“ย่ะ! ไปเถอะค่ะคุณหญิงผกา อิฉันจะดูแลหลานให้เอง”
คำบอกประชดประกันแกมล้อเลียนนั้นก่อให้เกิดรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเบาๆ จากมนตราและอิสรภาพขึ้นมาพร้อมกัน ขณะที่ผกายกมือซึ่งถือกระเป๋าอยู่ขึ้นไหว้ท่วมหัวแบบตัวซี้ตัวสั่น
“ขออภัยค่ะคุณหญิง อิฉันเกรงขี้กลากจะขึ้นหัวเหลือเกิน ลาละค่ะ”
บอกจบก็คว้าข้อมือสาวน้อยหมับและพาเดินขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้าน ห้องพักที่มนตราถูกพามาคือหนึ่งในห้องพักรับรองแขกที่ผกาเพิ่งจัดการปัดกวาดรอต้อนรับพยาบาลสาวคนใหม่ วอลล์เปเปอร์บุลายดอกไม้เล็กๆ สีชมพูอ่อนหวานพรืดไปทั้งผนังและเฟอร์นิเจอร์ลายลูกไม้สีขาว สไตล์วินเทจเข้าชุดกันทำให้สาวน้อยคลี่รอยยิ้มออกมานิดหนึ่งอย่างอดไม่ได้
ห้องนี้ตกแต่งอย่างน่ารักมากเสียจนเธออดคิดไม่ได้ว่าเจ้าของบ้านมีหัวใจที่อ่อนโยนอ่อนหวานเป็นอย่างยิ่ง
“พี่แพรเป็นคนออกแบบบ้านเหรอคะ”
เธอเอ่ยถามอย่างเหม่อลอย ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเตียง มองผกาจัดโน่นวางนี่อย่างไม่มีเบื่อ
“คุณพันต่างหากค่ะ” ผกาตอบด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง “เคยได้ยิน คุณพันพูดนานแล้วว่าบ้านสวยๆ จะทำให้คนอยู่สุขภาพจิตแข็งแรง แต่คุณพันเธอไม่ชอบอะไรที่หรูหรา เลยเลือกที่จะสร้างบ้านหลังเล็กๆ และตกแต่งไปตามเรื่องตามราวค่ะ”
มนตราถึงกับอึ้งในสิ่งที่ได้รับฟังนั้น หญิงสาวทอดสายตามองไปโดยรอบตัวห้องงดงามนี้อีกครั้ง เอาเถิด... อย่างน้อยก็ดูเหมือนนายแพทย์หนุ่มเจ้าของบ้านนี้มีหัวใจที่อ่อนโยน เขาคงไม่ใช้อคติที่มีจากข่าวฉาวนั้นมาถือเป็นโอกาสในการรังแกเธอ...
เกือบห้าทุ่มแล้วที่นายแพทย์หนุ่มเคลื่อนรถเมอร์เซเดสเบนซ์ M-Class สีดำสนิทราวรัตติกาลเข้ามาจอดในโรงรถชั้นล่าง เขาแทบจะไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เพราะเสียงฟ้าคำรามดังกลบ และสายฝนเย็นฉ่ำที่โปรยปรายลงมาตั้งแต่เมื่อใดเขาเองก็ไม่ทราบ ด้วยมัวแต่วุ่นกับการผ่าตัดติดพันจนดึกดื่น ร่างสูงใหญ่เดินฝ่าฝนไปปิดประตูรั้วอย่างไม่เร่งรีบ เนื่องจากตัวเปียกซ่กตั้งแต่คราวลงมาเปิดรั้วด้วยตนเองแล้ว
เมื่อไขประตูเข้ามาในบ้าน ก็พบกับความเงียบแสนเงียบและไฟสลัวสำหรับทางเดินเปิดรอไว้เท่านั้น พันธนาการวางเสื้อสูทเปียกๆ ไว้ทางหนึ่ง ขณะที่ปลดกระดุมสองเม็ดบนออกเพื่อลดทอนความอึดอัดและก้าวเดินขึ้นไปชั้นสองโดยไม่วายหันไปมองพื้นเปียกทางด้านหลัง
หากคุณผกายังไม่กลับคงได้รีบมาเช็ดถูทำความสะอาดตั้งแต่เขายังเดินไม่พ้นบันไดเชียวล่ะ
คิดแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ คุณผกาดูแลบ้านให้เขากับภรรยามาตั้งแต่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ยังไม่ทันทำบุญบ้านเสียด้วยซ้ำ ยิ่งเมื่อสี่ปีก่อน แพรธารา... ภรรยาของเขาเดินทางไปดูงานกับทางบริษัทของเธอแล้วหายสาบสูญไปในทะเลอังกฤษเกือบทั้งคณะ มีเพียงไม่กี่คนที่รอดกลับมา... ก็ได้คุณผกานี่เองที่คอยดูแลอิสรภาพให้ ยามที่เขามีงานด่วนหรือเข้าเวรดึก เรียกได้ว่าพันธนาการจำเป็นต้องสแตนด์บายตัวเองไว้ตลอดหากมีเคสด่วนเหมือนวันนี้ คุณผกาเองก็ต้องสแตนด์บายตัวเองเช่นกันเพื่อมาอยู่ดูแลอิสรภาพอย่างไม่เคยอิดออดหรือบ่นว่ากระไร
เขาไม่อยากจ้างพี่เลี้ยงเด็กแบบกินนอนอยู่ด้วย บอกตามตรงเขาไม่ใคร่จะไว้ใจใครไม่ว่าจะหน้าซื่อตาใสแค่ไหน ข่าวก็มีให้เห็นกันบ่อย
อีกทั้งนิสัยใจคอเด็กที่จะถูกใครก็ไม่รู้เสี้ยมสอนอีกเล่า คุณผกาเป็นคนเดียวที่เขาวางใจ หากแต่หล่อนก็มีครอบครัวใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านสวนของตนเองที่เพิ่งเก็บเงินซื้อได้เมื่อปีก่อน ไม่ไกลจากบ้านเขานัก จะชักชวนให้มาอยู่ด้วยก็เกรงใจ และเมื่อกำหนดการผ่าตัดลิ้นหัวใจของบุตรชายใกล้เข้ามาทุกขณะ การจ้างพยาบาลพี่เลี้ยงที่สามารถกินนอนอยู่ที่นี่ได้เพื่อดูแลความปลอดภัยของอิสรภาพ จึงจำเป็นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ครุ่นคิดถึงตรงนี้ก็ฉุกใจขึ้นมาได้ว่าวันนี้ ‘พยาบาลจอมฉาว’ ย้ายเข้ามาแล้วเป็นวันแรก พันธนาการยกนาฬิกาข้อมือกันน้ำขึ้นมอง ห้าทุ่มพอดี... ดึกเกินกว่าจะทักทายหรือทำความรู้จัก ชายหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เขาเองก็ไม่อยากรู้จักเธอนักหรอก!
แต่เมื่อกำลังจะเปิดประตูห้องนอนเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็เหลือบเห็นประตูห้องบุตรชายเปิดแง้มไว้ มีแสงไฟสลัวสาดออกมาจากภายในและได้ยินเสียงจุกจิกดังมาจากประตูห้องนั้น
พันธนาการชะงักนิดหนึ่ง ก่อนเบนสายตามองนาฬิกาข้างฝาผนัง ดึกป่านนี้แล้ว... ลูกชายตัวดีของเขายังไม่หลับไม่นอนอีกหรือไร คิ้วเข้มขมวดนิ่งอย่างครุ่นคิดเพียงชั่วอึดใจ ร่างสูงสมชายก็ก้าวอาดไปหยุดที่หน้าประตูห้องอิสรภาพทันที
“ทันใดนั้น! ยูจินก็ใช้เศษแก้วตัดผมของราพันเซลจนผมยาวสีทองคำหมดอำนาจไป แม่มดชั่วร้ายกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและสะดุดเท้าตนเองตกจากหอคอยสูง ลมหายใจของยูจินขาดห้วง และในที่สุด หัวใจของเขาก็หยุดเต้น...”
อาจเพราะแสงจากโคมไฟข้างเตียงนั้นสว่างกว่าจุดที่เขายืนแอบฟัง สาวน้อยเจ้าของใบหน้างดงามไร้ที่ติบนเตียงของอิสรภาพ จึงไม่ทันสังเกตเห็นเขา พันธนาการล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ทอดสายตามองใบหน้าขาวจัดเพราะถูกสาดด้วยแสงไฟ
มนตรา...
ให้ตายเถอะ เธอในตอนนี้แทบไม่เหมือนที่เขาเคยเห็นในทีวีเลยแม้แต่น้อย เด็กสาวผมยาวประบ่าคนนั้นในเวลาสองปีที่ผ่านมากลายเป็นสาวสะพรั่ง สวย... สวยกว่าในทีวีไม่รู้กี่ร้อยกี่พันเท่า เรือนผมสีดำสนิทกับนัยน์ตาสีนิลเข้มขับให้ผิวขาวๆ ของเธอขาวผ่อง ยิ่งรวมกับริมฝีปากแดงสดที่กำลังเอื้อนเอ่ยจำนรรจาอย่างอ่อนหวานก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเธองดงามดุจดั่งสโนว์ไวท์ ชายหนุ่มเห็นเธอสวมเสื้อคลุมทับชุดนอนที่... อืม... น่าจะเป็นกระโปรงนะ กระโปรงลูกไม้แสนสวยที่ซ่อนอยู่ในผ้าห่มผืนหนา...
พันธนาการรีบละสายตาจากผ้าห่มลายกั๊ซเบลของบุตรชายโดยพลัน เพราะหนนี้นั้นเขาดันคิดอยากสลัดมันออกไปเสียให้ได้!
ผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย... แค่สวมชุดนอนใส่เสื้อคลุมมิดชิดและถักเปียข้างเดียวใหญ่ๆ ทัดหูซ้ายไว้เหมือนเด็กสาวไร้เดียงสา กลับกระตุ้นความต้องการของเขาให้ลุกฮือจนเหมือนน้ำที่โทรมกายร้อนดั่งไฟเผา ...อันตรายชะมัด