คุณนิด

1520 Words
“งานที่คุณต้องทำคือดูแลน้องชายของผมให้ดีที่สุด เพราะน้องชายของผมเดินด้วยตัวเองยังไม่ได้” ภูผาเริ่มต้นแนะนำงานที่ต้องทำให้กับพยาบาลพิเศษคนใหม่ที่เพิ่งจะเดินทางมาถึง เหมือนกับที่เขานั้นได้บอกกับพยาบาลพิเศษคนก่อนๆที่ลาออกไป ด้วยรัตติผู้เป็นน้องชายของเขาต้องการคนดูแลอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะว่ายังไม่ยอมเดินด้วยอุปกรณ์ช่วยเดินใดๆทั้งนั้น นอกจากจะลุกขึ้นเดินโดยมีคนคอยพยุงเท่านั้น หรือไม่ก็พยายามเกาะเดินไปตามข้าวของจนล้มลงกับพื้นบ่อยครั้ง “ค่ะ” ช่อพิกุลพยักหน้ารับฟังตามมารยาท ทั้งที่เธอก็พอรู้มาบ้างแล้วว่าคนป่วยที่เธอจะต้องมาคอยดูแลมีอาการเป็นอย่างไร อีกอย่างเธอก็เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแล้วด้วย เพื่อจะมาดูแลคนป่วยที่จ่ายค่าจ้างให้เธอแพงลิบลิ่วคนนี้ “แต่ว่าน้องชายของผมค่อนข้างอารมณ์ร้าย อาจจะทำอะไรรุนแรงไปบ้าง” ภูผาเอ่ยเตือนพยาบาลพิเศษคนใหม่ที่ช่างมีรอยยิ้มที่แสนสดใส จนเขาแทบไม่อยากจะให้ไปเจอกับน้องชายของเขาเลย แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงไม่แน่ เพราะเท่าที่เขามองๆดูแล้วคุณพยาบาลคนนี้ก็มีความน่ารักเหมาะสมกับน้องของเขามากอยู่เหมือนกัน “ดิฉันเข้าใจค่ะ เรื่องนั้นดิฉันรับมือได้ค่ะ” ช่อพิกุลยิ้มตอบอย่างไม่นึกกลัวอะไร เพราะว่าเธอผ่านการฝึกงานเป็นพยาบาลแบบจริงจังมาแล้ว เธอเจอกับคนไข้มาแล้วแทบจะทุกรูปแบบภายในโรงพยาบาลรัฐที่เธอเข้าฝึกงานนั้น กับแค่คนไข้เพียงคนเดียวที่คงอาจจะมีอารมณ์ร้อนไปบ้างเพราะความเจ็บป่วยทางร่างกายแค่นี้เธอรับมือได้สบายมาก “ในช่วงระยะแรกที่คุณเริ่มงาน ผมและภรรยาจะคอยอยู่ใกล้ๆก่อนเผื่อมีอะไรรุนแรงเกิดขึ้น” ภูผาที่ถึงแม้จะจ้างพยาบาลสาวตรงหน้านี้ไปด้วยเงินมากมายเพื่อให้ทำงานยี่สิบสี่ชั่วโมงต่อวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ไว้ใจให้พยาบาลสาวคนนี้อยู่คนเดียวอยู่ดี เพราะหวั่นใจว่าอาจจะเกิดการลาออกกลางคันแบบคนอื่นๆขึ้นมาได้ “ค่ะ” ช่อพิกุลเข้าใจดีว่าเธอยังไม่มีประสบการณ์การทำงานจากที่ใดเลย นั้นก็ทำให้ผู้ว่าจ้างยังไม่ไว้ใจเธอ ก็เลยไม่แปลกที่ผู้ว่าจ้างจะจับตาดูเธอในช่วงแรกๆของการทำงาน เพราะคนป่วยที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์รับมืออยากพอสมควร เธอเคยเจอมาแล้วกว่าจะปราบกันสงบได้ก็เล่นเอาหืดขึ้นคอเหมือนกัน “งั้นเชิญทางนี้ครับ” ภูผาพอแนะนำอะไรต่ออะไรคร่าวๆเสร็จสรรพก็พาหญิงสาวไปยังบ้านพักของน้องชายที่อยู่อีกหลังหนึ่งไม่ไกลจากบ้านพักหลังใหญ่ของเขา โดยที่ภรรยาของเขาไม่ได้ตามไปด้วย เพราะเขาห้ามเธอไว้ด้วยไม่รู้ว่าคราวนี้น้องชายของเขาจะมีอาการเป็นอย่างไรบ้างเมื่อได้เจอกับพยาบาลพิเศษ “ที่นี่คือบ้านท้ายไร่ นั้นห้องพักของน้องชายผม และนี่ก็ห้องพักของคุณนิด ผมอยากให้อยู่ใกล้กันก็เลยจัดห้องเอาแบบนี้ เพื่อการทำงานจะได้สะดวก” ภูผายังคงทำหน้าที่เจ้านายและเจ้าบ้านที่ดีแนะนำทุกอย่างให้หญิงสาวได้ฟังอย่างละเอียด เพราะภายในใจของเขาก็หวังว่าหญิงสาวที่ดูจะมีความตั้งใจเต็มเปี่ยมคนนี้จะอยู่ทำงานที่นี่ได้นานๆจนกว่าน้องชายของเขาจะหายดี “ค่ะ” หญิงสาวพยายามจดจำทุกอย่างที่ภูผาพูดเป็นอย่างดี เพื่อจะได้ไม่เกิดความบกพร่องในตอนที่ต้องทำงาน เธออยากจะทำให้นายจ้างประทับใจในตัวเธอ เพราะเธอก็หวังว่าจะได้โบนัสพิเศษที่นายจ้างเขียนไว้ในสัญญาจ้างนั้นด้วย เพื่อไปสมทบทุนในการใช้หนี้ให้ได้มากที่สุด “ถ้ามีอะไรโทรตามผมกับภรรยาตามเบอร์ที่ให้ไว้ได้ตลอดเวลานะครับ” เขาเน้นย้ำอีกครั้งเพื่อให้หญิงสาวนั้นทำงานกับเขาให้ได้นานที่สุด เพราะถ้าหญิงสาวลาออกไปอีกคน เขาก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้พยาบาลคนใหม่มา ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะดูแลน้องชาย แต่ว่าเขาก็ต้องทำงานภายในไร่ การทำสองอย่างพร้อมกันทำให้เขากลัวว่าจะดูแลน้องได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร “ค่ะ” เสียงของหญิงสาวยังคงขานรับด้วยความตั้งใจที่จะทำงานนี้ให้ได้อย่างเต็มเปี่ยมไปทั้งน้ำเสียง โดยไม่หวั่นแม้แต่นิดว่าหนทางข้างหน้าจะเจอกับอะไรบ้าง เพราะเธอจะยอมอดทนเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินจำนวนมากเพื่อจะเอาไปแลกบ้านของเธอกลับคืนมา “งั้นเริ่มงานกันเลยนะครับ” ภูผาเตรียมจะเปิดประตูเข้าไปภายในห้องของน้องชายเขาที่ตอนนี้นั้นมีเสียงดังกระหึ่มของเพลงร็อกจังหวะรุนแรงดังเล็ดลอดออกมา “ค่ะ” ช่อพิกุลสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยเพื่อเรียกความมั่นใจโดยไม่ให้ใครได้เห็นเพราะเธอปกปิดมันเอาไว้ด้วยรอยยิ้มจืดๆของเธอ “ไงไอ้แสง” ภูผาเดินเข้าไปปิดเพลงที่เสียงดังจนหูแทบแตกนั้นทันทีก่อนจะหันไปทักทายน้องชายที่นอนฟังเพลงปวดหูนั้นหน้าตาเฉยอยู่บนเตียง “มาทำไมอีก” รัตติหันไปจ้องมองหญิงสาวที่คงจะเป็นพวกพยาบาลพิเศษแทนการมองไปยังผู้เป็นพี่ชายที่เข้ามาทักทายเขา พร้อมกับพูดเหมือนจะไล่ตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักอะไรกันเลยแม้แต่นิด เพราะเขายังคงยืนยันที่จะไม่มีพยาบาลพิเศษคอยดูแล “พาคุณพยาบาลคนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก” ภูผาพยายามที่จะไม่ใส่ใจไปกับคำพูดของรัตติเพราะเขารู้ดีว่าน้องชายจะไม่พูดดีกับใครหน้าไหนทั้งนั้น แม้แต่เขาที่เป็นพี่ชายก็ไม่มีข้อยกเว้น “กูไม่ต้องการ ไสหัวไปได้แล้ว” รัตติหันไปออกปากไล่หญิงสาวที่เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอให้ชัดด้วยซ้ำเสียงดังลั่นห้องเหมือนอย่างที่เคยทำมา “นี่คุณพยาบาล ชื่อคุณนิด” ภูผายังคงทำหน้าที่พี่ชายและนายจ้างที่ดีแนะนำตัวคร่าวๆให้กับช่อพิกุล หวังให้คนป่วยยอมรับฟังขึ้นมาบ้าง “กูบอกให้ไสหัวไปให้พ้น ยังหน้าด้านยืนอยู่ได้” รัตติเริ่มโวยวายเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์นักที่มีคนมาวุ่นวายกับเขาแบบนี้ เพราะเขาอยากอยู่คนเดียว จะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ก็ช่างมัน เพราะเขาก็ไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่นักหรอกด้วยมันไร้ประโยชน์ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว “คุณนิดครับนี่ไอ้แสงน้องชายของผม” ภูผาแอบถอนหายใจเล็กน้อยให้กับน้องชายขี้โวยวายของเขา แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจต่อ “สวัสดีค่ะ” ช่อพิกุลที่เห็นความร้ายของคนป่วยตั้งแต่แรกพบทำเอาเธอหวั่นใจไม่น้อยว่างานนี้จะไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็ยกมือไหว้ทักทายกลับไปอย่างเป็นมิตร เพราะการเริ่มต้นด้วยดีเธอเชื่อว่ามันจะนำสิ่งที่ดีๆต่อมาให้กับเธอ “คงเป็นพวกร้อนเงินถึงได้หน้าด้านหน้าทนไล่ก็ไม่ไป” รัตติยังคงพ่นคำพูดร้ายๆออกมาอย่างไม่สนใจว่าคนฟังจะคิดอย่างไร เขาสนเพียงความสะใจของตัวเองเท่านั้น “พอเสียทีเถอะไอ้แสง” ภูผาจำต้องเอ่ยห้ามผู้เป็นน้องชายไม่ให้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะเกรงว่าคนฟังจะทนไม่ไหว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณหิน ดิฉันก็มาเพราะเงินจริงๆ” ช่อพิกุลพูดออกไปตามความจริงบ้าง เธอก็ไม่ได้อยากจะมาไกลบ้านมากมายขนาดเป็นพันๆกิโลนี่เหมือนกัน แต่เธอมาเพราะเงินค่าจ้างที่มันสูงลิบลิ่วตามที่เขาต่อว่าเธอออกมา “หึๆ ตรงไปตรงมาดีหนิ หวังว่าจะอยู่พ้นเย็นนี้นะ” รัตติเค้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมาจากภายในลำคอ ก่อนจะเอื้อมไปเปิดเพลงให้เสียงมันดังไปทั่วทั้งห้องต่อ เป็นการไล่ให้ทุกคนออกไปจากห้องของเขา “ไอ้แสง” ภูผาจำต้องเดินออกมาจากภายในห้องพักของน้องชายพร้อมกับช่อพิกุล และเขาก็ขอโทษแทนผู้เป็นน้องชายชุดใหญ่เพราะใจก็กลัวว่าคำพูดของน้องชายนั้นจะทำให้พยาบาลพิเศษคนนี้ลาออกแบบกะทันหันอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD