CHAPTER 2 “แม่จะให้แต่งงาน”

1959 Words
Hirun Wattana Grand Hotel สมายเดินเข้ามาในห้องทำงานรองประธานกรรมการบริหาร แล้วนั่งลงที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เอนหลังพิงพนักพลางหลับตาลง เพื่อผ่อนคลายหลังจากที่เข้าประชุมกับฝ่ายขายในช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากเรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจ ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนรักอย่างจีน เธอก็เข้ามาช่วยแม่บริหารธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในเครือหิรัญวัฒนา ในตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหารแทบจะในทันที เธอค่อนข้างกดดันกับการเข้ารับตำแหน่งนี้ ด้วยความคาดหวังที่แม่มีต่อลูกสาวคนเดียวนั้นสูงมาก เธอจึงทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างหนัก กว่าจะได้รับการยอมรับจากทุกคนได้อย่างทุกวันนี้ ก๊อก!...ก๊อก!...ก๊อก! “เชิญค่ะ” สมายเอ่ยอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามา เธอขยับนั่งหลังตรงและมองไปทางประตูห้อง “น้องสมายคะ เมื่อซักครู่ท่านประธานโทรเข้ามา ให้น้องสมายออกไปทานข้าวพร้อมท่านตอนเที่ยงค่ะ แล้วก็พรุ่งนี้ช่วงบ่าย ตารางการประชุมถูกเลื่อนไปเป็นวันมะรืนนะคะ ท่านประธานจะพาน้องสมายไปทำธุระข้างนอก” พี่นิตา เลขาส่วนตัวของสมาย แจ้งตารางงานที่ถูกเปลี่ยนกะทันหัน “ทานข้าวนี่สมายพอเข้าใจ แล้วพรุ่งนี้นี่มีธุระเรื่องอะไรกันแน่คะ ถึงขั้นต้องเลื่อนประชุม” สมายเอ่ยถาม “พี่ไม่ทราบเลยค่ะ ท่านประธานไม่ได้แจ้งไว้ ยังไงน้องสมายไปรอท่านที่รถนะคะ ท่านประธานแจ้งไว้ว่าให้ไปพร้อมท่านเลย อีกสิบนาทีท่านจะลงไป” พี่นิตาดูเวลาก่อนที่จะแจ้งให้สมายรีบเตรียมตัว “ขอบคุณค่ะพี่นิตา เดี๋ยวสมายไปถามเอง” ว่าแล้วเธอก็หยิบกระเป๋าพร้อมโทรศัพท์มือถือคู่กายเดินลงลิฟต์ไปรอท่านประธานที่รถ ยังไม่ถึง 10 นาทีดี เสียงคุ้นเคยก็เอ่ยทักจากด้านหลัง “มานานรึยังเรา” สมายที่ยืนพิงรถตู้ประจำตำแหน่ง ยันตัวขึ้นยืนดีดี แล้วหันไปตอบคำถาม “ไม่นานค่ะแม่ หนูเพิ่งลงมาถึง นึกยังไงชวนหนูทานข้าวคะ” เธอเอ่ยถามแม่ด้วยความแปลกใจ ปกติแทบจะไม่ได้นัดทานข้าวด้วยกันช่วงเที่ยงเลย ถ้าไม่ได้ไปทานข้าวกับลูกค้าที่สำคัญจริง ๆ “อ่าว แม่อยากทานข้าวกับลูกสาวคนสวยนี่แปลกมากหรอ ไป ๆ ขึ้นรถ” สองคนแม่ลูกพากันเดินขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วคนขับรถก็ออกรถมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารที่แม่เธอจองไว้ เมื่อถึงร้านอาหาร พนักงานก็พาเข้าไปที่โต๊ะด้านใน ซึ่งเป็นมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เธอไม่ได้เลือกสั่งอาหารอะไร เพราะแม่จัดการไว้ให้เรียบร้อยหมดแล้ว นี่แหละนิสัยของแม่เธอ คอยจัดการทุกอย่างให้เธอมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนและเรื่องการดำรงชีวิต เธอแทบจะไม่ได้เลือกหรือตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเลยซักครั้ง “เป็นยังไงบ้างช่วงนี้ ทำงานมาได้หลายปีแล้ว ปรับตัวได้ดีแล้วใช่มั้ย” แม่ยกแก้วน้ำดื่มแล้วถามเธอ “ได้แล้วค่ะ ช่วงนี้ก็เริ่มอยู่ตัวแล้ว ไม่ลนเหมือนช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาทำ” สมายตอบแม่กลับ พลางนึกขึ้นได้ ถึงเรื่องธุระที่ต้องเลื่อนการประชุม จึงเอ่ยถามออกไป “แม่คะ พรุ่งนี้มีธุระสำคัญอะไรช่วงบ่ายหรอคะ ถึงขั้นต้องเลื่อนประชุม” แม่ยิ้มให้ แล้วหันมาตอบเธอ “เดี๋ยวแม่บอก ทำตัวให้ว่างแค่นั้นก็พอ” สมายพยักหน้าและตอบรับกลับเบา ๆ “สมาย ที่ผ่านมาเราไม่มีแฟนบ้างรึไง ไม่เห็นเคยพามาเจอแม่ หรือแอบมีแต่ไม่ยอมบอกแม่” แม่เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร “หนูไม่มีหรอกค่ะ จะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน ตั้งแต่จบมาก็ทำแต่งาน คนรอบ ๆ ตัวก็มีแต่ผู้บริหาร อายุนี่รุ่นพ่อหนูเลยนะคะแต่ละคน” สมายตอบแม่ขำ ๆ “แล้วตอนเรียนก็ไม่เคยมีเลยรึไง เคยผ่านประสบการณ์ความรักมาบ้างมั้ยเราน่ะ” แม่ยังคงถามต่อ “ไม่มีค่ะ มีแค่เคยคุย ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้นาน ใครจะมาชอบผู้หญิงแบบหนู ลุย ๆ กวน ๆ ไม่ใช่สายหวานแบบพวกลูกคุณหนูคนอื่น ๆ เค้าซะหน่อย” สมายตอบกลับ แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองแม่ “งั้นก็ดี พรุ่งนี้เย็น แม่มีนัดทานข้าวกับคุณภาค เจ้าของ นิธิศเท็กซ์ไทล์ ที่เป็นหุ้นส่วนของโรงแรมเรา พี่ภาคินเพิ่งกลับมาจากอเมริกา เมื่อเดือนก่อน แม่จะแนะนำให้เรารู้จักกันไว้ เราต้องไปกับแม่ ห้ามปฏิเสธ” แม่เอ่ยเข้าเรื่องทันที สมายวางช้อนลง แล้วเงยหน้าขึ้นมาหาแม่พร้อมมองด้วยความสงสัย คงไม่ใช่แบบที่เธอคิดใช่มั้ย “แม่อย่าบอกหนูนะ ว่าแม่จะให้หนูไปดูตัว หนูไม่โอเคกับวิธีนี้นะคะ เรื่องนี้หนูขอเลือกเอง” เมื่อลูกแสดงออกชัดว่าจะปฏิเสธ คนเป็นแม่ก็วางมือจากการทานอาหาร เช็ดปาก ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เพื่อเข้าเรื่องแบบจริงจัง “ดูตัวก็ใช่ แต่แม่ไม่ได้ให้เราติดสินใจ แม่จะให้เราแต่งงานกับพี่เค้า ในเมื่อเราเองก็ไม่มีใคร พี่เค้าก็ไม่ได้มีแฟน ก็ศึกษาดูใจกันไป ค่อย ๆ ปรับตัวกัน มันก็ไปด้วยกันได้เองแหละ แม่บอกแล้วว่า ห้ามปฏิเสธ หรือแม่พูดไม่ชัดเจน” สมายเงียบไป ปฏิเสธก็ไม่ได้ เถียงก็ไม่ได้ เธอทำอะไรได้บ้าง “ยังไงเราก็ต้องไป แม่นัดคุณภาคกับพี่เค้าไว้แล้ว พรุ่งนี้เย็นที่ร้านอาหารแถวสีลม ไม่ต้องเอารถไป เราต้องไปพร้อมแม่” สมายได้แค่พยักหน้ากลับไป “อิ่มแล้วรึไง เพิ่งทานไปนิดเดียว ทานต่อสิแม่ไม่รีบ” แม่เอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเธอนั่งนิ่งไป “ไม่แล้วค่ะ หนูไม่ค่อยหิว” เธอไม่ใช่ไม่หิว แต่เธอทานไม่ลงแล้วต่างหาก เธอกำลังไม่พอใจ เรื่องอื่นเธอเห็นว่าอะไรที่ยอมให้ได้เธอก็ยอม แต่เรื่องนี้มันคือชีวิตเธอ ขอเธอตัดสินใจเองไม่ได้เลยหรอ “งั้นก็กลับโรงแรม” แม่เรียกพนักงาน เก็บเงินค่าอาหาร แล้วเดินนำออกไปขึ้นรถ เพื่อตรงกลับโรงแรม ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นห้องทำงาน แม่ทิ้งท้ายกับเธอแค่ว่า “พรุ่งนี้บ่าย มาเจอแม่ที่รถ ตอนบ่ายสอง เราจะออกไปข้างนอกก่อน แล้วเลยไปเจอคุณภาคเลย” สมายเพียงแค่รับคำ แล้วเดินเข้าห้องทำงานไป ตลอดบ่ายวันนั้น เธอแทบจะทำงานไม่ได้เลย อ่านเอกสารอะไรไปก็ไม่รู้เรื่อง วนอ่านสองรอบสามรอบ เมื่อเห็นว่าไม่สามารถโฟกัสกับงานได้ จึงวางงานหันไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ แล้วพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการจะค้นหาลงไป ‘ภาคิน ลูกชาย นิธิศเท็กซ์ไทล์’ ผลงานค้นหาที่ขึ้นมา มีแต่ข่าวในแวดวงสังคม คบนางแบบดัง มีข่าวกับดาราดัง ไฮโซสายปาร์ตี้ แทบจะไม่มีข้อมูลอะไรให้ค้นหาเพิ่มเติมเลยด้วยซ้ำ ‘คุณแม่บอกว่า เพิ่งกลับจากอเมริกา งั้นอาจจะพอรู้จักกัน’ เมื่อคิดได้ดังนั้น สมายก็กดเปิดโปรแกรมสนทนาในคอมพิวเตอร์ขึ้นมา Line MyFriends สมาย : @โบว์ คุณนาย ว่างมั้ยคะ โบว์ : ว่างค่ะ นั่งทำเล็บอยู่ มีอะไรเอ่ย สมาย : สบายจริง เพื่อนทำงานงก ๆ แกนั่งทำเล็บ : มีเรื่องรบกวนหน่อย : อยากได้ประวัติ ‘ภาคิน นิธิศธาดา’ ลูกชายเจ้าของนิธิศเท็กซ์ไทล์ : ได้ข่าวว่าเพิ่งกลับมาจากอเมริกา ในแวดวงคุณสามีแกอาจจะพอรู้จักบ้าง โบว์ : ใครวะ ชื่อคุ้นจัง จีน : พี่คิน เพลย์บอยตัวพ่อของคณะเราไง รุ่นพี่พวกเราปีนึง : ตอนปีหนึ่งเคยมาวอแวอยู่ แต่ชั้นไม่ได้สนใจ โบว์ : อ่อ จำได้ แล้วสมายจำไม่ได้หรอ ถึงมาถามประวัติ สมาย : จำไม่ได้เลย ทำไมไม่มีอยู่ในสารบบ ตอนนั้นหล่อมั้ย จีน : พี่เค้าก็หน้าตาดีนะ แต่ไม่เท่าปราบ สมาย : อ่ะ อยู่ดีดีขิงผัวให้เพื่อนฟัง แบบนี้ก็ได้หรอ จีน : ตอนนั้นพี่เค้าเจ้าชู้มาก ผู้ชายเจ้าชู้ แม้จะหน้าตาดีแกก็ไม่สนใจนี่นา : คงไม่อยู่ในสายตาแก แต่ตอนนี้ไม่รู้นะ ว่านิสัยเป็นไง สมาย : เนี่ย ถึงต้องมาถามไง โบว์ : คุณสามีเข้าประชุม เดี๋ยวจะถามให้นะคะ : แล้วเย็นนี้จะมาบอกอีกที สมาย : ค่ะ คุณนาย เชิญทำเล็บต่อเถอะค่ะ เมื่อคุยกับเพื่อนเรียบร้อย ก็หันมาพยายามตั้งสมาธิกับสิ่งที่ต้องทำตรงหน้าต่อ ในเมื่อรู้มาคร่าว ๆ บ้างแล้ว คงต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป แต่ถ้าถามว่าคะแนนผู้ชายคนนี้ อยู่ในระดับไหน ตอนนี้ตอบได้เลยว่าติดลบ ด้วยเรื่องในอดีตและในข่าวสังคม สมายยังไม่พบด้านดีเลยแม้แต่นิดเดียว สมายนั่งทำงานจนถึงเวลาเลิกงาน เธอก็ขับรถตรงกลับคอนโดทันที อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนั่งกินข้าวรอพลางค้นข้อมูลในหน้าข่าวต่อไปเรื่อย ๆ จนได้รับสัญญาณจากคุณนายโบว์ Line MyFriends โบว์ : เฮลโล่วววว ข้อมูลแน่นมาก : คุณสามีไม่เคยทำให้ผิดหวังค่ะ : พร้อมฟังยัง คอลมะ สมาย : เราได้ รออยู่คอนโด ไปเอาโน้ตบุ๊กแปป จีน : จีนก็อยู่คอนโด หนีปราบเข้าห้องแปป และเมื่อสามสาวพร้อมสำหรับการคอลกลุ่ม โบว์ก็เชื่อมต่อสัญญาณมาหาเพื่อน ๆ ทันที ‘ว่ามาเลยคุณนาย สมายดูพร้อมฟังมาก ส่วนจีนพร้อมเผือกสุด ๆ’ จีนเร่งโบว์ให้รีบเล่า ‘โอเค ชื่อ คิน ภาคิน นิธิศธาดา อันนี้รู้แล้วเนอะ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณภาค มีน้องสาว 1 คน ทำงานอยู่กับพ่อ ชื่อน้องแพร รุ่นน้องพวกเราสามปี เค้าเรียนจบจากคณะเรา แล้วบินมาต่อโท MBA ที่นี่ เพิ่งเรียนจบกลับไป’ โบว์เกริ่นประวัติคร่าว ๆ ให้เพื่อนฟัง “ห๊ะ! เรียนโทเพิ่งจบ เรียนยังไงวะ แก่กว่าพวกเราปีเดียว ใช้เวลาเรียนนานขนาดนั้นเลยหรอ” สมายถาม ‘ไม่ ๆ เค้าทิ้งช่วงไป 2-3 ปีมั้ง เห็นคุณสามีเล่าว่า ในหมู่นักเรียน MBA ไทยเค้าคุยกัน ว่าช่วงก่อนมาเรียนต่อ พี่เค้าค่อนข้างเกเร พ่อเลยส่งมาเรียนต่อ แต่ก็นะชื่อเสียงเลื่องลือมาก ในหมู่นักเรียนไทย’ โบว์เริ่มเม้าต่อ “เล่าทีเดียวเลยได้มั้ย ดูท่าข้อมูลจากสามีคุณนายนี่จะแน่น ถามไม่ผิดคนจริง ๆ” สมายยกนิ้วให้ผ่านจอ ‘แน่นอน เค้าเป็นนักเรียน MBA สถาบันเดียวกัน แต่คนละรุ่นนะ เจอกันที่ปาร์ตี้นักเรียนไทยบ่อย ๆ ส่วนที่ว่าชื่อเสียงเลื่องลือ คือเรื่องผู้หญิง เค้าว่ากันว่าเป็นเพลย์บอยล่าแต้ม ปาร์ตี้ไม่เคยขาด เรียน ๆ เล่น ๆ เหมือนไม่ได้ตั้งใจจะมาเรียนเท่าไหร่ ไม่เคยมีข่าวว่าคบใครจริงจังเลยซักคน มีแต่ควงไปวัน ๆ เพิ่งกลับไทยไปได้เมื่อเดือนก่อน แล้วตกลง แกอยากรู้ประวัติพี่เค้าไปทำไมนะ’ โบว์เล่าจบก็ถามเพื่อนกลับ “เฮ้อ...จากประวัติ โคตรแย่ แม่จะจับแต่งงานกับไอ้พี่คนนี้นี่แหละ” ‘ห๊ะ!!!’ / ‘ห๊ะ!!!’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD