หยางซานชิงควบม้านำหน้าเหล่าทหารกล้านับสิบมุ่งตรงยัง เนินทรายด้านหน้า
“ไท่จือ ขบวนเสด็จของต้าหมิงคุนและองค์หญิงรองของเผ่าปาเอ่อถัวหยุดพักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก”ยิ้มมุมปากร่างสูงกระตุกบังเ**ยนม้า
“ย้าาาา” ทหารกล้าล้วนกระตุกบังเ**ยนไล่ตามม้าของหยางซานชิงไปติดๆ
จื่อจื่อดึงดาบออกจากฝัก กำไว้ในท่าเตรียมพร้อม ต้าหมิงคุนยกมือขึ้นในสัญญาณเตรียมพร้อมทหารของเผ่าปาเอ่อถัวและแคว้นหานต่างร่วมแรง อารักขาต้าหมิงคุน
“ฝ่าบาท คนของไท่จือแคว้นใต้ไม่ผิด เราช้าไปเพียงหนึ่งก้าวไท่จือแคว้นใต้ต้องการชิงตัวฮองเฮา”จื่อจื่อพูดเสียงต่ำๆ
“อารักขาฮองเฮา”สั่งจื่อจื่อดังๆ
“แต่ฝ่าบาทฝ่าบาทเองก็ต้องระวัง ไม่ให้เป็นอันตราย”
“ข้าดูแลตัวเองได้ พวกเจ้าระวังฮองเฮาให้ดีอย่าให้เป็นอันตราย”
จื่อจื่อประทับดาบเสมออก เตรียมรับมือฝูงม้าที่ควบเข้าใส่นำโดยหยางซานชิง ต้าหมิงคุนคว้าแขนบางของหลันเล่อให้หลบอยู่ด้านหลังเขา เมื่อม้าของหยางซานชิงควบผ่าฝูงทหารอารักขาเข้ามา ห้อยตัวลงคว้าข้อมือของหลันเล่อดึงขึ้นไปบนหลังม้าอย่างง่ายดาย หยางซานชิงตะลึงตาค้างกับใบหน้าคุ้นเคยของหลันเล่อ
“แม่นางลี่” รอยยิ้มปรากฏที่ริมฝีปากในทันที หลันเล่อดิ้นรนแต่กลับถูกกอดรัดไว้แน่น จากอ้อมแขนแข็งแรง ม้าพุ่งทะยานออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ต้าหมิงคุนตวัดกระบี่จ้วงแทงทหารนายหนึ่งบนหลังม้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนหลังม้าควบตามม้าของหยางซานชิงไปติดๆ
ก่อนหน้านั้น
“ไท่จือเรามาช้าไป แม่นางลี่ ไม่มีลมหายใจแล้ว”หยางซานชิงกำหมัดแน่นกัดฟันจนรู้สึกเจ็บ
“ไม่ไม่ไม่ม่ายยยยยยย……นางจะต้องไม่ตาย นางจะต้องไม่ทิ้งข้า ไปข้าตั้งใจมาช่วยนางแม่นางลี่เจ้าฟื้นขึ้นมาสิ แม่นางลี่ ลี่หลันเล่อเจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้…เจ้าจะทิ้งข้าไปไม่ได้…”
น้ำตาที่ไหลรินหาใช่ความอ่อนแอแต่เป็นความอาดรู และเสียใจอย่างที่สุด
“ไท่จือหักห้ามใจเสียเถิด”
หยางซานชิงคุกเข่าลงกับพื้น ก้มหน้าปล่อยน้ำตาไหลริน เขาตั้งใจมาช่วยนาง แต่ในเมื่อเขามาแล้วทำไมนางจึงไม่รอเขา
“ต้าหมิงคุน ข้าจะไม่มีทางอภัยให้คนอย่างเจ้า”
ทุบกำปั้นลงบนพื้นดิน จนมือเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ก่อนจะอุ้มร่างไร้วิญญาณของลี่หลันเล่อไว้ในอ้อมแขน แต่
“ปล่อยร่างของคุณหนูลี่ไว้ตรงนั้นแล้วท่านไปเสียหยางซานชิงไท่จือ”
จื่อจื่อมาพร้อมกับดาบในมือ หยางซานชิงยิ้มหยัน
“นางตายแล้วพวกเจ้าก็ไม่ละเว้นนาง ยังจะเอาร่างไร้วิญญาณของนางไปทรมานหรือไร”
จื่อจื่อขยับเข้าใส่พร้อมกับหทารที่รายล้อม ทั้งๆ ที่หยางซานชิงมีเพียงสองคนกับองครักษ์เท่านั้น
“วางร่างคุณหนูลี่ลง แล้วท่านรีบไปไม่อย่างนั้นจะหาว่าข้าใจร้ายก็ไม่ถูก”
“จื่อจื่อปล่อยข้าไปเสีย ได้โปรดข้าจะพานางไปที่แค้วนใต้อย่างที่ตั้งใจแต่แรก”
ยอมลงทุนขอร้อง ทว่าจื่อจื่อกับพุ่งเข้าใส่ในทันที ตู้กู้องครักษ์ของหยางซานชิงใช้กระบี่ในมือกางกั้นคมดาบของจื่อจื่อไว้
“เจ้าไม่ได้เห็นนางมีค่าปล่อยนางให้ข้าเสีย”
“ไท่จือบัญชาให้ข้านำศพนางกลับไปก็จะต้องนำนางกลับไป”
“เพื่อสิ่งใดกัน ไท่จือของเจ้าโกรธเกลียดนางจะนำร่างนางกลับไปทำไมอีก”
“นั่นมันเรื่องของเรา”
ฟาดคมดาบเข้าใส่หยางซานชิง จนล้มลงไปกับพื้นร่างไร้วิญญาณของลี่หลันเล่อหลุดจากมือ คมดาบของจื่อจื่อจ่อที่คอยหอย องครักษ์ของหยางซานชิง ถูกคมกระบี่นับไม่ถ้วนฟาดไว้ที่ลำคอ
“นำร่างของคุณหนูลี่กลับไปที่วังหลวง” หยางซานชิงก้มหน้าปล่อยหยาดน้ำตาไหลริน ก่อนจะกัดฟันจนเป็นสันนูน
“ข้าไม่มีทางอภัยให้เจ้า ต้าหมิงคุน”
“ย้าย้าาาาา ตามให้ทัน ต้าหมิงคุน ข้าเป็นแชมป์ในการขี่ม้ากลางทะเลทราย”
หยางซานชิงพูดขึ้นดังๆ หลันเล่อหันซ้ายหันขวาก่อนจะกัดฉับเข้าที่อ้อมแขนของหยางซานชิง อย่างแรง
“โอ๊ย ตุ๊บๆๆๆ ”หยางซานชิงปล่อยอ้อมแขนเจ็บปวดที่บาดแผลที่ถูกหลันเล่อกัดฉับเข้าให้อย่างยิ่ง
ร่างบางของหลันเล่อทิ้งตัวลงจากหลังม้าที่วิ่งไปด้วยความเร็วสูง แต่ม้าก็ยังควบไปข้างหน้าไปเหลียวหลัง ร่างเล็กของหลันเล่อกลิ้งลงไปกับเนินทรายละเอียดทว่าร้อนระอุหลายตลบ สติดับวูบลงไปในทันที
ต้าหมิงคุนดึงบังเ**ยนม้าให้หยุด ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้าจื่อจื่อและทหารนับสิบควบม้าตามมาทัน หยางซานชิงพาม้าควบตะบึงไปไกลสุดลูกหูลูกตา
“หลันเล่อ หลันเล่อ”พลิกร่างเล็กขึ้นมาในอ้อมแขนพาขึ้นไปบนหลังม้า ควบกลับไปยังที่พำนักบนเนินทรายที่พอจะมีร่มเงาของต้นไม้
“ฝ่าบาท ฮองเฮา”จื่อจื่อกระโดดลงจากหลังม้าด้วยสีหน้าห่วงใย
“อาการนางน่าห่วงไม่น้อย เราไม่มีหมอมาด้วย”
“ปล่อยข้าออกไปสิ ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของนางได้”หานจงตะโกนออกมาจากมุมหนึ่งที่เขาถูกผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่
“ข้าจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร”ต้าหมิงคุนถามขึ้น
“ข้าเป็นจอมโจรอาการบาดเจ็บของพวกเราไม่จำเป็นต้องพึ่งหมอ เพียงรักษากันเองจึงบังเกิดความชำนาญ”
“จื่อจื่อแก้มัดเขา”
“ฝ่าบาทหากเขาหนีไปเล่า”จื่อจื่อยังลังเล
“ฮองเฮาบาดเจ็บ ข้าไม่อาจดูดาย จะลองเชื่อใจเขาดูสักครั้ง”
“ข้า หมายปององค์หญิงรองมาตั้งนานข้าเองก็ไม่อยากให้นางตายเช่นกัน”
จื่อจื่อถอนหายใจ
“ทหารปล่อยตัวหานจง”ในที่สุดก็ออกคำสั่ง หานจงรีบแกะเชือกที่มืออย่างเร่งรีบ ก่อนจะถลาเข้าจับชีพจรของ หลันเล่อ
“นางบาดเจ็บไม่น้อยชีพจรเต้นช้าและผิดจังหวะ ข้าจำต้องออกไปเก็บสมุนไพรที่พอจะหาได้แถวนี้”
“อย่าลูกเล่น”จื่อจื่อพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“ก็แล้วแต่พวกท่าน จะให้ข้าไปลำพังหรือให้คนคอยติดตามข้า ก็ดีจะได้ช่วยกันหาตัวยาช้าไปกว่านี้เกรงว่า อาจไม่ทันกาล”
“เจ้าขู่ข้าหรือ”จื่อจื่อถามด้วยเสียงดุดัน
“ฝ่าบาทข้าเป็นโจร ไม่ได้ชั่วช้า ปล้นแต่คนที่มีมาก คนมีน้อยข้าแจกจ่าย แค่นี้เพียงพอจะให้เชื่อใจข้าหรือยัง”
“จื่อจื่อ ส่งคนคุมตัวเขาเก็บสมุนไพรเราจะรอที่นี่จนกว่าถงหมิ่นจะนำกำลังกลับมาเพิ่ม”หานจงยิ้มก่อนจะก้าวเดินนำไปในทันที
ต้าหมิงคุน ทรุดกายลงข้างๆ หลันเล่อยกมือขึ้นลูบที่แก้มเบาๆ
“สิ้นฤิทธิ์ หลันเล่อผู้ใจกล้าไม่เปลี่ยน ช่างกล้าคิดที่จะกระโดดลงจากหลังม้าไม่กลัวตายหรือไร”ยิ้มเศร้าๆ ในเมื่อเขาอดที่จะคิดถึงลี่หลันเล่อคนนั้นเสียไม่ได้
“ปล่อยข้า ไร้ยางอาย เจ้าเป็นสตรีเช่นไรจึงถูกเนื้อต้องตัวบุรุษได้อย่างไร้ยางอายเช่นนี้”
แกะมือลี่หลันเล่ออกจากเอวหนาของเขาทั้งๆ ที่รู้สึกใจสั่นเช่นกัน
“ไท่จือท่าน บอกข้ามาก่อนท่านรู้สึกอย่างไรกับข้าบอกข้ามาแล้วข้าจะตัดใจเสีย หากไม่ชอบก็บอกมาหรือหากว่า มีใจกับข้า…ก็แค่เพียงดีกับข้าบ้าง”ช่างใจกล้าเสียจริงหญิงเช่นไรจึงกล้าเอ่ยปากถามบุรุษเรื่องความรู้สึกที่มีต่อนาง
“ข้า ไม่เคยคิดอะไรกับ คนอย่างเจ้า”
หลันเล่อ นิ่งงัน เหมือนชั่วกัปชั่วกัลป์ซบหน้าลงบนแผ่นหลังกว้างไม่ยอมปล่อยอ้อมกอด
“เช่นนั้นขอเพียงได้ซบหน้าร้องไห้…. ก็พอ”ต้าหมิงคุนรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆ ที่แผ่นหลัง
เขากลืนน้ำลายลงคอช้าๆ
“ไปเสีย เจ้าไม่ควรมาเสแสร้งในเมื่อไม่ว่าเจ้าจะเสแสร้งอย่างไรข้าก็รู้ทันสิ่งที่เจ้าทำ”
ลี่หลันเล่อปล่อยอ้อมแขนออกง่ายดาย เงยหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาขึ้นมองต้าหมิงคุน หันหลังวิ่งออกจากตรงนั้นไปในทันที