EP 46

1146 Words
“อ้าว! คุณหนึ่งอยู่ด้วยเหรอคะ เอ...มิ้นท์เข้ามาผิดเวลาหรือเปล่าคะ แต่จะให้กลับไปนอนคอนโดฯ ก็ทำไม่ได้เพราะห่วงหนึ่งค่ะ เลยต้องหอบเสื้อผ้ามานอนคอยดูแลหนึ่งด้วยตัวเองค่ะ” “อ้อ! ไม่หรอกค่ะ คุณมาได้เวลาพอดี ขอตัวนะคะ” ว่าแล้วปราณปริยาวดีก็เดินออกจากห้อง โดยไม่สนใจจะหันกลับมามองเจ้าของหน้าหล่อ ที่จ้องมองตามเมียด้วยหัวใจระเหี่ย เพราะปัญหาที่ตัวเองสร้างขึ้น แถมขุ่นเคืองคู่ขาที่ไม่ยอมฟังคำห้ามปรามของเขา แถมยังดึงดันมาหาในเวลาที่เขาไม่ค่อยจะอยากให้มาสักเท่าไหร่ ไม่แตกต่างไปจากพ่อแม่ของเขา รวมทั้งสุดาด้วยที่เห็นสาวเปรี้ยวลงไปร่วมโต๊ะตอนมื้อเย็น “กะเวลามาได้เหมาะดีจังเลยนะแม่คุณ” พิไลพรรณเลยเหน็บเข้าให้ ด้วยใบหน้าบึ้งตึง ถึงแม้จะไม่ชอบใจสะใภ้สักแค่ไหน ทว่าในใจก็แอบลุ้นให้ลงเอยกับพ่อลูกชายตัวดี ที่กำลังเจริญรอยตามพ่ออย่างดิบดีอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าให้เลือกระหว่างลูกเมียน้อยที่นิสัยดี รู้จักกาละเทศะ รู้หน้าที่เมีย กับแม่สาวมั่น สาวเปรี้ยวที่หน้าไม่อาย มานอนกกผัวคนอื่นถึงบ้านแล้วล่ะก็ คงต้องเลือกคนแรกเอาไว้ก่อน “หนูหนึ่งมีอะไรให้กินวันนี้ พ่อหิวจะแย่” พาทิศรีบหาเรื่องอื่นมาคุย ก่อนที่เมียจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ปราณปริยาวดีส่งยิ้มให้พ่อสามี “วันนี้มีแกงรันจวญค่ะคุณพ่อ” “จริงเหรอ โอ้โห! นานทีปีหนจะได้กิน ตักข้าวเลยสุ” พาทิศยิ้มให้สะใภ้อย่างพึงพอใจ ผิดกับสะใภ้นัก ที่ขัดหูขัดตากับสามีและคู่ขา ทว่าก็นั่งกินเงียบๆ ไม่ว่าอะไรแม้แต่คำเดียว พออิ่มก็เตรียมหนีขึ้นห้อง โดยไม่สนสายตาสามีที่จ้องมองตามตาละห้อยเลยจนนิดเดียว และอดโกรธตัวเองไม่ได้ด้วย ที่เมื่อบ่ายเผลอไผลไปกับสัมผัสของเขา จนเกือบจะเอาตัวไม่รอด และเกือบจะกลายเป็นของตายสำหรับเขา ที่ยามอยากได้ก็ออดอ้อนออเซาะ พอยามมีคืนอื่นกลับทำเมินเฉยเหมือนที่ผ่านๆ มา “คุณจะรีบไปไหนเหรอหนึ่ง” แต่คราวนี้เขากลับเฉยไม่ได้ จึงถามออกไป ปราณปริยาวดีหันมาหาแค่นิดเดียวแล้วตอบเสียงเรียบเรื่อย “ขึ้นนอนค่ะ วันนี้เหนื่อยๆ ขอตัวก่อนนะคะคุณพ่อคุณแม่” ก่อนจะย่อตัวลงเวลาเดินผ่านด้านหลังพ่อแม่สามีที่ยังกินไม่อิ่ม ออกจากห้องตรงขึ้นชั้นบนทันที พลาธิปลุกขึ้นทุกทีเช่นกัน แต่ก็ถูกรัตติกาลคว้าแขนไว้ แล้วส่งน้ำเสียงออดอ้อนไปหา “หนึ่งจะไปไหนคะ ยังไม่อิ่มไม่ใช่เหรอคะ” “ผมอิ่มแล้ว ขอโทษนะ” ทว่าก็ถูกเขาหันมาตอบเสียงหนักแน่น แล้วแกะมือบางออกจากแขนตัวเอง พร้อมกับวิ่งออกจากห้องอาหารทันที เพื่อหมายจะตามเมียไปให้ทัน แต่ก็ช้าไปหลายก้าว เมื่อประตูห้องเมียปิดสนิท เคาะยังไงก็ไม่เปิดออก “หนึ่ง! เปิดให้ผมเข้าไปคุยอะไรด้วยหน่อยได้หรือเปล่า เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ หนึ่งๆๆ” เรียกยังไงก็ยังได้คำตอบเดิมคือเงียบ “หนึ่งคะ! มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เข้าห้องเถอะค่ะ มิ้นท์จะผสมน้ำอุ่นๆ ให้อาบ จะได้แล้วจะถูหลังให้ได้ด้วย หนึ่งจะได้สบายตัวนะคะ มาสิคะคนเก่งของมิ้นท์” รัตติกาลรีบตามขึ้นมาหา คว้ามือที่กำลังจะเคาะประตูห้องแม่เมียแต่งเอาไว้ แล้วลูบไล้แผ่นอกเขาไปมา ส่งสายตากับน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ จนเขาต้องยอมแพ้ แล้วยอมเดินตามคู่ขาเข้าไปอีกห้อง กระนั้นหัวใจของเขาที่เคยแข็งแกร่ง ก็ยังไม่วายอ่อนยวบยาบและลอยไปอยู่อีกห้อง ผิดกับตัวที่จำต้องอยู่กับอีกคนอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก เมื่อความปรารถนาเข้ามากระตุ้นเตือน ให้ตักตวงหาความสุขใส่ตัวก่อน   ปราณปริยาวดีเตรียมจัดโต๊ะมื้อเช้าตามปกติ และด้วยท่าทีนิ่งเฉย แม้จะขุ่นเคืองตัวเอง ที่ปล่อยให้การกระทำของสามีกับคู่ขาเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อนก็ตาม สายตาคู่สวยเงยขึ้นไปมองประตูห้องอาหาร เมื่อรับรู้ว่ามีคนเดินเข้ามา จากที่คิดว่าเป็นสุดายกอาหารมาแล้ว กลับกลายเป็นแม่สาวมั่น มาในชุดเดรสผ้ายืดรัดรูปสีดำ ปิดส่วนนั้นลงมาไม่ถึงสองคืบด้วยซ้ำ “ตื่นแต่เช้าเชียวนะคุณหนึ่ง ขอกาแฟแก้วหน่อยสิคะ ไม่ไหว เมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอนเลยล่ะค่ะ ไม่รู้หนึ่งอดอยากปากแห้งมาจากไหน มิ้นท์ไม่อยู่แค่สองสามคืนคืนเอง ยังกับไม่ได้กินอะไรมาเป็นชาติเชียวค่ะ” คนบอกเดินมานั่ง ยกขาไขว้ห้างอย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน ปานประหนึ่งเป็นเจ้าของบ้าน สุดาเพิ่งยกถาดอาหารเข้ามา และได้ยินประโยคเมื่อครู่ ถึงกับมองด้วยสายตาไม่ชอบใจ ก่อนจะส่ายหน้าเอือมระอาใส่อย่างไม่ปิดบัง ปราณปริยาวดีเองก็จัดโต๊ะต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้สนใจจะทำตามคำขอของคู่ขาสามีแม้จนนิดเดียว “ไม่ได้ยินเหรอคะคุณหนึ่ง ว่ามิ้นท์ขอกาแฟแก้วไงคะ” รัตติกาลจึงย้ำสั่งเสียงห้วนๆ ปราณปริยาวดีหันไปมอง แล้วยิ้มอย่างใจเย็นก่อนจะเอ่ย “ฉันได้ยินค่ะ แต่ขอโทษนะคะที่ทำให้ไม่ได้ เพราะฉันไม่ใช่คนรับใช้ในบ้านนี้ ถ้าคุณอยากจะได้ ก็คงต้องรบกวนจัดการช่วยตัวเองตามสบายค่ะ” “หมายความว่ายังไงไม่ทราบ” รัตติกาลวางหนังสือพิมพ์ลงอย่างหัวเสีย แต่ปราณปริยาวดีก็ยังคงยิ้มอย่างใจเย็นเช่นเคย “ก็หมายความอย่างที่บอกนั่นล่ะค่ะ ขอโทษนะคะ รบกวนช่วยออกไปห่างๆ โต๊ะนิด ฉันกับป้าสุจะได้จัดให้เรียบร้อยก่อนถึงเวลาอาหาร” แล้วปราณปริยาวดีจัดโต๊ะอย่างใจเย็น สุดาเองก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เพราะนานทีปีหนจะได้เห็นสะใภ้ออกฤทธิ์บ้างสักครั้ง แต่สำหรับรัตติกาลกลับร้อนระอุไปทั้งทรวง ใบหน้าบูดบึ้งอย่างคนอารมณ์เสียแต่เช้า และกำลังจะเดินออกจากห้องอาหารไป แต่เห็นคู่ขาเดินลงบันไดมาก่อน เลยรีบตรงไปคล้องแขนแล้วตีหน้ายิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดี
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD