บทที่1
สาวฟีโน่แดง
ในพื้นที่ทุรกันดารถนนเข้าหมู่บ้านยังเป็นดินแดง ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาลนาข้าวแห้งแล้งชิดที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ซังข้าวแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอคนนี้ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด พะแพง ผู้หญิงที่สวยที่สุดในหมู่บ้านโหนกสวย เธอขับรถฟีโน่สีแดงพ่วงข้างไว้สำหรับไปรับน้าชายขี้เมาอย่างน้าเสกเซอร์ๆ ยายของเธอตั้งชื่อให้สมัยพี่เสกโลโซกำลังดังๆ
แง๊นนนน
เอี๊ยดดดด!!
"น้าเสกใจคอสิเมาบ่เหดการเหดงานเลยติ สิเอาอีหยังแดก มากินเหล้าตั้งแต่วันตั้งเต็นท์จนเขาสิเก็บเต็นท์คืนบ้านผู้ใหญ่แล้ว บ่ทันเซาอยู่ติ!!"
"โอ๊ยย อีแพงมึงเป็นแม่กูติ อีห่าราก" คนเมาร่างท้วมเดินโซซัดโซเซขึ้นมานั่งบนพ่วงข้างปากก็บ่นพึมพำ
แง๊นนนน
"โว้ยยย ลูกอีหน่อแ*ด!" เหล้าในมือของชายขี้เมาหกไม่เหลือชิ้นดี ปากก็พร่ำด่าหลานสาวมาตลอดทาง
คนขับบิดมอไซด์มาถึงบ้านเธอก็จัดการลากน้าชายเข้ามาพักตั้งแต่เมียทิ้งก็เอาแต่เมาหัวราน้ำ วันนี้เธอเรียนจบมอปลายแล้วถึงแม้ว่าพ่อกับแม่จะไม่ได้อยู่ดูความสำเร็จของเธอแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะจุดธูปบอก
"อิพ่อ อิแม่ อิหล่าเรียนจบแล้วเด้อ อิป้าสิมาฮับอิหล่าไปเรียนต่อที่กรุงเทพ อิพ่อ อิแม่เป็นกำลังใจให้อิหล่านำแหน่เด้อ"
"เอ้อออ แม่มึงคงสิดีใจหลาย คนเคียวๆจังมึงเรียนจบนำเขาจักเทื่อ"
พะแพงหันขวับไปมองน้าเสกขี้เมาเบอร์หนึ่งประจำหมู่บ้านเธอเดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามาเปลี่ยนชุดเพื่อขับฟีโน่สีแดงมีพ่วงข้างออกไปหาเพื่อนๆที่นัดกันมาทำหมูกระทะที่บ้านของหัวหน้าห้อง
จิมมี่กะเทยหัวโปกเพื่อรักของพะแพงที่เตรียมความพร้อมไปเรียนที่เดียวกัน
ใบปอเพื่อนสาวอีกคนที่นิสัยไม่ต่างจากทั้งสองคน ส่วนคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปเติบโตส่วนใหญ่ได้วุฒิมอหกก็เข้าโรงงานนิคมในตัวเมืองกันหมดน้อยคนนักที่จะได้เรียนต่อ
"มาช้าจังวะมึง" จิมมี่เอ่ยถามตอนนี้ถ่านในเตาลุกโยนยิ่งกว่าจุดเพลิงเปิดพิธีงานกีฬาโรงเรียน "ว้ายๆๆ กะเทยตกใจ!"
"กูต้องไปรับน้ากูก่อน มึงรู้ไหมว่าออกไปตั้งแต่บ้านพี่ฝนตั้งเต็นท์จนวันนี้เขาเก็บเต็นท์แล้วน้ากูยังไม่กลับเลย"
"ฮะๆๆๆ มึงก็รู้ว่าน้ามึงไม่สนใจเจ้าภาพ ขนาดไม่รู้จักกันยังไม่มั่วบ้านงานเลย" ใบปอแสดงความคิดเห็น "เออแล้วมหาวิทยาลัยที่มึงชวนกูไปกูคุยกับพ่อกูแล้วนะเสียค่าเทอมแพงแต่ก็สบายๆ"
"ลูกเจ้าของโรงสีข้าวอย่างมึงจะกลัวอะไร ลูกแม่ค้าเขียงหมูอย่างอีจิมมี่ยังโนว์สนโนว์แคร์เลย"
"ใช่ค่ะ บ้านรวยอะเนอะฮ่าาา"
พะแพงกลับมาถึงบ้านในช่วงกลางดึกเสียงน้าเสกนอนกรนราวกับควายออกลูก เธอขึ้นมาบนชั้นสองก่อนจะเปิดไฟสว่างโล่ง ชั้นสองของบ้านเป็นห้องโล่งๆมีเพียงฟูกนอนชิดมุมหน้าต่างทิศตะวันออกนอกนั้นก็เป็นตู้กระจกตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำที่เธอเอาไว้ใช้ส่วนตัว ชั้นล่างน้าเสกยึดครองและดูแลเรื่องอาหารการกินทำสวนเล็กๆน้อยๆ
ครืดดดด
"ฮัลโหลค่ะ"
(พะแพงเป็นยังไงบ้างลูกเก็บกระเป๋าหรือยัง)
"เก็บแล้วค่ะ ป้าจะมารับหนูวันไหนหนูจะได้บอกน้าเสก"
(คืองี้นะพะแพง ลูกชายของคุณหญิงเขากำลังไปเปิดผับในตัวเมืองบ้านเรา เขาต้องไปอยู่บ้านเราประมาณหนึ่งเดือนระหว่างที่คุณเขาไปอยู่ป้าจะรบกวนพะแพงดูแลคุณเขาหน่อยนะ เสร็จงานก็มาพร้อมคุณณภัทรเขาเลย)
"หนูเนี่ยนะต้องดูแลคน เหอะไม่เอาอะป้าก็บอกน้าเสกสิ"
(โอ้ยย มันก็ไล่ให้ป้ามาคุยกับเราเนี่ย เหนื่อยใจกับมันจริงๆ เอาๆป้านอนแล้วเราก็พักผ่อนด้วยล่ะเดี๋ยวคุณณภัทรเขาถึงแล้วเขาจะโทรหา)
"เฮ้ออ"
จบการสนทนา
พะแพงหงายหลังทิ้งตัวลงนอนอุตส่าห์คิดว่าจะได้เข้ากรุงเทพฯเร็วๆนี้กลับกลายเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไม่รู้จะอีกนานแค่ไหนกัน คิดไปคิดมาสมองก็สั่งงานให้เธอนอนตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่น้าเสกโวยวาย ไก่บ้านยายศรีเข้ามาจิกแปลงผักของแก คนนอนดึกอย่างเธอจึงพลิกตัวเอาหมอนอุดหูปล่อยให้คนแก่สองคนด่ากันให้พอใจ พะแพงอาบน้ำแต่งตัวลงมาก็เห็นน้าชายกำลังอารมณ์ดีตัดแต่งกิ่งไม้ส่วนผักที่ถูกเหยียบย่ำก็ถูกตัดใส่ตะกร้าไว้
"จับฉ่ายก็แล้วกัน"
พะแพงยกตะกร้าผักที่ถูกตัดเข้ามาในครัวเธอนำผักมาล้างทำความสะอาดแล้วพักเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำจากนั้นก็หันไปเตรียมเนื้อหมูสามชั้นโครงไก่น่าจะเป็นไก่ของยายศรีที่เลี้ยงไว้ขายเนื้อถูกน้าเสกจัดการไว้ในหม้อ น้ำซุปเดือดปุดๆกลิ่นหอยลอยไปถึงบ้านตาโกเธอก็ใส่ผักลงไปแล้วปล่อยให้น้ำเดือดผักเปื่อยก็เป็นอันใช้ได้แล้ว
"กับข้าวพร้อม" พะแพงหันมาเปิดหม้อหุงข้าวแต่กลับไม่พบข้าวสักเม็ด หันไปดูถังข้าวสารปรากฏว่าข้าวสารหมด! "โอ๊ยย กูทำเพื่ออะไรวะเนี่ย!"
กว่าจะได้หุงข้าวฉันก็ต้องขับมอไซด์พ่วงข้างไปร้านค้าหน้าหมู่บ้านเพื่อซื้อข้าวสารมาใส่ถังไว้ไม่รู้ว่าแขกของป้าจะมาวันไหนไม่เห็นมีใครโทรมาไม่สิ ฉันลืมพกโทรศัพท์มาด้วยนี่ก็สิบโมงแล้วไม่รู้มาถึงหรือยัง
-------------------------------
ลูกอีหน่อแตด ฮ่าาาา
คำหยาบคายมีแค่นี้ค่ะนอกนั้นก็เล็กๆน้อยๆภาษาอีสานเป็นภาษาที่น่ารักไรท์ชอบมาก
อย่าลืมกดเข้าชั้น กดหัวใจ คอมเมนต์ให้ไรท์บ้างนะคะ