บทที่8 มักม่วน

1343 Words
บทที่8 มักม่วน อีกด้าน พะแพงนั่งแกะหอมกระเทียมเพื่อเตรียมทำเครื่องแกงสูตรของคุณยายเธอ ไม่ว่าจะงานบุญบ้านไหนชาวบ้านก็มักจะมาตามเธอไปทำเครื่องแกง วันนี้พะแพงมีอาการเหม่อลอยแต่พอมีใครพูดหรือเอ่ยชื่อหนุ่มกรุงเทพอย่างณภัทรคนแค้นใจจึงโขลกน้ำพริกอย่างรุนแรงเล่นเอาครัววัดโหนกสวยสั่นสะเทือน "อีนี่โบราณเขาว่าจะมีลูกดก" หนึ่งในชาวบ้านเอ่ยขึ้นแต่พะแพงก็ไม่สนเธอตำพริกแกงต่อไม่สนใจใคร กว่างานที่วัดจะเสร็จก็ปาไปบ่ายโมงพรุ่งนี้งานทุกอย่างต้องเสร็จทั้งเวทีหมอลำ ลานรถแห่และของทำครัวชาวบ้านที่มีหน้าที่หาปลาก็เตรียมนำปลามาต้มเพื่อช่วยกันแกะเนื้อปลามาทำเครื่องแกง "ชะนีน้อยทำไมไม่ชวนคุณณภัทรมาด้วยล่ะ" จิมมี่ถามเวลาไม่มีผู้ชายหล่อๆเธอมักจะหมดเรี่ยวแรงทำงาน "ผีอีบัวหักคอไปแล้วมั้ง!" จิมมี่มองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัยดูเพื่อนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจาแถมยังใส่อารมณ์ตำน้ำพริกอย่างเดือดดาล พะแพงรีบทำงานของตัวเองจนเสร็จเธอก็รีบกลับบ้านไปเก็บกวาดบ้านตามคำสั่งของน้าเสกแต่ใครจะไปคิดว่าณภัทรจะทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ กางเกงชั้นในสีดำที่เธอซื้อทางออนไลน์ตัวละ19บาทตัวที่เธอสวมใส่เมื่อวานแถมยังม้วนเป็นเลขแปดถูกห้อยไว้หน้าบ้านพร้อมป้ายเขียนกำกับเอาไว้ว่า "ของผีอีบัว" ชาวบ้านที่เห็นต่างยืนหัวเราะบ้างก็ถ่ายรูปแต่เจ้าของกางเกงตัวจริงยืนหน้าแดงอยู่ข้างประตู "บักปอบมึงคือซั่วคัก!!!" "อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนผีอีบัวโดนไอ้หนุ่มเมืองกรุงเล่นไปแล้วฮ่าาา" "เออว่ะกูก็ว่างั้นแหละไปบอกพวกที่วัดกันดีกว่าโว้ยย" ชาวบ้านรีบพากันเดินไปวัดพะแพงจึงรีบวิ่งไปดึงกางเกงชั้นในของเธอกลับเข้าบ้าน คนตัวโตกำลังทดลองเครื่องชงกาแฟหน้าระรื่นแถมยังมองกางเกงในมือของพะแพงด้วยสายตาเลศนัย "คุณบ้าหรือเปล่าเอากางเกงไปห้อยไว้หน้าบ้านแบบนั้นได้ยังไง!" "ทำไมล่ะ ของเธอหรือไง" "ก็.... ไม่ใช่แต่มันก็ไม่ควร!" "งั้นเหรอ โอเคๆรอบหน้าถ้าน้องบัวมาหาฉันอีกฉันจะได้บอกให้แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับ" "ใครมันจะโง่เข้าไปอีก" พะแพงพูดพึมพำอยู่คนเดียว "อะไรนะ" ณภัทรยืนหน้าเข้ามาใกล้ๆแต่พะแพงเบี่ยงหน้าหลบ เธอรีบวิ่งขึ้นบ้านหยิบตะกร้าลงมาเพื่อซักผ้าของเธอแต่ณภัทรยกตะกร้าของเขาให้เธอด้วย "อะไรของคุณ!" "ซักให้ฉันด้วยฉันให้เงินกับน้าเธอไปแล้วแต่น้าเธอไม่เคยทำเลย" "จ้างใครไม่จ้าง วางไว้นี่แหละเดี๋ยวหนูทำให้ส่วนคุณไปไกลๆเลยหนูไม่อยากเห็นหน้าคุณ" "ชิ! ก็ได้ๆ ไกลพอหรือยัง" เขาถามขณะที่ก้าวถอยหลังไปเพียงหนึ่งก้าว "ไกลๆ ไกลอีกกก!" "พอยังอะ" ถอยไปอีกก้าวเขาก็ถามคราวนี้พะแพงหยิบขวดน้ำพลาสติกขว้างใส่จนณภัทรรีบวิ่งหนีออกไปนั่งทำงานด้านนอก เมื่อถึงวันงานประจำปีช่วงเช้ามีการทำบุญหมู่บ้านแต่ก็ยังไม่มีใครพูดถึงผีอีบัวเลย ณภัทรถ่ายรูปภาพบรรยากาศที่เขาเกิดมาพึ่งจะเคยเก็บเอาไว้ ขนมจีนน้ำยาสูตรของคุณยายพะแพงถูกแจกจ่ายให้ชาวบ้านได้ทาน ณภัทรคุ้นเคยดีเพราะป้าสวยแม่นมของเขาก็ชอบทำให้ครอบครัวของเขาทานตอนอยู่กรุงเทพฯ "แซ่บบ่?" ผู้เฒ่าของหมู่บ้านเดินค้ำไม้เท้ามาหา เขาเห็นหนุ่มหน้าตาดีนั่งอยู่คนเดียวไม่รู้ว่าลูกหลานใคร "แซ่บหลายครับยาย" "ลูกเขยบ้านใครล่ะพ่อหนุ่ม" "ผมมาอาศัยที่บ้านป้าสวยกับน้าเสกครับ ผมเป็นลูกชายของเจ้านายป้าสวยพอดีผมมาเปิดผับในเมืองเลยมาพักอาศัยชั่วคราวแล้วก็มารับพะแพงไปเรียนที่กรุงเทพฯด้วยครับ" เขาตอบอย่างสุภาพผู้เฒ่าจึงรับขวัญด้วยการให้พร ณภัทรยกมือไหว้ขอบคุณจนพะแพงเดินมาพร้อมถุงน้ำยาและขนมจีน "อะคุณ" "อะไรฉันอิ่มแล้ว" "คุณจะไปในเมืองไม่ใช่หรือไงเอาน้ำยาไปฝากพวกช่างด้วย เขาทำงานให้ก็หัดมีน้ำใจบ้าง" "ฉันจ่ายค่าแรงเรื่องพวกนี้ไม่ต้องก็ได้" "คุณคนอีสานไม่ใช่คนในเมืองกรุงนะ คุณมาลงทุนลงแรงที่นี่ก็หัดทำตัวให้ชาวบ้านเขารัก คุณเข้าใจคำว่าปากต่อปากไหม ช่างที่ทำงานให้คุณก็เป็นคนในพื้นที่มันดีต่ออนาคตเชื่อหนูสิ" "อืม ขอบใจนะ" ณภัทรยอมรับถุงขนมจีนน้ำยาถุงใหญ่มาวางไว้วันนี้เขาต้องเข้าไปดูระบบภายในจึงต้องขับมอเตอร์ไซด์พ่วงข้างเข้าเมืองคนเดียว หลังจากที่ณภัทรขับรถออกไปชาวบ้านก็เตรียมตัวแยกย้ายกันช่วงบ่ายจะมีขบวนรถแห่รอบหมู่บ้านสาวๆหนุ่มๆต่างตั้งหน้าตั้งตารอ สุรา ยาดองมีเพียบไม่ต้องกลัวขาด จิมมี่ ใบปอ พะแพง สามสาวตัวตึงประจำหมู่บ้านก้าวเดินออกมาด้วยชุดเก่งของพวกเขา ใบปอใส่เสื้อเกาะอก กางเกงขาสั้นสวมใส่รองเท้าช้างดาว จิมมี่สวมใส่ชุดเกาะอกมีขนมุ้งมิ๊งกางเกงขาสั้นสวมใส่รองเท้าช้างดาวแถมยังทำท่าหวีผมสะบัดไปด้านหลังทั้งๆที่ตัวเองหัวเกรียนนักเรียนไทย ส่วนพะแพงใส่สายเดี่ยวสีแดงกางเกงขาสั้นสวมใส่รองเท้าช้างดาวโชว์จิวสะดือที่พึ่งถอยมาจากตลาดสัญจรหน้าหมู่บ้าน ทั้งสามก้าวออกมาประจันหน้ากับวงรถแห่ ด้านหลังก็มีแก๊งกะเทยหัวโปกและวัยรุ่นภูธรยืนเรียงราย วงรถแห่เองก็ไม่น้อยหน้ามือกลองควงไม้เคาะจังหวะสามที เบส คีย์บอร์ด กีตาร์ไฟฟ้าจึงเริ่มบรรเลงเพลงแรกนั่นคือเพลง อัปสราหลงฟ้า คืออัปสราหลงฟ้ากายตาพญาเผิ่น เข้าใจว่าโลกเป็นเดิ่นหย่างเซิ่นจนหลงส่าว ผลาผู้ข้าดั่งดินถืกกลิ่นดาว จนว่าลืมคราวความหลังครั้งเก่า ชาติแต่กี้หล่ะแมนเอาหยังทานวัด จังงามจนย้อยหยาดหยาด แสนอัศจรรย์ใจเจ้า หล่ะจักแมนบุญอันดั๋ยจังได้ไกล้หรือไผจ่อง เจ้าจังล่องมาให้ยืนทาบเคียงเงา คือถืกมนต์ต้องให้หลงไหลมัวเมา ผิดบ่ถ้าฮักเจ้า หรือต้องเอาไปคืนฟ้าเพิ่น Cr.หนุ่ม มีซอ สาวๆหนุ่มๆโยกย้ายยืดเส้นยืดสายเพราะเพลงต่อไปเป็นเพลงแนวอีสานมักม่วนทุกคนสนุกสนานถูกอกถูกใจ สุรายาดองวนเวียนแจกจ่ายโดยน้าเสกที่รับหน้าที่ดูแลตัวเองก็เดินเซแทรดๆแต่ก็ยังไหวอยู่ พะแพงยิ่งเมายิ่งเต้นเธอกระโดดตัวลอยเด้งบนฟ้าเด้าๆแข่งกับแก๊งดอกจอกที่ชอบมามั่วบ้านงานเหมือนทุกปี "พวกมึงฮู้จักบ่ ท่าเด้าเขย่าโลก" -------------------------- น้องมักม่วนคัก ท่าเด้าเขย่าโลกก็มา ไรท์ไม่อยากให้ดราม่าว่านิยายมันออกแนวไร้สาระ พระเอกไม่ควรมาเจอนางเองแบบนี้ ไรท์อยากบอกว่าวัฒนธรรมของคนอีสานน่ารักมากนะ ไรท์เป็นคนภาคกลางแต่ชอบดูหนังชอบฟังเพื่อนเว่าอีสานมันตลกมาก และเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงชีวิตของไรท์สมัยอายุ15 ช่วงนั้นก็มักม่วนแบบนี้แหละค่ะ อิอิ ช่วงนี้ดราม่านิยายตลาดมีเพิ่มขึ้นทุกวันขนาดไรท์เขียนมาเฟียยังรู้สึกเบื่อเลยขอเขียนนิยายเบาสมองบ้างไม่ว่ากันนะคะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD