Inhan Tobacco Company (บริษัทยาสูบอินฮาน)
"กะอีแค่เลขา ทำไมมันหายากจังวะ"
'ชยพล ศิวาพร หรือจ้าวฮาน' เจ้าของปากหยักหนาสีชมพูจัดบ่นอุบอิบขณะสองมือกำลังเปิดแฟ้มดูรายชื่อและประวัติของสาวสวยนับร้อยคนที่ยื่นใบสมัครเข้ามาเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของเขา
หากแต่ความสวยเหล่านั้นไม่ได้ต้องตาของเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ดีว่าความสวยที่ถูกฉาบมาด้วยความทะเยอทะยานของพวกหล่อนนั้นจะนำพาซึ่งความวุ่นวายมาให้เขาในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน
"อะไรวะเนี่ย ถามความสามารถพิเศษแต่กรอกไซส์หน้าอกกับสะโพกเอาไว้ให้กูอ่าน กูคงจะพิจรณามาให้มึงเป็นเลขาฯ อยู่หรอก"
"แล้วคนนี้อะไรอีกวะเนี่ย ความสามารถพิเศษ หมูโจ๊ก หือ? กูจะบ้า มันมองกูเป็นผู้ชายประเภทไหนกันวะน่ะ สภาพ!"
สองมือใหญ่กำยำยกขึ้นยีผมสีน้ำเงินเข้มของตัวเองอย่างแรง พลางดันแฟ้มประวัติบุคคลเล่มหนาให้ออกไปพ้นตัวอย่างนึกหงุดหงิดระคนรำคาญใจ
"ค่อยจ้างเคเรนมันก็ได้วะ"
เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหมุนตัวไปตามเก้าอี้ซ้ายขวาเพื่อขจัดความเมื่อยล้าจากการเพ่งตามองตัวอักษรมาหลายชั่วโมง ก่อนจะหยัดตัวขึ้นเต็มความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบแปดเซนติเมตรเพื่อออกไปหากาแฟในคาเฟ่ที่อยู่ตรงข้ามกับออฟฟิศของเขาลงกระเพาะ
"อะไรอีกวะ!" จ้าวฮานสบถดังลั่นอย่างเริ่มหัวเสียเมื่อพบว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่งบังเอิญติดมากับรองเท้าหนังราคาแพงของเขา
"ชยานันท์ บริภัคก์" ชยพลอ่านทวนชื่อใบขอเข้าสมัครเป็นเด็กฝึกงานพร้อมกับเหลือบมองใบหน้าหวานๆ ที่ติดอยู่กับกระดาษใบนั้นสลับกันอย่างชั่งใจ
"หืม" จ้าวฮานที่คิดว่าตัวเองคงจะตาพร่ามัวไปถึงกับถึงยกมือขึ้นนวดหัวตาเบาๆ ก่อนจะเพ่งเล็งไปยังช่องชื่อเล่นของเด็กสาววัยยี่สิบสองปีในใบสมัครงานอีกครั้ง
"ชัดเลย กูไม่ได้เบลอ แล้วคนบ้าอะไรมันจะชื่อยี่โถวะเนี่ย ยี่โถ? ยี่โถคืออะไรวะ?" เมื่อเห็นดังนั้นจ้าวฮานที่มีเรื่องให้เครียดมาเกือบตลอดทั้งวันก็ถึงกับหลุดขำออกมาเพียงเพราะว่านักศึกษาคนนั้นชื่อ 'ยี่โถ'
วิลาสินีย์ แมนชั่น
"ทำไมยังไม่มีใครติดต่อกลับมานะ" วันแล้ววันเล่าที่สาวน้อยผมประบ่าสีน้ำตาลอ่อนอย่าง 'ชยานันท์ บริภัคก์ หรือยี่โถ' นั้นเฝ้ารอคอยสายเรียกเข้านัดสัมภาษณ์งานจากบริษัทผลิตยาสูบยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช
จ๊อก~
"ถ้าวันนี้ไม่มีสายเรียกเข้าอดตายแน่ไอ้โถเอ๊ย" มือน้อยๆ ยกขึ้นลูบท้องแบนราบของตัวเองด้วยความรู้สึกหิวโหย เธอกินน้ำก็อกประทังชีวิตมาหลายวันแล้ว เงินที่มีอยู่น้อยนิดก็จำใจต้องควักออกมาจ่ายค่ามัดจำและค่าเช่าห้องล่วงหน้าไปอีกหนึ่ฃเดือน
"ที่มาของคำว่าเหลือแต่หอยกับรอยยิ้มสินะ" ปากบางที่เริ่มซีดเซียวจากการอดอาหารมาหลายวันฝืนยกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยชะตากรรมอันน่าหดหู่ของตัวเอง
หลังจากที่ทนนั่งฟังเสียงท้องร้องอีกต่อไปไม่ไหวยี่โถจึงฝืนพยุงร่างผอมๆ ที่แทบจะกลายเป็นหนังหุ้มกระดูกไปรับน้ำดื่มจากก๊อกเพื่อประทังความหิวโหยจนแทบจะกินไก่เข้าไปได้ทั้งตัว
"อ่า..." แม้ว่าน้ำก็อกในแมนชั่นคร่ำครึแบบนี้นั้นอาจดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรต่อสุขภาพสักเท่าไหร่นัก หากแต่สำหรับยี่โถแล้วนั้นมันคือยาชูกำลังให้เธอได้มีลมหายใจต่อไปได้อีกวัน
"ก็ดีกว่าอดตาย" หลังจากกินน้ำเสียจนพุงกางยี่โถก็กลับมาขลุกอยู่กับกลุ่มประกาศหาคนงานในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกครั้งอย่างมีความหวังว่าจะมีสักร้านหรือบริษัทที่เปิดโอกาสให้คนยากไร้อย่างเธอได้เข้าไปทำงานแลกกับเม็ดเงินเพื่อมาใช้นำมาใช้ในชีวิตประจำวันในโลกใบใหญ่ที่แสนจะวุ่นวายนี้
"โห...ไม่ทันอีกละ" เมื่อพบว่าตัวเองนั้นพลาดในการได้เข้าทำงานไปเพียงเสี้ยววินาที ยี่โถก็ถึงกับห่อปากคิ้วขมวดด้วยความเสียดาย
"คงจะไม่มีใครในโลกนี้ที่จะซวยได้เท่าแกแล้วละยัยโถเอ๊ย!"
Rrrr
Rrrr
'ฮัลโหลค่ะ'
'ขออภัยที่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณนะครับ ไม่ทราบว่าใช่คุณชยานันท์ บริภัคก์ หรือเปล่าครับ'
'ใช่ค่ะ ดิฉัน ชยานันท์ บริภัคก์ แล้วไม่ทราบว่าคุณเป็นใคร มีธุระอะไรกับฉันอย่างนั้นหรือคะ'
'ผมมีความยินดีที่จะแจ้งให้คุณทราบว่า คุณได้รับโอกาสในการเข้าสัมภาษณ์งานที่บริษัทยาสูบอินฮานครับ'
'...'
'หากไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรนะครับ ทางเราคงจะต้องจัดหาคนอื่นดูอีกที'
'สะดวก โคตรสะดวก คะ..คือฉันหมายถึงสะดวกมากๆ เลยค่ะ รบกวนคุณนัดวันเวลามาได้เลยค่ะ'
'วันนี้บ่ายสี่โมง ร้านซูชิโต๊ะสี่ในเซ็นทรัลสี่แยกหน้าเมืองครับ ไม่ทราบว่าคุณชยานันท์สะดวกหรือไม่ครับ'
'สะดวกค่ะ สะดวกมากๆ ฉันแต่งตัว ใช่ฉันต้องแต่งตัวสินะ ขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ'
ติ๊ด.
"ลนจังวะ" จ้าวฮานถึงกับหลุดขำออกมาหลังจากที่หญิงสาวได้ตัดสายไปแล้ว ดูๆ แล้วเหมือนเธอจะดีใจน่าดูที่กำลังจะได้เข้ามาฝึกงานในบริษัทของเขา
"เจริญเถอะพึ่งบ่ายสามโมงครึ่ง" แต่เมื่อยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาแล้วรับรู้ว่าเขาจะต้องรอหญิงสาวอีกถึงครึ่งชั่วโมงด้วยกัน รอยยิ้มที่เคยมีก่อนหน้านี้มันก็เหือดหายไปในทันที
เขาเกลียดการรอคอย...และเขาก็ไม่เคยอดทนรอใครได้มากถึงครึ่งชั่วโมงมาก่อน จะมีก็เธอนี่แหละเป็นคนแรกที่เขาต้องรอ
เขารับรู้ได้ถึงแรงบางอย่างที่ดึงดูดให้เขาและเธอโคจรมาเจอกันอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิตนี้
"พรหมลิขิตเหรอวะ"
"ขอโทษทีค่ะ" เสียงหวานใสที่ดังขึ้นข้างหูทำให้จ้าวฮานหลุดจากภวังค์ความคิดที่กำลังจะดูดกลืนหัวใจเขาให้จมหายไป
"ครับ" หนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มขานรับอย่างสุภาพพลางเชิดหน้าขึ้นมองหาที่มาของเสียงหวานไพเราะเสนาะหูนั้น
"คุณเป็นใครครับ"
หากแล้วเขาก็ต้องตกใจจนแทบจะสิ้นสติเมื่อพบว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในสภาพรวบผมขึ้นอย่างลวกๆ กับชุดเสื้อสายเดี่ยวสีส้มแปร๊ดและกางเกงที่สั้นจนเห็นแก้มก้นล้นออกมา ยังไม่รวมรองเท้าผ้าใบที่นิ้วโป้งและนิ้วชี้เท้าออกมาสวัสดีชาวโลกนั่นอีก และที่น่าช็อกไปกว่าการแต่งตัวของเธอเขาคิดว่าหล่อนนั้นจะต้องอายุไม่ถึงสิบแปดปีเป็นแน่แท้
"ฉันชยานันท์ บริภัคก์ ที่คุณโทรไปนัดสัมภาษณ์งานยังไงละคะ"
"ไอ้ฮานจะเป็นลม"
"คุณ คุณคะ" ยี่โถอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโมโหเมื่อนึกไปถึงสายตาของเขาที่มองเธอก่อนจะเป็นลมหมดสติไป
"อืม" เมื่อจ้าวฮานลืมตาขึ้นมาแล้วเจอว่าผู้หญิงคนก่อนหน้ากำลังจ่อยาหอมอยู่ใต้จมูกของเขาก็ถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อย
"ต้องขออภัยที่ผมจะต้องแจ้งให้คุณทราบว่าบริษัทของเราไม่มีนโยบายรับเยาวชนที่อายุต่ำกว่าสิบแปดปีเข้าทำงานครับ" ชยพลขยับเสื้อสูทให้เข้าที่ก่อนจะหยัดตัวขึ้นยืนเพราะคิดว่าตัวเองหมดธุระที่จะคุยกับเธอแล้ว
"เดี๋ยว!" คนหวังจะได้งานทำถึงกับควันออกหูหลังได้ยินประโยคดังกล่าว ก่อนจะเดินกระแทกส้นเท้าไปขวางทางจ้าวฮานที่กำลังเดินหนีเธอไป
"ฉันไม่รู้คุณพูดเรื่องอะไร ในใบสมัครคุณก็เขียนเอาไว้ชัดเจนว่าต้องการเด็กฝึกงานที่มีคุณสมบัติจบปริญญาตรีจากสาขาภาษาต่างประเทศธุรกิจ และฉันก็มีคุณสมบัติในข้อนั้นอย่างครบถ้วน แล้วคุณจะมาตัดสิทธิ์ฉันอย่างหน้าด้านๆอย่างนี้ได้ยังไงกัน!"
"นี่คุณ! อย่ามาทำตัวเหมือนไม่มีพ่อแม่คอยอบรมสั่งสอนผิดชอบชั่วดีแถวนี้นะ!"
เปิดมาปุ๊บอดอยากปากแห้งปั๊บเลยน้องโถของแม่😢
ฤกษ์งามยามดีเบิกตัวจ้าวฮาน ลูกชายแฝดคนเล็กจากบ้านจักยิ่งรุ่งเรืองกับน้องยี่โถ ณ บัดนาวค่า