บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ......

1509 Words
เมวิกาเสเบือนหน้าหนี ใช่เธอกลัว!! กลัวตัวเองจะเผลอใจ ก็เขาน่ะเหมือนคนอื่นเสียเมื่อไร ชายหนุ่มทำให้หัวใจเธอเต้นรัว...เขาทำให้เธอสับสน อยากหนีห่างพอๆ กับการเข้าใกล้ชิด “พอเถอะค่ะ อย่าทำให้ฉันทุเรศตัวเองมากกว่านี้เลย ต่างคนต่างอยู่น่าจะดีกว่านะคะ สักวันหนึ่ง...คุณก็ต้องจากไปขอให้มันเป็นแค่ความทรงจำดีๆ ที่มีต่อกันเถอะนะ” “อย่าคิดแทนฉันสิ...เม! ฉันอาจจะคิดต่างกับเธอก็ได้นะ” แวซ็องยังดื้อดึง แม้ที่เมวิกาพูดมาทั้งหมดมันจะคือความจริง “...” ไม่มีเสียงตอบกลับมามีแต่ความเงียบ หญิงสาวไม่อยากเถียงเพราะยิ่งเถียงก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ ต่อให้เขาพยายามเถยังไง ความจริงก็คือ...สักวันมันจะกลายเป็นแค่ความทรงจำที่จะเลือนหายไปกับกาลเวลา “ตามใจเธอนะ...ฉันก็แค่เป็นห่วง” ยิ่งเขาพูดให้ได้ยินได้ฟังมากเท่าไร? เมวิกาก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว เธอพยักหน้ารับ รีบซ่อนรอยน้ำตาไว้ ไม่อยากให้อีกฝ่ายมองเห็น เมวิกาเลี่ยงเข้าห้องพัก เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึง มีสายตาของแวซ็องมองตาม จนประตูห้องของเธอปิดงับลง เธอเอนตัวพิงบานประตูรู้สึกเรี่ยวแรงที่เคยมีหดหาย หัวใจมันอ่อนล้า...ยากที่จะเอ่ยปากบอกใคร ได้แต่ฟังเสียงชายหนุ่มเดินลากรองเท้ากลับที่พักไปอย่างอาลัยอาวรณ์ “อย่าได้คิด...เชียวนะเมเอ๋ย...ทั้งหมดมันคือภาพลวงตา เขาจะมาสนใจอะไรกับเด็กกำพร้าอย่างแก!!” เสียงพูดแผ่วๆ เตือนตัวเอง ให้รู้ว่าควรอยู่ตรงจุดไหน หากไม่อยากเสียใจก็ควรอยู่ห่างๆ เขาไว้ เธออาบน้ำล้างตัว สวมชุดนอนลายการ์ตูนมานั่งจุ่มปุกอยู่หน้าพัดลม ปล่อยให้สายลมเย็นๆ พัดเป่าให้ผมเปียกชื้นแห้งโดยไม่คิดจะหาอะไรใส่ท้อง เหนื่อยจนอยากนอนพักมากว่าการออกไปเดินท่อมๆ ด้านนอก ในขณะที่สายฝนกำลังโปรยปรายไม่หยุด “ไม่ได้กินมื้อเดียวไม่ตายหรอกน่า” มันชินเสียแล้วกับการอดอาหาร...ขอแค่ยังมีแรง ยังมีลมหายใจแค่นี้เป็นพอสำหรับเธอ เมวิกาผ่านความยากลำบากแบบนั้นมาจนชาชินในวัยเด็ก ต้องอดทนเมื่อเธออยู่รวมกับคนหมู่มากและต้องรู้จักแบ่งปันให้แก่กัน ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังเบาๆ หญิงสาวช้อนสายตามองประตูห้องพัก เธอขมวดคิ้วพลางตะโกนถาม “ใครคะ? มีธุระอะไร!!” ไม่มีเสียงคนตอบมีแต่เสียงสุนัขเห่าสวนกลับมาดังๆ “โฮ่งๆ” เมวิกายิ้ม เธอผุดลุกขึ้นยืนพร้อมกับส่งเสียงหยอกเย้า โดยที่ยังไม่ทันได้เปิดประตู “เจ้าของใหม่ของแก...ให้อาหารกินไม่อิ่มหรือไงไอ้ตูบ...แกถึงได้มาตะกายประตูห้องของฉันน่ะ” เมื่อเปิดประตูห้องพักเมวิกาแทบผงะ!! เธอรีบเดินถอยหลังหนี เมื่อเบื้องหน้ามี1คน1สุนัขยืนยิ้มแฉ่งแข่งกันอยู่หน้าห้อง หญิงกระโจนหลบหลังบานประตู พร้อมกับส่งเสียงถาม “มีอะไรไหมคุณ?” “เปล่า...แค่คิดว่าเธอไม่น่าจะหาอะไรกินเองแน่ เลยเอานี่มาฝาก” ถุงหิ้วสีขาวครีมถูกยื่นส่งให้ตรงหน้า พร้อมกับรีบคะยั้นคะยอให้เธอรับ “รับไว้เถอะน่า เพราะไอ้ดิเย่ร์มันอิ่มจนพุงกางแล้วล่ะ มันกระเดือกอะไรไม่ลง แล้วมันจะเสียของเปล่า” ‘ดิเย่ร์’ ใคร? เมวิกามองหน้าเขาสลับกับก้มมองอดีตสุนัขที่เคยใช้ชื่อว่าตูบ!!! เธอเลิกปลายคิ้วขึ้นสูง...เดี๋ยวนี้มันไฮโซแท้ๆ ...แค่มีเจ้านายใหม่ที่หล่อเหลาและสามารถเลี้ยงมันให้อิ่มหมีพีมันได้เป็นอย่างดี...มันมีชื่อหรูเสียด้วย “ขอบคุณค่ะ...ฉันเกรงใจคุณจัง...คราวหลังไม่ต้องนะคะ...เพราะมื้อเย็นฉันไม่ชอบทานอาหารหนักๆ เดี๋ยวอ้วน!!” เมวิกาคลี่ยิ้มเต็มเรียวปาก ปากเธอพูดไปอย่างนั้นแหละ...แต่ความจริงเธอดีใจและอุ่นซ่านไปทั้งตัว ไม่ค่อยมีใครห่วงใยเธอแบบนี้ โดยเฉพาะผู้ชาย เมื่อเจ้าตัวปิดกั้นตัวเองเธอพยายามไม่ใส่ใจแม้อีกฝ่ายจะเดินหน้าจีบเต็มที่ เมวิกากลัวว่าหลังความหวานจืดจางลง เขาจะงัดข้อด้อยของเธอมาบ่น เธอยอมรับแบบไม่อายเชียวล่ะเธอกลัวชีวิตคู่อับปางลงเพราะปมด้อยของตัวเอง...เธอรู้ตัวและระวังตัวจนคนที่เคยเข้ามาหายไปทีละคน ในเมื่อยังมีดอกไม้สวยๆ รอให้ชิดเชยอีกมาก...พวกเขาไม่จำเป็นต้องมาตื๊อกับผู้หญิงใจแข็งและไร้ญาติขาดมิตรอย่างเธอ “ไม่เป็นไร...กินแล้วก็นอนเถอะฉันไม่กวนเธอแล้ว” สีหน้าราบเรียบเหมือนหวังดีเสียเต็มประดา ใครจะรู้ว่าใต้หน้ากากของความดีกลับมีดวงตาปีศาจซ่อนอยู่ “ไปดิเย่ร์แกก็ควรนอนได้แล้ว” ชายหนุ่มโบกมือลาเมวิกา เขาใช้ปลายเท้าเขี่ยสีข้างสุนัข มันกระดิกหางให้หญิงสาวที่เคยใจดีกับมัน แล้วจึงวิ่งฉิวตามตูดแวซ็องไปต้อยๆ “ขอบคุณค่ะเซดริก” เสียงพึมพำดังตามหลังแวซ็องไป...เห้อ! แม้แต่ชื่อตัวเขายังโกหกอย่างนี้มีตรงไหนบ้างล่ะที่เขาจริงใจ ตื้ดๆ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถี่ๆ มือแข็งแรงล้วงเครื่องมือสื่อสารราคาถูกขึ้นมาแล้วจึงกดรับ “ท่านอยู่ตรงไหนครับ คุณเซดริกให้ผมเอาของมาให้” มุมปากได้รูปกระตุกยิ้มเขายืนรออยู่ตรงนั้น เพราะอีกไม่นานสิ่งที่ตัวเองร้องขอไปกำลังมาส่งถึงที่ ผู้ชายใส่สูท!! มาดเท่ยังกับนักธุรกิจ ชายหนุ่มส่ายศีรษะ เขาพึ่งรู้สึกอึ้งๆ ก็ตอนตัวเองไม่ได้ใส่สูทนี่แหละ ‘มันไม่ร้อนกันมั่งไงว่ะ’ “ช่วยฉันอีกนิดได้ไหม? หาโรงแรมที่ไม่ไกลจากที่นี่ให้ฉันด้วย ฉันจะไปนอนที่นั่นสลับกับที่นี่” แม้จะไม่เข้าใจความต้องการของพี่ชายเจ้านาย แต่ชายผู้นั้นก็พร้อมจะอำนวยความสะดวก “ครับ” “อืม...ลืมเอานี่ไปด้วย ฉันเอาของไปฝากไว้!! เก็บคืนให้หน่อยแค่นี้แหละ...คราวหลังมาหาฉันใส่เสื้อผ้าปกติมานะแม่มเด่นฉิบหาย!!” เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการครบ แวซ็องรีบโบกมือไล่ แล้วก็รีบเดินกลับเข้าห้องพัก เพื่อวางแผนขั้นต่อไป เขาคิดว่าอีกไม่นานเมวิกาคงใจอ่อน แค่นี้หล่อนก็อ่อนลงไปเยอะ...จากนั้นคือช่วงเวลาหวานฉ่ำ... แล้วก็จบ!!! ... วันนี้เป็นวันหยุดซึ่งนานๆ ทีจะมีสักครั้ง...เมวิกาจึงตื่นแต่เช้าตรู่ เก็บผ้าใช้แล้วของตัวเองซักตากขึ้นราว ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า ในวันว่างๆ แบบนี้เธอมักจะกลับไปที่ถิ่นเดิม สถานที่ที่สร้างเธอมาจนเป็นรูปร่าง เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา “พูว์!! เสร็จซะที...” จากนั้นไม่นานเธอก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อม กระเป๋าเป้ที่อัดแน่นไปด้วยขนมนมเนยสารพัน เท่าที่งบประมาณจะเอื้ออำนวยให้ได้ เมวิกาเดินก้มหน้าก้มตา เมื่อกำลังคิดอะไรเพลินๆ จึงไม่เห็นว่าแวซ็องวิ่งเหยาะๆ อยู่เบื้องหน้า ชายหนุ่มวิ่งตรงมาหาเธอพร้อมกับร้องทัก “เม! เธอจะไปไหน?” หญิงสาวสะดุ้ง! เธอรีบเงยหน้าขึ้นมอง “ฉันจะไปธุระค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” “ไปด้วยสิ...ขออาบน้ำก่อน...อะ.. ไม่เกิน10นาที” “เออ...” เมวิกาอยากจะห้าม แต่เขาฟังที่ไหนล่ะ เธอทำได้แค่กลอกตาและถอนหายใจ 10นาทีไม่ขาดไม่เกิน แวซ็องวิ่งออกมาจากห้องพัก เขาทำเวลาได้ไวเกินคาด เพราะเธอเกือบจะชิ่งโดยใช้ข้ออ้างเรื่องเวลา แต่ชายหนุ่มดันรู้แกวเสียอีก เขามาเร็วกว่าที่คิดไว้ จนเธอต้องจำใจพาเขาไปด้วย “เธอจะไปไหนเหรอ?” ถามช้าไปไหม เมวิกาอยากจะค้อนแต่ก็ต้องยั้งไว้ “ที่ที่ฉันโตมาค่ะ” เธอตอบแต่ไม่ได้อธิบายเพิ่มมันจึงทำให้แวซ็องสนใจ “บ้าน...กลับไปหาพ่อแม่หรือไง?” คำถามต่อมาเมวิกาเกือบจุก ดีนะว่าเธอชินกับมันเสียแล้ว เมื่อคำว่าเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่มันอยู่กับตัวเองมาตั้งแต่จำความได้ “เปล่าค่ะ...ไปถึงแล้วคุณก็รู้เองแหละ” รถโดยสารประจำทางวิ่งผ่านมาพอดี หญิงสาวจึงโบกมือเรียกแล้วเดินขึ้นไป เมื่อรถจอดสนิทมีผู้ชายตัวใหญ่ตามก้น แม้เขาจะไม่คุ้นเคยแต่เขาก็ไม่ละพยายาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD