ที่งานประมูลแห่งหนึ่ง ชายชราผมสีดอกเลา กำลังนั่งคุยกับลูกน้องคนสนิทด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณอำนาจครับ ผมว่างานนี้เราได้แน่ ๆ ครับ เพราะผมยัดได้โต๊ะเอาไว้แล้ว ไม่ต้องห่วงครับ สบายใจได้”
อำนาจนักธุรกิจใหญ่ที่ตอนนี้ธุรกิจเริ่มล้มลุกคลุกคลานเต็มที่แล้วยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง ถ้าเขาได้งานนี้นั่นก็แปลว่ามันจะทำให้เขาหายใจได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าไม่ได้นั่นก็แปลว่า เขาต้องหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไป อย่างไม่มีวันจะเรียกกลับคืนมาได้
เขาไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตเขาจะมีวันนี้ วันที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด หลังจากที่เขาทำร้ายเพื่อน แล้วฮุบทุกอย่างมาเป็นของตนเองจนหมดสิ้น มาวันนี้เขาก็กำลังจะหมดสิ้นทุกอย่างเช่นกัน...
และเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ผู้จัดการประมูลขึ้นไปบนเวทีเพื่อประกาศผู้ได้รับคัดเลือก
“วันนี้นะครับ มีผู้ร่วมการประมูลกับเราอย่างคับคั่ง แต่ก็จะมีบริษัทฯ เดียวเท่านั้นครับ ที่จะได้งานยักษ์ใหญ่นี้ไปทำ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการพิจารณา ให้ได้รับงานนี้ไปก็คือ ต้องเป็นบริษัทฯ ที่เสนอค่าจ้างต่ำที่สุดแต่มีคุณภาพเท่านั้น และตอนนี้ผลการประมูลก็อยู่ในมือผมแล้ว บริษัทฯ ที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ได้แก่ บริษัท ภูตะวันเอเชีย จำกัด (มหาชน) ครับ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ”
เมื่อโฆษกกล่าวจบร่างของนายอำนาจก็ทรุดฮวบลงไปนั่งกับพื้นอย่างสิ้นแรง
เหนือตะวันมองร่างนั้นอย่างสะใจ สุดท้ายมันก็หนีความชั่วที่ตัวเองก่อไว้ไม่พ้น ยังนี่แค่การเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีต่อไปอีก เขาจะทำให้มันจะอยู่ก็เหมือนตายจะตายก็ตายไม่ได้ มันต้องตกนรกทั้งเป็น มันต้องทรมานกว่าเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า
นายอำนาจพาร่างกายที่แก่ชราลงมากของตัวเองเดินเข้าบ้านมาอย่างผู้พ่ายแพ้ ตอนนี้เขาหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ไม่เหลืออะไรเลย แม้แต่บ้านหลังนี้ ชายชรากวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านอย่างอาลัยอาวรณ์
ของที่ไม่ใช่ของเรา สุดท้ายมันก็ต้องจากเราไป มาแต่ตัวก็ต้องไปแต่ตัว ชายชราที่มีเบื้องหลังที่มืดดำถอนหายใจออกมาอย่างปลงตก
เขาอยากจะรู้นักว่า ใครกันที่เป็นเจ้าของบริษัทภูตะวัน เพราะเขาไม่เคยได้งานเลยสักครั้ง ถ้ามีบริษัทภูตะวันลงแข่งด้วย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเจ้าของบริษัทฯ นี้จ้องจะเล่นงานเขา แต่สถานการณ์มันก็บังคับให้เขาต้องคิดอย่างนั้น
“คุณพ่อขา ทานน้ำก่อนนะคะ” เอื้อมดาวส่งแก้วน้ำเย็นให้บิดาของหล่อน พร้อมกับทรุดตัวลงนั่งข้างบิดาอย่างเอาใจ
“เราไม่เหลืออะไรแล้วลูก พ่อ...พ่อไม่เหลืออะไรแล้ว” นายอำนาจมองหน้าลูกสาวอย่างปวดร้าว เขาทำให้หล่อนต้องลำบาก
เอื้อมดาวมองหน้าผู้เป็นบิดาอย่างสงสารสุดหัวใจ หล่อนรู้อยู่แก่ใจว่า ถึงอย่างไรบิดาก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่หล่อนก็ยังจะทำร้ายพ่อของหล่อนได้ลงคอ ทำไมหล่อนถึงได้อกตัญญูอย่างนี้นะ
หญิงสาวคิดอย่างปวดร้าวใจ ยิ่งเห็นบิดาเสียใจมากเท่าไหร่ หล่อนก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นเท่านั้น หล่อนไม่น่าทำอย่างนั้นเลย เพราะความรักเขา ทำให้หล่อนทำได้ทุกอย่าง แม้แต่ทรยศพ่อของตนเอง...
“พ่อคะ หนู...หนูขอโทษ เพราะหนูพ่อถึงต้องมาทุกข์ใจอย่างนี้ แต่พ่อไม่ต้องห่วงค่ะ เหนือจะต้องช่วยหนูทุกอย่าง เพราะเรารักกัน หนูจะแต่งงานกับเขา แล้ววิกฤตต่าง ๆ ในบ้านของเราก็จะหมดไปค่ะ”
เอื้อมดาวยิ้มออกมา เมื่อนึกถึงคำสัญญาที่เหนือตะวันให้ไว้กับหล่อน
“ผมจะแต่งงานกับเอื้อม ถ้าเอื้อมทำตามที่ผมบอก แต่เอื้อมไม่ต้องถามนะ เพราะผมจะไม่ตอบอะไรทั้งนั้น และผมจะไม่บังคับเอื้อม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอื้อมว่าจะตัดสินใจอย่างไร” บัดนี้หล่อนได้ทำตามความต้องการของเขาแล้ว และหล่อนก็หวังเหลือเกิน ว่าเขาจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับหล่อนเช่นกัน
นายอำนาจจ้องมองลูกสาวตัวเองนิ่ง เขาไม่เคยมั่นใจในตัวคนรักของเอื้อมดาวเลยสักครั้ง เพราะสีหน้าท่าทางที่เหนือตะวันแสดงออกมาต่อเขานั้น มันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นชิงชัง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามซ่อนเร้นเอาไว้แค่ไหนก็ตาม
“แต่พ่อไม่ไว้ใจเขาเลยลูก พ่อว่าเขาไม่จริงใจกับเราหรอก” เอื้อมดาวเงยหน้าขึ้นมองบิดาอย่างไม่เห็นด้วย
“ทำไมพ่อคิดอย่างนั้นคะ พ่อก็รู้ว่าเอื้อมรักเขา” หญิงสาวพ้อ
“ใช่ พ่อรู้ว่าเอื้อมรักเขามาก แต่พ่อไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนั้น เขาจะรักเอื้อมหรือเปล่า”
คำพูดของบิดาเหมือนกับกระจกเงาที่สะท้อนความเป็นจริงที่เอื้อมดาวพยายามจะลืมมัน แต่หล่อนก็ไม่เคยลบเลือนมันไปจากใจได้เลยสักที ความเฉยเมยเย็นชาของเขาที่หล่อนได้รับอยู่ทุกครั้งที่เจอกัน มันทำให้หล่อนอดสะท้อนขึ้นมาในหัวอกตัวเองไม่ได้
ระยะเวลาหนึ่งปีที่คบหากันมา หล่อนไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากเขาแม้แต่สักครั้งเดียว เขาไม่เคยจะโทรหาหล่อน ไม่เคยเอาอกเอาใจหล่อน ไม่เคยแม้แต่จะแสดงท่าทีห่วงใย อาทรต่อกัน...ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียว
เอื้อมดาวหลุดออกมาจากห้วงความคิดที่เจ็บช้ำ เมื่อมีเสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่บริเวณลานบ้าน หล่อนจำเสียงรถคันนี้ได้ดี เพราะหล่อนจำได้ทุกอย่างที่เป็นเขา ความเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อครู่จางหายไปจนหมดสิ้น เขารักษาสัญญาจริง ๆ เขาไม่ได้โกหกหล่อน เขากำลังจะมาสู่ขอหล่อนอย่างที่เขาได้ให้สัญญาไว้จริง ๆ