เดือนอ้ายเดินลีบเข้ามาภายในห้องพักอาจารย์ ซึ่งตอนนี้ทั้งห้องพักไม่มีอาจารย์คนไหนนั่งอยู่ประจำโต๊ะเลย นอกจากอาจารย์วิลเลียม ผู้ชายที่ช่วยหล่อนเอาไว้เมื่อตอนช่วงสายของวันนี้
หัวใจสาวเต้นไม่เป็นระส่ำอีกครั้ง เมื่อได้สบตากับเขาในระยะใกล้ชิดแบบนี้
มันน่าอายมากที่ความรู้สึกร้องบอกว่าหล่อนตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าให้แล้ว
หญิงสาวพยายามตั้งสติด้วยการบีบมือของตัวเองที่ประสานกันไว้ตรงหน้าขาแรงๆ แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะซ่อนสีแดงระเรื่อบนแก้มนวลให้พ้นไปจากสายตาคมเข้มของวิธวินท์ได้
เขาลอบยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินหน้าดำเนินการตามแผนการต่อไป
“เราได้เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“เอ่อ... อาจารย์วิลเลียมมีอะไรกับอ้ายเหรอคะ หรือว่าเรื่องเรียน...?”
หล่อนกัดฟันถามออกไป แต่น้ำเสียงสั่นเทาจนน่าอับอาย
“เวลาเราอยู่กันตามลำพัง เรียกผมว่า วิน เฉยๆ ก็ได้ครับ”
“เอ่อ... ไม่ได้หรอกค่ะ อาจารย์วิลเลียมเป็นอาจารย์ของอ้าย”
“ผมเป็นอาจารย์ของคุณตอนที่อยู่ในห้องเท่านั้นครับ เวลาที่เราไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ผมก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้นเอง”
ทำไมเขาจะต้องโปรยยิ้มทรงเสน่ห์แบบนี้ให้กับหล่อนด้วยนะ รู้ไหมว่าหัวใจของหล่อนมันหวั่นไหวเหลือเกิน
“คือ...”
เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าขัดเขินจนแทบจะแทะเล็บตัวเองแล้ว วิธวินท์ก็อดที่จะหัวเราะออกมาอย่างลืมตัวไม่ได้
ทำไมผู้หญิงตรงหน้าถึงดูไร้จริตจะกร้านต่างไปจากจันทร์แรมเหลือเกินนะ ทั้งๆ ที่ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน
เหมือนใจจะอ่อนลง แต่ไม่ช้าวิธวินท์ก็เรียกความเลือดเย็นกลับคืนมาได้เต็มแม็กซ์เหมือนเดิม
“ที่ผมเรียกคุณมาพบนี่ ความจริงไม่ได้มีธุระอะไรเกี่ยวกับเรื่องเรียนหรอกนะครับ”
“เอ๋?”
“ผมแค่อยากเห็นหน้าคุณน่ะครับ”
เดือนอ้ายถึงกับตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของคู่สนทนาสุดหล่อ
“อาจารย์วิลเลียม หมาย... ความว่ายังไงเหรอคะ..”
“ผมอยากเห็นหน้าคุณน่ะครับ”
นี่หล่อนไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ทำไมเขาพูดแบบนี้ล่ะ เหมือนเขาจะจีบหล่อนเลย
“เอ่อ... อาจารย์วิลเลียมล้ออ้ายเล่นใช่ไหมคะ”
หล่อนแสร้งหัวเราะ แต่ไม่นานก็ต้องหยุดนิ่ง และก็รู้สึกหวามไหวไปทั้งตัว เมื่อคู่สนทนาสุดหล่อลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินอ้อมโต๊ะออกมาหยุดข้างๆ ร่างของหล่อน
กลิ่นตัวสุดเซ็กซี่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนักล่าโชยฟุ้งออกมาจากเนื้อตัวของเขา
หัวใจของหล่อนเต้นแรงมากจนจะควบคุมไม่อยู่แล้ว อุ้งมือก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ผุดขึ้นมาจำนวนมาก
“ผมไม่ได้ล้อเล่นครับ”
เขาโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้กับหล่อนอีกแล้ว
หัวใจของเดือนอ้ายกระดอนออกจากทรวงอกไปตกลงที่แทบเท้าใหญ่ทันที
วิธวินท์มองท่าทางไร้เดียงสาที่อ่านได้ง่ายมากๆ ของเดือนอ้ายแล้วก็ยิ้มกริ่ม
ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความซับซ้อนอะไรเลย ไร้เดียงสา สีหน้าแสดงความรู้สึกทุกอย่าง
“คุณบอกว่าจะเลี้ยงข้าวไม่ใช่หรือครับ”
“เอ่อ...”
“เย็นนี้เลิกเรียนแล้ว ผมจะจอดรถรอที่หน้ามหา’ลัยนะครับ”
“คือ...”
หล่อนควรจะปฏิเสธหรือตอบตกลงดีนะ
เดือนอ้ายถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา สถานการณ์ตรงหน้ามันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน ทำให้หล่อนตั้งตัวไม่ทันเลย
“งั้นก็ตามนี้นะครับ เจอกันสี่โมงเย็นครับ”
หล่อนยังคงยืนนิ่งเหมือนถูกสาป
“คุณออกไปได้แล้วครับ เพื่อนรออยู่ที่ห้องสมุดไม่ใช่หรือ”
“เอ่อ... อาจารย์วิลเลียมรู้ด้วยเหรอคะ” หล่อนละล่ำละลักถาม
“ผมเดาเอาน่ะ อ้อ... แล้วอย่าลืมที่ผมบอก เรียกผมว่า ‘วิน’ เวลาที่เราอยู่กันตามลำพัง”
เขาออกคำสั่ง แต่มันเป็นคำสั่งที่ชวนวาบหวามหัวใจเหลือเกิน
“แล้วเจอกันครับ”
หล่อนทำได้แค่เพียงเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ สมองยังคงขาวโพลน และยังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
“เราฝันไปหรือเปล่าเนี่ย”
เดือนอ้ายเดินเข้ามาในห้องสมุดด้วยท่าทางคล้ายใจล่องลอย จนเพลงพิณต้องถามเพื่อนอย่างสงสัย
“อ้าย... เธอเป็นอะไรไปเนี่ย ใจลอยไปไหนยะ”
เสียงเรียกจากเพื่อนสนิท ทำให้เดือนอ้ายได้สติกลับคืนมา
“ฉัน...”
หล่อนลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเล่าให้เพื่อนฟัง
“มีบางอย่างจะเล่าให้ฟัง”
เพลงพิณเห็นเดือนอ้ายทำเสียงกระซิบกระซาบจึงตั้งใจฟัง
“เหลามาเลย รอฟังอยู่”
“คือ... อาจารย์วิลเลียมนัดฉันไปกินข้าวเย็นนี้พิณ”
“ห๊ะ! ว่าไงนะ?”
“ชู่ว์... อย่าเสียงดังสิพิณ”
เดือนอ้ายรีบหันไปมองบรรณารักษ์ ก็พบว่าถูกมองแรงอยู่พอดี
“โอเค เบาๆ ก็ได้ ว่าแต่เรื่องจริงเหรออ้าย ที่ว่าอาจารย์วิลเลียมสุดหล่อชวนเธอไปกินข้าวเย็นน่ะ”
สองแก้มนวลของเดือนอ้ายแดงระเรื่อ ก่อนจะผงกศีรษะตอบรับ
“โห รู้ไหมเนี่ยว่าเธอโชคดีมากๆ เลยนะ สาวๆ ในมหา’ลัยจะต้องอิจฉาตาร้อนแน่ๆ เลย ขนาดฉันยังตาร้อนผ่าวเลยเนี้ย”
“พิณน่ะ... อย่าพูดแบบนี้สิ”
“แหม เพื่อนฉันเขินหน้าแดงเชียว”
“เบาๆ หน่อย..” เดือนอ้ายก้มหน้าแดงๆ ของตัวเองมองโต๊ะตรงหน้า หัวใจเต้นโครมครามตลอดเวลา
“แล้วนี่นัดกันกี่โมงล่ะ”
“สี่โมงเย็นน่ะ ว่าแต่พิณว่างไหมล่ะ ไปด้วยกันหน่อย”
เพลงพิณรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ฉันไม่ไปเป็นกอขอคอของเธอหรอกจ้ะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย เราแค่ไปกินข้าวกันเอง พิณไปด้วยกันนะ”
“เธอไปกับอาจารย์วิลเลียมเถอะ แล้วพรุ่งนี้อย่าลืมมาเม้าท์ให้ฟังด้วยล่ะว่าคืบหน้ายังไงบ้าง”
เพลงพิณเอาไหล่ของตัวเองมากระทบไหล่ของเดือนอ้ายอย่างหยอกเย้า
เดือนอ้ายหน้าแดงอายม้วนเลยทีเดียว และต่อจากนั้นหล่อนก็นั่งใจล่องลอยไปแสนไกล