เช้าวันรุ่งขึ้นซูลี่ถูกปล่อยตัวออกจากโกดังเก็บของ นางไม่ได้กลับไปที่เรือนของตนเองแต่ตามพ่อบ้านไปที่เรือนของฉู่เยว่
อากาศวันนี้แจ่มใสมาก แสงแดดเจิดจ้าดูมีชีวิตชีวาทำให้อารมณ์ของซูลี่แจ่มใส
ฉู่เยว่นั่งรออยู่ในห้องโถง นางรู้สึกไม่ชอบใบหน้าของพี่สะใภ้ยิ่งนัก เนื่องจากใบหน้าที่งดงามเกินไปทำให้นางรู้สึกว่า...บางทีพี่สะใภ้อาจจะมีทางเลือกอื่นนอกจากพี่ชายของตนเอง
ในขณะที่น้องสาวสามีมองตนเอง ซูลี่ก็มองสำรวจอีกฝ่ายเช่นเดียวกันแม้ว่าฉู่เยว่จะไม่ได้งดงามอ่อนช้อยเหมือนเช่นกับเจ้าของร่างเดิม แต่นางมีใบหน้าที่โดดเด่นคมเข้มกว่าหญิงสาวทั่วไป ดวงตาเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ในตอนที่ซูลี่ได้อ่านนิยาย นางก็รู้สึกประทับใจในตัวละครที่เป็น น้องสาวของพระเอกยิ่งนัก
เนื่องจากตัวละครของฉู่เยว่นั้นไม่เหมือนกับผู้หญิงโบราณเลย แต่บุคลิกของนางคล้ายกับผู้หญิงยุคใหม่ที่แข็งแกร่งและพึ่งพาตนเองได้ แต่เมื่อนึกถึงจุดจบอันน่าเศร้าของน้องสาวพระเอกที่ยอมฆ่าตัวตายแต่ไม่ยอมให้ตนเองแปดเปื้อน นางก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา สตรียุคนี้เมื่อไม่มีอำนาจที่แข็งแกร่งหรือไม่มีบุรุษคอยปกป้อง พวกนางก็จะใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากยิ่งนัก
ซูลี่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับฉู่เยว่ กลับกันนางต้องการที่จะเป็นสหายกับอีกฝ่าย แต่เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของร่างเดิมกับฉู่เยว่แล้ว หนทางที่จะเป็นสหายของพวกนางคงอีกยาวไกลนัก
หลังจากให้พ่อบ้านที่นำทางออกไปฉู่เยว่ก็พูดกับพี่สะใภ้ของตนเองโดยไม่อ้อมค้อม "พี่สะใภ้ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อม...พวกเรามาทำข้อตกลงที่ได้ประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายเถอะ" ฉู่เยว่กลั้นหายใจก่อนจะเอ่ยประโยคที่ฟังดูแล้วอาจจะหยาบคายไปบ้าง "หากท่านอยากจะหย่าขาดจากพี่ชายของข้าก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้...ตราบใดที่ท่านเต็มใจทิ้งทายาทไว้ที่ตระกูลฉู่...ถึงตอนนั้นท่านแต่งงานใหม่หรือหนีไปกับใครพวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก"
คำพูดของฉู่เยว่ตรงตามหนังสือนิยายต้นฉบับ ซูลี่ไม่ได้แปลกใจนัก นางเลียนแบบท่าทางเสแสร้งของเจ้าของร่าง "น้องสาวช่างเป็นคนตรงไปตรงมาเหลือเกิน"
ฉู่เยว่ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดและท่าทางเสแสร้งของพี่สะใภ้ "ข้ายังมีเรื่องหลายอย่างที่ต้องทำ...ไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระกับท่านที่นี่"
เมื่ออีกฝ่ายไม่อยากอดทนดูท่าทางเสแสร้งของตน หญิงสาวก็รีบพูดแทรก "ข้าสัญญากับเจ้าก็ได้...แต่ว่าต่อไปเจ้าห้ามขังข้าไว้ในโกดัง...แล้วก็ห้ามยึดเงินรายเดือนของข้าด้วย” ที่ซูลี่ตอบตกลงเพราะคิดว่าอีกไม่เกินครึ่งปีอาณาจักรแห่งนี้ก็จะเกิดการจราจล มีกบฏเกิดขึ้นหลายกลุ่ม ในเวลานั้นคงจะไม่มีใครสนใจว่านางมีลูกได้หรือไม่
ฉู่เยว่ไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะตอบตกลงง่ายๆ เช่นนี้ นางขมวดคิ้ว "ตกลงตามนี้..แต่ถ้าหากว่าท่านทำร้ายพี่ชายของข้า ท่านก็จะถูกขังอยู่ในโกดังอีกเช่นเดิมจำไว้ว่าอย่าเล่นตุกติก!"
หลังจากพูดขู่ทิ้งท้าย ฉู่เยว่ก็หันหลังเดินกลับไปห้องของตนเอง
ซูลี่มองตามแผ่นหลังของผู้เป็นน้องสาวสามีนางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู หญิงสาวคิดว่าหากตนเองช่วยเหลือคนทั้งตระกูลให้รอดพ้นจากหายนะได้ เมื่อพระเอกของเรื่องกลับมาเขาก็จะไม่โกรธแค้นนางแน่นอน
ตอนนี้คนในตระกูลฉู่ไม่อยากให้นางหย่ากับคุณชายคนรองเพราะกลัวว่าเขาจะหาภรรยาใหม่ไม่ได้
แต่เมื่อพระเอกกลับมา ชีวิตพวกเขาจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ในเวลานั้นมีคนมากมายส่งสตรีมายังตระกูลฉู่เพื่อประจบประแจงพระเอก
ถึงเวลานั้นนายหญิงรองที่อารมณ์ร้ายและชอบรังแกนายท่านรองก็จะกลายเป็นคนไม่สำคัญ และโดยนิสัยของพระเอกจะต้องให้นางหย่าขาดกับน้องชายของตนเองเป็นแน่ เมื่อถึงตอนนั้นหญิงสาวก็จะออกจากตระกูลไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและอิสระอย่างที่ตนเองต้องการ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ซูลี่ก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา ยามมองเห็นดอกท้อในสวนที่บานสะพรั่ง นางก็อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือเพื่อเด็ดกิ่งมันลงมาเชยชม
แต่ในขณะนั้น บุรุษร่างที่ผอมบางคนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากประตูเล็กๆ ข้างสวน!
ชายคนนั้นวิ่งเร็วมาก ก่อนที่ซูลี่ทันได้เห็นรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน นางก็ถูกเขาชนเข้าอย่างแรง
ขณะที่นางกำลังล้มลง หญิงสาวหลับตาแน่นคิดว่าตนเองจะต้องเจ็บตัวมากเป็นแน่ แต่นางก็ต้องประหลาดใจ เมื่อร่างกายของตนเองไม่ได้รับความเจ็บใดๆ เพราะว่าผู้ชายคนนั้นนอนเป็นเบาะรับแรงกระแทกแทนนาง
ซูลี่ลืมตาขึ้นมาจ้องมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง เขาหน้าตาดีมาก คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากของเขามีสีชมพูอ่อนจาง แม้เขาว่าดูซูบผอมไปบ้างแต่ โดยรวมแล้วเครื่องหน้าของเขานับว่าหล่อเหลามากทีเดียว
นางไม่ยอมลุกขึ้นและจ้องเข้าไปในดวงตาของบุรุษผู้นั้นคนนั้น ภายใต้แพขนตาที่หนาและยาวดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาลหม่นน่าดึงดูดยิ่งนัก
นี่เป็นครั้งแรกที่ซูลี่ได้เห็นบุรุษหน้าตาดีในระยะประชิด นางอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเขาอยู่นาน
ดวงตาสีน้ำตาลหม่นคู่นั้นจ้องมองนางด้วยความสงสัยใคร่รู้ บางทีก็ดูหวาดกลัว
ก่อนที่หญิงสาวจะได้พูดอะไรออกไป บุรุษผู้นั้นก็มองนางแล้วเอ่ยเรียกด้วยความไม่แน่ใจ "...พี่สาว"
หญิงสาวจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ "พี่สาวงั้นเหรอ"
ทำไมเขาถึงเรียกนางว่าพี่สาว
นางดูเด็กกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด!
บุรุษผู้นั้นก้มหน้าลงอย่างเขินอายและพูดอย่างไม่แน่ใจอีกครั้ง "ท่านป้า"
ซูลี่อุทานด้วยความตกใจ "ท่านป้า!"
ชายคนนั้นก้มหน้าลงและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองซูลี่ "ท่านแม่"
ซูลี่ตกตะลึงตาค้าง ดูเหมือนว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นสามีที่กลายเป็นคนสติไม่ดีของนางนั่นเอง!
❤️❤️พรุ่งนี้เจอกันสองทุ่มนะคะ อย่าลืมกดใจ กดเม้นท์ กดเข้าชั้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ พลีสสสส ❤️❤️