ร้านอาหารสุดหรูริมชายหาดทะเลเมืองพัทยาสวยงามสมคำล่ำลือยิ่งนัก รำไทยทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ตัวใกล้กับโรมพัทมากที่สุด และนั่นก็ทำให้หล่อนไกลจากพ่อจอมมารภามินมากขึ้น แต่แล้วก็ต้องรู้ว่ามันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เมื่อกลายเป็นว่าเขากับหล่อนนั่งตรงข้ามกันเสียนี่
นี่หล่อนต้องมานั่งจ้องหน้าจ้องตากับผู้ชายป่าเถื่อนอย่างภามินตลอดช่วงเวลาเลยใช่ไหม? หญิงสาวร้องถามตัวเองลั่นอยู่ในอก แต่ก็ได้แต่ร้องถามเท่านั้น เพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้อีกแล้ว
“พี่ไม่คิดว่ามารันจะให้น้องรำไทยมาแทน...”
น้ำเสียงและสีหน้าของโรมพัทราบเรียบไร้ความรู้สึก แต่ยังไงซะ รำไทยก็พอจะมองออกว่าผู้ชายที่นั่งข้างๆ กำลังรู้สึกเสียหน้ามากแค่ไหน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มารันหนีการเจอหน้ากัน แต่เป็นครั้งที่สามแล้ว
“เอ่อ คุณรันมีธุระสำคัญน่ะค่ะ แต่เธอสัญญาว่าหากเสร็จธุระแล้วจะรีบมาค่ะ”
โรมพัทแค่นยิ้ม ความขุ่นเคืองวาววับอยู่ในดวงตาคมกริบจนปิดไม่มิด หากเจอหน้าแม่มารันเมื่อไหร่เขาจะเค้นคอถามหาเหตุผลซะให้เข็ด ผู้หญิงอะไรหนีและก็หนีอย่างเดียว แถมยังส่งคนอื่นมารับหน้าแทนอีกต่างหาก นี่ถ้าไม่อยากแต่งงานกันก็ยกเลิกไปเลย เขาไม่เห็นจะแคร์สักนิด
“พี่เบื่อรอแล้วล่ะ...”
“ก็เปลี่ยนคนสิครับพี่โรม รำไทยเขาคงอยากคว้าตำแหน่งเจ้าสาวของพี่ใจจะขาด ไม่อย่างนั้นคงไม่ดั้นด้นมาแทนน้องรันหรอกครับ”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรตัวเองถึงได้พูดจาแบบนั้นออกไป รู้เพียงแต่ว่าไม่ชอบ... ไม่ชอบให้รำไทยยิ้มให้กับผู้ชายคนอื่น แม้จะเป็นโรมพัทพี่ชายของตนเองก็ตาม
“คุณภามิน...!”
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายตรงหน้าจะหาเรื่องกันได้ถึงเพียงนี้ ไม่รู้เกลียดอะไรกันนักหนา ทั้งๆ ที่หล่อนก็พยายามสงบเสงี่ยมเจียมตัวขนาดนี้แล้ว
“ไม่เอาน่านายภาม ทำไมถึงพูดจาน่าเกลียดแบบนี้ล่ะ” โรมพัทเอ็ดน้องชาย แต่ภามินกลับยักไหล่กว้างทรงพลังของตัวเองน้อยๆ อย่างไม่แยแส
“ผมพูดตามที่เห็นครับ ซึ่งมันก็น่าจะเป็นความจริงเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์”
รำไทยเม้มปากแน่น พยายามไม่ใส่ใจกับสายตาดูหมิ่นดูแคลนของผู้ชายตรงหน้า หญิงสาวรีบหยิบซองเอกสารที่มารันฝากมาให้กับโรมพัทอย่างรวดเร็ว หล่อนจะได้หมดหน้าที่นี้สักที
“คุณรันฝากมาให้ค่ะ”
“ให้พี่หรือ?”
คิ้วเข้มที่ยาวขนานกับดวงตาคมกริบเลิกขึ้นสูง ขณะยื่นมือออกไปรับซองขนาดครึ่งเอสี่จากมือของสาวน้อยที่นั่งข้างๆ ด้วยความแคลงใจ
“ค่ะ ลองเปิดดูสิคะ ในนั้นคุณรันอาจจะบอกเหตุผลที่ไม่สามารถเดินทางมาที่นี่เอาไว้ก็ได้ค่ะ”
โรมพัทเปิดซองออกกว้างแล้วก็ทำให้เห็นว่าข้างในซองสีน้ำตาลนี้เป็นรูปถ่ายสีขนาดสี่คูณหกนิ้วจำนวนสองสามใบ มือสีแทนควานหยิบออกมาดู แล้วก็ถึงกับใบ้กินเมื่อเห็นรูปเต็มๆ ตา
อะไรกันนี่?
ภาพของชายหญิงคู่หนึ่งกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างถึงพริกถึงขิง แต่ละรูปบรรยายให้คนมองอย่างเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าหญิงชายในรูปกำลังดำเนินกิจกรรมรักถึงขั้นไหนกันแล้ว แม้ภาพจะไม่ชัดเจนจนสามารถระบุหน้าตาของคนทั้งคู่ได้แต่ข้อความที่เขียนติดมาหลังรูปนี่ก็ทำให้รู้ว่าผู้หญิงในภาพนั้นเป็นใคร
‘เห็นภาพพวกนี้แล้วคุณโรมพัทคงจะรีบๆ ถอนหมั้นให้กับฉันนะคะ เพราะฉันมีคนที่รักอยู่แล้ว และเราก็เข้ากันได้ดีในทุกๆ เรื่องโดยเฉพาะ... เรื่องบนเตียง ลงชื่อ มารันวัฒนมงคล’
ระยำ! ทำกันถึงขนาดนี้เชียวหรือมารัน...?
“รูปอะไรหรือพี่โรมทำไมทำหน้าตาราวกับจะกินหัวใครอย่างนั้นแหละ”
ภามินที่นั่งมองพี่ชายอยู่ถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อแลเห็นแววความเดือดดาลและคั่งแค้นในดวงตาของพี่ชายมากมายมหาศาลขณะที่ รำไทยเองก็มองโรมพัทด้วยสายตากังขาเช่นกัน
โรมพัทรีบยัดรูปทุกใบกลับใส่ลงไปในซองสีน้ำตาลตามเดิม พร้อมๆ กับพยายามข่มใจให้เย็นที่สุดเท่าที่จะเย็นได้ ก่อนจะปฏิเสธออกไป
“ไม่มีอะไรหรอก แค่รูปถ่ายมารันสองสามรูปเท่านั้นแหละ คงอยากให้พี่เก็บไว้เป็นที่ระลึกมั้ง” ไม่รู้ว่าทำไมรำไทยถึงรู้สึกว่าหางเสียงของโรมพัทดูเดือดดาลพิกลโดยเฉพาะท้ายประโยค
“ในเมื่อหน้าที่ของฉันจบแล้ว งั้นลาเลยนะคะ” รำไทยเป็นคนแรกที่เอ่ยลา
โรมพัทพยักหน้ารับช้าๆ เพราะตอนนี้เขาเองก็รู้สึกอยากอยู่คนเดียวเช่นกัน ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายหยิ่งผยองแบบเขาจะถูกหักหน้าแบบนี้ มารันกล้าดียังไงส่งรูปที่ตัวเองกำลังระเริงรักอยู่กับคู่รักมาเย้ยเขาถึงที่ คิดหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่มีทางหรอก
มารันต่างหากที่จะต้องน้ำตานองหน้ากับเกมนรกครั้งนี้!
“พี่ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เอ่อ แล้วรำไทยพอจะรู้ไหมว่ามารันไปทำธุระที่ไหน”
ด้วยที่มารันไม่ได้สั่งห้ามมา ทำให้รำไทยบอกกับโรมพัทไปจนหมดเปลือก “เห็นว่าจะไปภูเก็ตน่ะค่ะ บอกว่าจะไปพักที่บ้านต่างอากาศของพ่อณน”
โรมพัทลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับหญิงสาว เขายิ้มบางๆ ให้และดึงร่างอรชรเข้าไปกอด รำไทยตกใจ แต่ก็คงไม่เท่ากับภามินที่นั่งอ้าปากค้าง ใช่เขาตกใจ แต่ความรู้สึกที่ตามมาก็คือหมั่นไส้สุดขีด จนในที่สุดก็ไม่สามารถทนนั่งอยู่ได้ ต้องรีบลุกขึ้นและจ้ำอ้าวเดินออกไปจากร้านอาหารอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“ขอบใจมากนะรำไทย”
รำไทยยืนนิ่งงัน มองร่างสูงใหญ่ของโรมพัทที่เดินหายไปจากสายตาแล้วด้วยความมึนงง อยู่ๆ ก็ดึงหล่อนเข้าไปกอดซะงั้น แล้วจู่ๆ ก็เดินจากไป ทิ้งให้หล่อนยืนสับสนอยู่เพียงคนเดียว หญิงสาวถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินออกไปนอกจากร้านอีกคน
ลานจอดรถขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดนัก หญิงสาวเร่งฝีเท้าเดินกลับไปยังรถของภามินที่ตัวเองจำได้อย่างแม่นยำว่ามันจอดนิ่งอยู่ตรงไหนด้วยความร้อนใจ เพราะตอนนี้มันก็สามทุ่มกว่าแล้วคงไม่มีรถโดยสาร หรือแท็กซี่คันไหนสามารถขับไปส่งหล่อนที่กรุงเทพฯ ได้อย่างแน่นอน
เมอร์เซเดสเบนซ์สปอร์ตสีดำจอดอยู่ตรงหน้า และตรงที่คนขับก็มีร่างสูงใหญ่ของภามินนั่งนิ่งอยู่ ใจสั่น มือสั่น แต่ก็จำต้องเดินไปหยุดข้างรถคันงาม