"หนูอย่าไปยอมมันนะลูก ถ้ามันทำอะไรมาบอกพ่อหรือแม่ก็ได้พ่อจะได้จัดการมันให้....ถ้ามันล่วงเกินหนูเมื่อไรให้มาบอกพ่อหรือแม่ได้เลยนะ พ่อจะให้มันแต่งแล้วก็จดทะเบียนสมรสกับหนูให้เร็วที่สุดเลยเป็นไง"
ต้องตาหุบยิ้มทันที เป็นอีกคนที่ยิ้มไม่หุบ
"เออ..พี่กันไม่ได้ล่วงเกินอะไรหนูเลยค่ะ พี่เค้าแค่หยอกเล่น พอดีหนูตื่นเต้นนอนไม่หลับก็เลยเหนื่อยง่วงเผลอหลับไปแป๊บเดียวเองค่ะ" หญิงสาวแก้ตัวพัลวัล
"หึหึ" เสียงหัวเราะของสองชายต่างวัยดังขึ้นพร้อมกัน
หลังจากพาว่าที่ลูกสะใภ้ไปพบบิดาแล้ว กันตพงษ์ได้พาหญิงเดินชมสถานที่จนทั่ว จนถึงเวลาพักกลางวัน
"ใกล้เที่ยงแล้วพี่พาไปกินข้าว" กันตพงษ์มองดูนาฬิกาข้อมือจึงเอ่ยชวนหญิงสาว
"ขอให้นุชไปด้วยได้มั๊ยคะ"ต้องตาต่อรอง
"ได้ซิ" "เดี๋ยวหนูโทรหาเพื่อนก่อน"
-ห้องอาหารญี่ปุ่น
"ชอบมั๊ย อร่อยรึเปล่า" กันตพงษ์คีบอาหารนั่นทีนี่ทีให้สองสาวสลับกันไปมาจนสองสาวอิ่มแปร้ไปตาม ๆ กัน
"ชอบค่ะ/ชอบค่ะ อร่อยมากค่ะ"
"ถ้าชอบคราวหน้าถ้ามีโอกาสจะพามาอีก"
"ขอบคุณค่า/ขอบคุณค่า ขอให้เจ้าภาพจงเจริญค่า" หญิงสาวประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกัน
"หึหึ" เสียงหัวเราะในลำคอของเจ้าภาพ เขารู้สึกว่าเหมือนพาลูกสาวมาสปอยด์ยังไงก็ไม่รู้ มันรู้สึกดีพิลึก แต่มันจะดีมากถ้าไม่มีสายตาทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่มองสาวเจ้าโดยเฉพาะเด็กน้อยของเขาตาเป็นมันนี่ซิ ไม่ได้ ๆ ต้องหาทางกัน ๆ ท่าไว้บางแล้วปล่อยไว้อย่างนี้คงไม่ดีแน่
ตั้งแต่ต้องตาฝึกเข้ามาฝึกงานที่บริษัทครอบครัวของกันตพงษ์เธอก็ไม่ค่อยได้เจอพี่ชายเท่าไร ถามแม่แม่ก็บอกว่าพี่ชายไปดูงานที่สาขาต่างจังหวัดบ้าง ไปต่างประเทศบ้างทำให้เธอเหงาแปลก ๆ
"แม่คะ พี่ต่อหายไปไหนเหรอคะ โทรไปก็รับแต่คุยแบบรีบ ๆ ไลน์ไปก็อ่านแต่ไม่ตอบบ้าง ตอบทีก็ช้ามาก
มาตอบอีกที่ก็วันรุ่งขึ้นก็มี ตอบทั้งทีก็จะบอกว่าห้ามดื้อกับแม่ห้ามดื้อกับพี่กัน ให้เป็นเด็กดีของทุกคน" ต้องตาบ่นยืดยาว
"บ่นเป็นยายแก่เลยลูกสาวแม่ พี่เค้าทำงานยังไงละลูก เค้าทำแทนพ่อ และทำในฐานะลูกชายคนโต น้องต้องต้องเข้าใจพี่เค้านะ เค้าอาจจะไม่มีเวลาแต่เราอยู่ในใจพี่เค้าเสมอนะลูก" คุณนายตรีทิพย์ลูบหัวลูกสาวด้วยเมตตา คงคิดถึงพี่ชายมากเลยซิลูก นางได้แต่ภาวนาให้ลูกชายกล้าที่จะเผชิญกับสถาณการณ์ข้างหน้าและพาครอบครัวของตัวเองให้มารู้จักกับน้องสาวในเร็ววัน
-ทางด้านครอบครัวกันตพงษ์
"ทางนั้นรู้รึยังล่ะ" ผู้เป็นบิดาเอ่ยถาม
"ยังไม่รู้ครับ แต่สงสัย ถามหาอยู่เหมือนกัน อยากเรียนจบเร็ว ๆ จะได้ไปช่วยแบ่งเบาภาระพี่ชาย เข้าใจว่าพี่ชายทำงานจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว" กันตพงษ์อธิบายให้บิดาฟังอย่างปลง ๆ
"ถ้าน้องรู้ว่าพี่ชายสุดที่รักมีลูกมีเมียอยู่แล้วจะเคว้งหรือเปล่านะ" ผู้เป็นมารดาเสริม
"ก็คงจะเคว้งน่าดูเลยแต่ผมจะเอาความรักทั้งหมดของผมที่มีเยียวยาน้องเองครับแม่" กันตพงษ์บอกอย่างจริงใจ
"น้องน่าสงสารนะ ขาดพ่อ มีพี่ชายที่เป็นทั้งพ่อและพี่ในขณะเดียวกัน อยู่ ๆ พี่ก็ไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองหายไปดื้อ ๆ เป็นใครก็เคว้งน่าดู..." คุณนายกานดาถึงกับบ่นอืดด้วยความเห็นใจว่าที่ลูกสะใภ้อย่างสุดซึ้ง
...เฮ๊อ..." กันตพงษ์ถอนหายใจยืดยาว "เป็นไงเราแม่ว่าเราดูแย่นะ" "ก็น้องบอกว่าจะไม่แต่งก่อนพี่ชายนี่ซิครับแม่ที่มันดูแย่....ไอ้ต่อนะไอ้ต่อแกจะรู้มั๊ยว่าแกโยนไฟทั้งกองมาใส่ฉันเนี่ย...กันตพงษ์ สบถบ่นเพื่อนรัก พร้อมกับยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
"เอาน่าไอ้ลูกชายค่อย ๆ คิด...พ่อว่าลูกควรคุยกับแม่ของน้องและต่อนะ...เอางั้นเหรอครับพ่อ....งั้นซิ...พ่อก็อยากอุ้มหลานกับเค้าเหมือนกันนะ ลูกชายสองคนก็ไม่เห็นมีวี่แววจะได้อุ้มหลานเลยสักคน..." คนเป็นพ่อบ่นอย่างไม่จริงจัง..แต่จริงใจ
-บ้านแม่ยายต่อพงษ์
"คุณมาหาใครคะ" ผู้เป็นเจ้าบ้านเอ่ยถามอย่างสุภาพ
"ผมเป็นเพื่อนต่อพงษ์ครับ ต่ออยู่มั๊ยครับ ผมขอคุยกับมันหน่อย"
"อ๋อ พ่อต่อยังไม่กลับค่ะ แต่เข้ามาคุยกันก่อนก็ได้นะคะ เชิญค่ะ"..."ใครมาคะแม่.".หญิงสาวหน้าตาสะสวยเอ่ยถามมารดาในขณะกำลังอุ้มลูกน้อยพาดบนไหล่ "นี่ซินะเหตุผลที่คนคนนึงที่รักครอบครัวที่สุดยอมปล่อยวางอีกสิ่งหนึ่งเพื่อประคับประคองสิ่งที่รักยิ่งกว่า ผมว่าผมเข้าใจเพื่อนผมนะ" กันตพงษ์พูดเปรย ๆ อย่างเข้าใจโลก "อ่อ ขอโทษที่เสียมารยาท ผมไม่ทราบว่า.......(เขาเว้นคำพูดไว้แล้วมองไปที่เด็กน้อยบนไหล่มารดา)ไม่ได้มีอะไรมาเยี่ยมหลานเลย แต่ผมมีนี่ครับให้เป็นของที่ระลึกรับขวัญหลาน พลางถอดสร้อยคอทองคำจี้ฝังเพชรให้ผู้เป็นแม่ทารกน้อย รับไว้เถอะครับ ผมกับต่อเป็นเพื่อนรักกัน เคยสัญญาว่าถ้าใครมีลูกก่อนต้องยอมให้ของรักของหวงเป็นของขวัญลูกคนแรก" กันตพงษ์วางสร้อยลงบนผ้าห่อตัวเด็กทารกแล้วยิ้มอย่างจริงใจ
"ทางนั้นมาเยี่ยมหรือยังครับ" "คุณแม่มาเยี่ยมหลานแล้วค่ะ ส่วนพี่ต่อติดงานที่สาขาต่างจังหวัดคอลมาบ้างค่ะ เห็นว่าค่ำ ๆ คงถึง" หญิงสาวบอก
"ผมคงขอตัวกลับก่อนนะครับ ฝากบอกต่อว่าผมมาเยี่ยมหลานนะครับ มันเห็นสร้อยมันคงรู้ดี ผมลาละครับคุณน้า...พี่ไปนะ" กันตพงษ์เอ่ยลาเจ้าของบ้านและแม่ของเจ้าตัวเล็กพร้อมกับขอถ่ายรูปเจ้าตัวเล็กเก็บไว้เผื่อมีประโยชน์
ตู้ด......
ต่อสายเรียกเข้า
กัน: ว่าไงเพื่อน ฉันไปเยี่ยมลูกสาวแกมาแล้วนะ ของรักที่สัญญากันไว้ฉันให้ไว้ที่หลานแล้วนะเก็บไว้ดีดีล่ะ
ต่อ: บ้าน่า สร้อยเส้นนั้นแกรักมากไม่ใช่?
กัน: ก็คงไม่มากไปกว่าเพื่อนรักอย่างแกหรอกน่า ของนอกกายน่าเพื่อน
ต่อ: ขอบใจว่ะเพื่อน
กัน: ต่อ.....(เงียบ)
ต่อ: ว่า......
กัน: ฉันขอเป็นน้องเขยแกอย่างเต็มภาคภูมิได้มั๊ย
ต่อ: ได้ซิ หาวิธีเอาเอง กุอนุญาตมึงตั้งนานแล้ว..เสือกโง่เองแค่นี้นะเสียเวลาทำมาหากินหมด
กัน: สัด กุก็ทนมาตั้งห้าปี น้ำจะล้นอยู่แล้ว ขอบใจเว้ยเพื่อน
ต่อ: เออ กุฝากน้องกุด้วย ฝากเมตตาน้องมาก ๆ น้องขาดพ่อมาตั้งแต่เด็ก กุก็ดูแลได้ไม่เต็มที่เหมือนก่อน
กัน: ไม่ต้องกังวลเพื่อนกุรักต้องตาและกุคิดว่ากุดูแลน้องได้ทั้งตัวและหัวใจเว้ย ไม่ต้องห่วง