EP 10

1123 Words
“ค่ะคุณแม่” เพราะลูกสาวห่วงแม่มากกว่าเรื่องอื่นใด จึงรับคำง่ายๆ และลงไปในครัวหากอบ “ป้าอยากได้พวกสลัดออแกนิคส์มาไว้ให้คุณกินค่ะ หมอบอกว่าต้องเลือกของไม่มีสารเคมี จะได้ไม่แสลงโรค อ้อ! คุณบอกว่าอย่าให้คุณหนึ่งเผลอบอกเรื่องนี้กับใครนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณตาหรือคุณยายค่ะ เพราะคุณไม่อยากให้ทุกคนไม่สบายใจ” กอบรีบทำตามแผนที่วางไว้อย่างดิบดีกับเจ้านาย “เหรอคะ งั้นหนึ่งไปซื้อของที่ห้างให้ก็ได้ค่ะ มีอะไรขาดอีกหรือเปล่าคะ จะได้ซื้อมาให้ครบเลย” “ไม่มีแล้วค่ะคุณหนึ่ง” ไม่นานออดี้เอสสี่ที่ได้จากผู้พ่อ เป็นของขวัญสำหรับค่าความภาคเพียรจนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งมานอนกอด ก็ถูกหญิงสาวเรียกใช้งานเป็นครั้งที่สองของเดือนนี้หลังจากจอดแหมะอยู่แต่ในโรงรถมาตลอด “คุณหนึ่งคะ ฝากซื้อข้าวกล้องด้วยนะคะ ขนมปังอบเนย...” และอีกหลายต่อหลายอย่างที่กอบโทรมาบอก เพื่อเป็นการประวิงเวลาให้ผู้ใหญ่คุยธุระสำคัญเสร็จก่อน     “อ้าว! กลับมาแล้วเหรอหนึ่ง ดีเลยจะได้บอกข่าวสำคัญให้รู้ต่อหน้าคุณตากับคุณยาย” ปิยะเอ่ยทักทาย เมื่อลูกสาวหิ้วถุงพะรุงพะรังเดินเข้ามาในบ้าน ที่ไม่มีแขกของแม่แล้ว แต่มีตากับยายอยู่แทน และทุกคนหันมาจ้องมองด้วยสายตาแปลกกว่าวันอื่นๆ ที่เธอเคยเห็นมาก็ว่าได้ กอบเดินมาช่วยรับของ “ยัยหนึ่งมานั่งคุยกันก่อนสิลูก” คุณตาเปล่งเอ่ยเสียงนุ่มนวล ปราณปริยาวดีเข้าไปนั่งข้างแม่ แทนที่จะเป็นข้างพ่อที่ว่างอยู่ แต่เธอก็ไม่เลือก ด้วยเพราะแผลแห่งความห่างเหินกับเมินหมางที่ผู้พ่อมอบให้ตั้งแต่จำความได้นั้นยังไม่ตกสะเก็ดแต่อย่างใด “คุณพาทิศ กับคุณพิไลพรรณ เพิ่งจะจะกลับไปเมื่อไม่นานนี่เอง หนึ่งรู้จักหรือเปล่า” ปิยะเป็นคนเอ่ยปากถาม “ไม่ทราบค่ะคุณพ่อ” ลูกสาวตอบเสียงเรียบกลับไปและไม่ได้มองหน้าพ่อ “ก็พ่อแม่ของพลาธิปหรือนายหนึ่ง แฟนเก่ายัยเอพี่เรานั่นไงล่ะ เขาให้ผู้ใหญ่มาทาบทามเรื่องจะสู่ขอหนึ่ง ให้ลูกชายคนเดียวของเขา แล้วหนึ่งล่ะจะว่ายังไง” ผู้พ่อบอกเสียงเนิบๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรนัก ผิดกับลูกที่ตกใจ จนเผลออุทานออกมาขัดกลางพ่อที่กำลังจะคุยต่อ “อะไรนะคะคุณพ่อ!!! หนึ่งไม่เข้าใจค่ะ” ปานเห็นท่าทีลูกแล้ว ต้องรีบกำราบไว้ด้วยสายตาและท่าทาง พร้อมเสียงดุนิดๆ “หนึ่ง! ให้คุณพ่อพูดจบก่อนสิจ๊ะ อย่าเสียมารยาท” ลูกเลยจำต้องนั่งนิ่งรอฟังพ่อต่อ “ก็นั่นล่ะ เขามาทาบทาม ถ้าหนึ่งตกลงก็จะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอเป็นเรื่องเป็นราวเลย หนึ่งจะว่าไง แต่ถ้าจะให้พ่อแนะนำนะ นายหนึ่งก็ดีไม่มีอะไรเสียหาย รูปร่างหน้าตา การศึกษาก็ดีมีอนาคตไกล สมบัติพัสถานเขามีเยอะ เป็นลูกคนเดียวด้วย หนึ่งได้มาเป็นสามีก็จะสบายไปทั้งชาติ ถ้าหนึ่งไม่ตกลงปลงใจกับคนนี้ พ่อว่าคงจะหาดีๆ ผ่านมาให้เลือกอีกยากนะ จะคิดจะทำอะไรก็รีบตัดสินใจซะ จะได้รีบจัดงานแต่งให้ จะได้เป็นฝั่งเป็นฝาให้พ่อแม่กับตายายหมดห่วงเหมือนที่พี่เอไงล่ะ” “หนึ่งจะเอาไปคิดก่อนก็ได้นะ ไม่มีใครบังคับหรอก ตากับยายให้อิสระหนึ่งเต็มที่ ไม่ต้องห่วงอะไร หนึ่งรักและเลือกคนไหน หรือคิดว่าอยู่กับใครแล้วมีความสุข ตากับยายก็ไม่ว่าขออย่างเดียวให้ดูดีๆ อย่าไปคว้าคนมีเจ้าของมาจนต้องนั่งกินน้ำใต้ศอกให้ชอกช้ำใจจนวันตายแค่นั้น” คุณตาเปล่งเห็นลูกเขยออกท่าทางบีบบังคับลูกทางอ้อม เลยรีบเปิดช่องให้ และนั่นเป็นอะไรที่หลานชอบในอย่างที่สุด เพราะอึดอันในคำแนะนำแกมบังคับของพ่อขึ้นมาทันใด แถมยังมีสายตาของแม่ที่อยากได้ยินคำว่าตกลงหลุดออกมาจากปากลูกเต็มที “ค่ะคุณตา งั้นหนึ่งขอตัวก่อนนะคะ ทานข้าวได้เลยนะคะไม่ต้องค่ะ หนึ่งไม่หิว” แล้วปราณปริยาวดีก็ลุกเดินขึ้นชั้นบนไป โดยไม่สนใจว่าผู้ใหญ่จะพอใจหรือไม่และยังไง เพราะเรื่องที่ได้ยินนั้นมันงุนงงจนตั้งตัวมติด คาดคิดไม่ถึงว่าจะได้ยิน และเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังเครียดจึงหนีเข้าไปอาบน้ำให้ร่างกายและใจได้พักบ้าง กระนั้นก็ยังคงยืนเอาไหล่พิงขอบหน้าต่างครุ่นคิดในเรื่องไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองเลยสักนิด แม้จะไม่มีใครบังคับไม่ว่าจะพ่อแม่หรือตายาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพ่อกับแม่คงจะไม่เห็นด้วยหรือคงไม่ยินดีนักหากลูกอย่างเธอจะไม่ตอบตกลง ส่วนตากับยายนั้นเธอไม่ห่วง เพราะทั้งสองย่อมยึดถือเอาความสมัครใจของหลานเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว หญิงสาวจำสีหน้าและท่าทางของตาได้ว่าไม่ใคร่จะพอใจเมื่อพ่อกับแม่มีท่าทีสนับสนุน   “หนึ่งไปนะคะคุณแม่” ปราณปริยาวดีรีบหนีหน้าแม่ทันทีในตอนเช้า โดยไม่รอกินอะไรด้วยเช่นทุกวัน ทว่ากลับฝากท้องไว้กับข้าวต้มฝีมือยายที่บ้านสวนแทน เพราะกว่านักเรียนตัวน้อยๆ จะมาก็สิบโมงไปแล้ว “หนึ่งไม่ต้องกลัวนะ พอใจไม่พอใจยังไงก็บอกพ่อกับแม่ไปเลย ตากับยายจะไม่ว่าอะไรหนึ่งเลยล่ะ มีด้วยเหร๊อะ ลูกสาวแทบจะไม่ได้พูดคุยกับไอ้หนุ่มนั่นด้วยซ้ำ พอเห็นเขามีเงินหน่อยก็เตรียมจะยกลูกใส่พานไปประเคนให้แล้ว ใช้ได้ที่ไหนพ่อแม่แบบนี้ ยายผิดเองล่ะที่เลี้ยงแม่เรามาดีเกินไป ตามใจเกินไป ถึงได้เสียคน ถึงได้มีผัวโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ จนต้องเป็นน้อยเขานั่นไง แถมยังทำตัวลืมกำพืดเดิม จนไม่เหลือกลิ่นคนสวนด้วย คิดๆ ไปก็อยากเอาขี้เถ้ายัดปากมันตั้งแต่เล็กๆ นัก จะได้ไม่ต้องโตมาสร้างปัญหาให้อายคนอย่างนี้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD