามสาวจึงยุติการสนทนาไว้เพียงเท่านั้น Hirun Wattana Grand Hotel สมายนั่งเคลียร์เอกสารด่วนในช่วงบ่ายอยู่ในห้องทำงาน ก็ได้รับโทรศัพท์จากพี่นิตา บอกว่าท่านประธานให้ลงไปรอที่รถในอีก 10 นาที สมายจึงไล่ตรวจเอกสารที่เหลือ ก่อนที่จะคว้ากระเป๋ากับโทรศัพท์แล้วลงไปหาแม่ข้างล่าง “มาช้านะ แม่บอกว่า 10 นาทีไง” แม่ที่นั่งรออยู่ในรถ กล่าวตำหนิลูกสาว เธอช้าไปแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง “หนูมีเอกสารด่วนต้องเซ็นค่ะ เสร็จแล้วก็รีบลงมาเลย” สมายตอบพร้อมรีบก้าวขึ้นรถ ก่อนที่จะทำให้แม่โมโหไปมากกว่านี้ “แล้วตกลงเราจะไปไหนกันนะคะ” “แม่จะพาเราไปสปา ขัดผิว ทำผม แต่งตัวใหม่ ก่อนที่จะไปดินเนอร์เย็นนี้” สมายหันมองแม่ทันที “แม่คะ แม่ยกเลิกประชุม ด้วยเรื่องแค่นี้หรอคะ ไหนบอกว่าแค่ทานข้าวเฉย ๆ นี่จัดเต็มขนาดนี้ แม่ไม่เอาหนูใส่พานยกให้เค้าไปเลยล่ะคะ” สมายย้อนถามประชดแม่ด้วยความโมโห “อ่าว นี่แม่ก็ยกเราให้เค้าแล้วไง เหลือแค่รอพวกเราพร้อมก็แต่งเลย” แม่ตอบเหมือนไม่ได้แคร์อะไร “แม่คะ สมายอยากเลือกคนรักด้วยตัวเอง ที่สมายยอมมากับแม่วันนี้ เพราะเห็นว่าแม่รับปากกับเค้าไว้แล้ว แต่ยังไงสมายก็ไม่ยอมแต่งงานกับเค้าแน่ ๆ พี่เค้าเจ้าชู้ขนาดไหน คุณแม่ไม่รู้เลยหรอคะ จะให้สมายอยู่กับคนแบบนั้นไปทั้งชีวิต สมายทำไม่ได้” เมื่อแม่เริ่มไม่ฟัง สรรพนามที่ใช้ก็เริ่มเปลี่ยนไป “มันอาจจะเป็นแค่อดีต เรารู้ได้ยังไงว่าตอนนี้พี่เค้าเป็นแบบนั้น ทำความรู้จักกันไป เดี๋ยวก็อยู่ด้วยกันได้ บ้านเรากับบ้านเค้าก็ทำธุรกิจด้วยกันมานาน หุ้นบริษัทเรา เค้าก็มี เค้าคงไม่ทำอะไรไม่ดีหรอก แกก็คิดมากเกิน” แม่พยายามอธิบายให้สมายฟัง “สมายจะทำให้แม่เห็น ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดีแบบที่แม่คิด” เธอพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ปล่อยให้แม่ลากไปสปา ทำนั่น ทำนี่ ตามใจชอบ เพื่อที่จะไปดินเนอร์กับคนบ้านนั้น สองคนแม่ลูกเดินทางมาถึงร้านอาหารที่นัดไว้ ตอนหกโมงเย็น แจ้งชื่อกับพนักงาน เพื่อให้พนักงานพาเข้าไปในโซนวีไอพี ที่ถูกจัดแยกโซนไว้จากที่นั่งของลูกค้าทั่ว ๆ ไป เมื่อมาถึงที่โต๊ะ ก็พบกับผู้ชายสองคน ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว “สวัสดีค่ะคุณภาค นี่คงจะเป็นภาคิน หล่อใช่เล่นเลยนะคะเนี่ย นี่น้องสมาย เป็นลูกสาวคนเดียวของดิฉันเองค่ะ” สมายยกมือไหว้คุณภาค และ ภาคิน แล้วนั่งลงอีกฝั่งตรงข้ามกับผู้ชายคนนั้น “สวัสดีครับ ลูกสาวคุณชนิกาก็สวยน่ารักมากเหมือนกันครับ เคยเจอตั้งแต่ยังเด็ก โตมาสวยจนจำไม่ได้เลย” ภาคเอ่ยชมสมายกลับ “สวัสดีครับ คุณน้า แล้วก็น้องสมาย ยินดีที่ได้เจอนะครับ” ภาคินส่งสายตาหวานมาให้สมายพร้อมเอ่ยชม สมายพยายามเก็บอาการไว้ เธอยังไม่อยากหักหน้าแม่ตอนนี้ “ไม่ต้องเรียกน้าหรอกจ่ะ เรียกแม่เหมือนสมายก็ได้ แม่ไม่ถือยังไงเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว” สมายยื่นมือไปจับข้อศอกแม่ไว้ เชิงปรามว่าแม่เธอจะเปิดทางให้เค้าเกินไปแล้ว “ขอบคุณนะครับคุณแม่ ทานอะไรกันดีครับ คุณพ่อกับผมสั่งไปบ้างแล้ว คุณแม่กับน้องจะสั่งอะไรเพิ่มมั้ยครับ” ภาคินเอ่ยถามแล้วยื่นเมนูมาให้ คุณแม่รับไปดูพร้อมสั่งอาหารเพิ่มอีกสองอย่าง “เป็นยังไงบ้างหนูสมาย บริหารงานยากมั้ยโรงแรม” คุณภาคเอ่ยถามระหว่างรออาหาร “ตอนแรก ๆ ก็ยากหน่อยค่ะคุณลุง แต่ว่าตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แต่ก็คงต้องเรียนรู้อีกหลายอย่าง” สมายตอบพร้อมยิ้มมารยาทกลับไป “ไม่ต้องเรียกลุงหรอก เรียกพ่อเถอะ จะได้ดูสนิทกัน” คุณภาคเอ่ยอนุญาต “ไม่ดีกว่าค่ะ สมายเกรงใจ สมายยังไม่ชิน ขอบคุณนะคะที่เอ็นดูสมาย” สมายกัดฟันยิ้มตอบกลับไป พลางหลบสายตาดุที่คุณแม่ส่งมาให้ “แล้วพี่ภาคินล่ะคะ กลับมาคราวนี้จะมาช่วยงานคุณลุงเลยมั้ยคะ” ภาคินฝืนยิ้มให้สมายกับคำถามนั้น “ยังหรอกลูก ตาคินเพิ่งกลับมา พ่ออยากให้พักก่อน ตอนนี้น้องแพรก็ช่วยพ่ออยู่ พ่อว่าจะให้พี่เค้าพักซักปี แล้วให้เรียนต่อ เอาปริญญาเอกไปเลย” คุณภาคเอ่ยเยินยอลูกชายให้สมายฟัง ‘หึ ให้พักหรือลูกไม่ยอมทำงานกันแน่คะ คุณลุง’ “พี่พักก็ดีนะครับ จะได้มีเวลาไปรับไปส่งเราไง ทำความรู้จักกันก่อนแต่งงาน” ภาคินยิ้มเจ้าเล่ห์ให้สมาย “ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ สมายขับรถเองสะดวกกว่า” สมายปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นทันที แทบไม่ต้องคิด “น้องคงยังไม่ชิน ปกติไม่เคยมีแฟนหรอกจ่ะ ดูแลตัวเองมาตลอด แม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา ได้คินมาช่วยดูแลน้อง แม่ก็จะได้สบายใจ” แม่เธอเอ่ยแก้สถานการณ์ออกไป บรรยากาศการทานข้าว ค่อนข้างอึดอัด เพราะเธอไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับบทสนทนาของพวกเค้าเลย อีกทั้งรอยยิ้มมุมปากแสนเจ้าเล่ห์ที่ส่งมาจากคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอนั้น มันช่างดูไม่น่าไว้ใจซักเท่าไหร่นัก เมื่อทานอาหารเสร็จ ทางฝ่ายชายอาสาเป็นเจ้ามือในมื้อนี้ เพื่อเป็นเกียรติให้กับการพบกันครั้งแรก ซึ่งแม่เองก็ไม่ปฏิเสธ แต่ขอเลี้ยงคืนในมือหน้าแทน ‘นี่ยังจะมีอีกหรือไงนะ แค่ครั้งเดียวนี่ก็เกินทนแล้ว’ “คิน ยังไงแม่ฝากไปส่งน้องที่คอนโดหน่อยนะจ๊ะ แม่ต้องกลับบ้านมันคนละทางกัน รบกวนคินรึเปล่า” แม่เธอเอ่ยฝากฝังให้เค้าไปส่งเธอที่คอนโด ในเวลานี้เนี่ยนะ “แม่คะ หนูกลับเองได้ค่ะ เรียกแกร๊บก็ได้ ไม่ต้องรบกวนพี่เค้าหรอก” สมายหันไปขัดความคิดแม่ “ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้รบกวนอะไรเลย พี่ไปส่งได้ เรียกแกร๊บตอนนี้มันอันตรายนะ ดึกแล้ว พี่เป็นห่วง” สมายเบือนหน้าหนี เบ้ปากให้ความเป็นห่วงที่เสแสร้างแกล้งทำ “เรากลับกับพี่เค้านั่นแหละ แม่จะได้ไม่ห่วง แม่ไปก่อนนะ สวัสดีนะคะคุณภาค แม่ฝากน้องด้วยนะคิน” ล่ำลากันเสร็จ แม่เธอก็เดินไปขึ้นรถของที่บ้านที่มาจอดรอรับด้านหน้าร้าน “พ่อไปแล้ว แกก็ไปส่งน้องดีดีล่ะ เจอกันที่บ้าน” พ่อตบบ่าลูกชายแล้วเดินเลี่ยงขึ้นรถไป “เชิญครับ น้องสมาย” ภาคินผายมือ ให้สมายเดินไปที่รถของเค้า เปิดประตูด้านข้างคนขับให้นั่ง แล้วเดินอ้อมไปประจำที่ตัวเอง “น้องสมายดูไม่ยินดีกับการแต่งงานของเราเลยนะครับ ไม่ชอบพี่หรอ” ภาคินเอ่ยถามคนข้าง ๆ ที่เอาแต่นั่งเงียบ แสดงสีหน้าไม่พอใจตลอดการทานข้าวเมื่อกี้ “ค่ะ ทั้งไม่ชอบพี่ และ ไม่ยินดีที่จะแต่ง สมายจะยกเลิกงานแต่งงาน” สมายพูดออกไปตรง ๆ แต่กลับได้เสียงหัวเราะในลำคอกลับมา “ทำไปปิดโอกาสพี่ขนาดนั้นครับ พี่ว่าพี่ก็หล่อพอตัวอยู่นะ ดีกรีนักเรียนนอก มีอะไรที่ไม่น่าสนใจ” “ก็เพราะพี่เจ้าชู้ไงคะ พี่จำสมายไม่ได้หรอ สมายเป็นรุ่นน้องที่คณะ แถมยังเป็นเพื่อนสนิทจีน คนที่พี่เคยจะจีบ ชื่อเสียงพี่สมัยมหาลัยก็ใช่ย่อยเลยนะคะ” ภาคินหันมามองหน้าสมาย แล้วหันไปมองทางต่อ ทำไมเค้าถึงจำเธอไม่ได้นะ “แหม นั่นมันก็นานมาแล้วนะครับ ฝังใจจำนะเรา พี่อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้นะครับ ลองเปิดใจให้พี่ดูก่อนสิ พี่ก็ผู้ชายของแบบนี้มันก็ต้องเคยผ่านมาบ้าง” ภาคินเอื้อมมือไปจับมือสมายที่วางอยู่บนตักเธอ แต่สมายก็สะบัดมือออกจากการเกาะกุมแทบจะในทันที และปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบรรยากาศในรถ เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงคอนโดของเธอแล้ว “การเปิดใจให้คนแบบพี่ มันคงยากค่ะ สมายเกลียดคนเจ้าชู้ ไม่ชอบคนกะล่อน และสุดท้าย สมายไม่ชอบคนไม่มีอนาคต เคลียร์นะคะ ยังไงก็ขอบคุณที่มาส่ง สวัสดีค่ะ” สมายเอ่ย เมื่อรถจอดเทียบหน้าคอนโด เธอยกมือไหว้ภาคิน แล้วเปิดประตูลงจากรถไป “หึหึ หยิ่งนักนะ เดี๋ยวจะได้เห็นดีกัน เชิดหน้าไปได้อีกไม่นานนักหรอกสาวน้อย ชั้นจะทำให้เธอนอนครางใต้ร่างชั้นให้ดู” ภาคินมองตามสมายจนลับสายตา ไม่เคยมีอะไรที่เค้าอยากได้แล้วไม่ได้ และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเค้าแถมยังด่าตอกหน้าขนาดนี้ ภาคินขับรถออกจากหน้าคอนโดสมาย แล้ววนรถกลับไปคลับประจำของเค้าและกลุ่มเพื่อน เพื่อปาร์ตี้สังสรรค์คลายเครียดซะหน่อย ไม่งั้นคงนอนไม่หลับแน่ ๆ กับแค่ผู้หญิงคนเดียว มันจะไปยากอะไรนักหนา ปล่อยให้ลอยหน้าลอยตาไปก่อน อีกไม่นานนักหรอก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD