บทที่-3-สู่บ้านเอกทองขาว
บ้านเอกทองขาว
“…..” ผู้หญิงสามคนต่างก็ด้อม ๆ มอง ๆ บ้านหลังใหญ่อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
ทุกคนต่างก็ไม่อยากจะเชื่อ ว่าจะดั้นด้นมาถึงที่นี่ได้ แม้ว่าจะร่ำเรียนถึงมหาวิทยาลัยแต่พวกเธอก็อยู่บ้านนอกคอกนามาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเข้ากรุงเทพฯ จึงเงอะ ๆ งะ ๆ ไปบ้าง ต้องนั่ง Taxi มาลงที่นี่ เมื่อมาถึงจึงเกิดอาการเลิ่กลั่ก ดูคล้ายโจรจะมาปล้นยังไงยังงั้น
ร้อนถึงลุงปอง รปภ. กะกลางวัน ที่จะต้องมาตรวจสอบ ว่าพวกเธอเป็นใครกันแน่
“เอ่อ หนู หนูมาใครเหรอ” อยากจะพูดคำว่าคุณ แต่ดูเหมือนมันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ งั้นเรียกหนูไปล่ะกัน รปภ.คิดในใจ
“เอ่อ คือ คือหนูมาหาอาค่ะ…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกแทรกขึ้น
“อ้าว มาหาอาเหรอ แล้วอาหนูเป็นใคร ทำงานแม่บ้านหรือว่าคนสวน หรือคนเลี้ยงน้องหมากันล่ะ” รปภ.วัยดึกถามกลับ สามสาวถึงกับสะดุ้ง นี่ถึงขนาดมีคนเลี้ยงน้องหมาต่างหากเลยเหรอ ต้องรวยพันล้านไหม ทำไมเว่อร์วังได้ขนาดนี้นี่
“เอ่อ คือ หนูมาหาอาเพลงพิชชาค่ะ” ตอบไปแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ชิ้ง !
แต่รปภ. ไม่โล่งไปด้วย
“ว่าไงนะ หนูบอกว่ามาหาใครนะ…” ขออีกรอบ พร้อมทั้งแคะหูไปด้วย
“เอ่อ คือ หนูบอกว่า มาหาอาเพลงพิชชาค่ะ หนูเป็นหลานของอาเพลงพิชชา”
“…..” เงียบเป็นครั้งที่สอง
“…..” สามสาวเองก็เงียบไปเหมือนกัน
“…เอ่อ ลุงยามคะ คือว่า หนูเป็นหลานของอาเพลงพิชชาจริง ๆ นะคะ หนูไม่ได้มาหลอกเอาเงิน หรืออะไรทั้งนั้น นี่ค่ะ เอกสารยืนยันว่าตัวหนูคือหลานที่แท้จริงของคุณอา” สุพรรณษารีบยื่นเอกสารสำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมทั้งสำเนาบัตรประชาชนของพ่อและแม่ รวมทั้งตัวเธอให้กับรปภ. เมื่อเห็นอาการนิ่งงันนั้นเข้า
“…..” รปภ. มองเอกสารในมืออย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดไม่ฝัน ว่าตลอดเวลาที่ประจำอยู่ที่นี่มาหกปี จะต้องมาเจอคนสวมรอยเป็นหลานคุณเพลงพิชชาก็ในวันนี้แหละ ทำไมน่ะเหรอ ก็คุณเพลงพิชชามีหลานอยู่แล้วน่ะสิ หลานชายเพียงคนเดียวอีกด้วย แล้วหลานผู้หญิงมาได้ยังไง ก็ในเมื่อ พุดธาราผู้เป็นพี่สาวก็ได้เสียชีวิตไปพร้อมกับทนายโอฬารผู้เป็นสามีไปแล้ว เมื่อเก้าปีที่แล้ว
โดยทิ้งลูกชายวัยเพียงสิบขวบให้คุณเพลงพิชชาเลี้ยงดู
นั่นก็คือ คุณทองธนา เอกทองขาว ซึ่งตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่บนห้อง แล้วเด็กผู้หญิงคนนี้มาตู่ว่าเป็นหลานเห็นทีว่าจะเชื่อไม่ได้
“หนู…” เงยหน้าจากเอกสารเพื่อมองหน้าสวยของคนที่แอบอ้างอย่างสมเพช
“คะ ลุงยามจะให้หนูเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ” ยิ้มสดชื่น เมื่อจะได้พบกับอาของเธอแล้ว
“จะบ้าเหรอ ใครเขาจะให้เข้าไป ฉันได้ถูกไล่ออกจากงานน่ะสิ” เสียงของรปภ. ไม่ใช่เบา ๆ ทำให้อรทัยซึ่งเป็นหัวหน้าแม่บ้านได้ยินต้องชะงัก จึงเดินมาดูว่าใคร ที่ทำให้ท่านพ่อบ้านเสียงดังโหวกเหวกแบบนี้ เดี๋ยวคุณพิชก็ตื่นพอดี
“อ้าวลุง ก็นี่ไง เอกสารของหนู บอกอยู่แล้วนี่นา ว่าพ่อของหนูอ่ะนามสกุลเอกทองขาว แล้วทำไมลุงยามถึงไม่เชื่อคะ” สุพรรณษาหน้ามุ่ย
เธอหรืออุตส่าห์ดั้นด้นมาเพียงเพื่อมาแจ้งข่าวกับผู้เป็นอา อาที่เพิ่งได้ยินว่าในชีวิตนี้ทั้งชีวิต เธอเองก็มีญาติพี่น้องฝั่งพ่อด้วย
แถมยังร่ำรวยมหาศาล ดูจากบ้านหลังโตอันกว้างใหญ่ไพศาลหลังนี้
“ใครบอกว่าฉันจะเชื่อ สมัยนี้ มันปลอมแปลงกันง่ายจะตาย ใครจะมาเชื่อลูกไม้บ้า ๆ แบบนี้ด้วย”
เหมือนจะดูถูกชอบกล
“แต่หนูคือหลานสาวของอาเพลงพิชชาจริง ๆ นะคะ” หญิงสาวไม่ยอม จึงเตะตาหัวหน้าแม่บ้านเข้าอย่างจัง อะไรบางอย่าง มันบอกกับนางว่า มันต้องไม่ปกติแน่
“ใครเชื่อก็โง่แล้ว” ลุงรปภ. ไม่ปักใจเชื่อแม้แต่น้อย
“แต่แม่บอกว่าหนูเป็นหลานของอาเพลิงพิชชา ซึ่งนามสกุลของพ่อ ก็บอกอยู่แล้วนี่คะ ว่าเอกทองขาว ทำไมลุงยามไม่พาหนูเข้าไป จะได้รู้กันไปเลย” เหนื่อยแล้วนะ ทั้งหิวทั้งร้อนจนข่มกลั้นความหงุดหงิดเอาไว้ไม่ไหว
“บ้าสิ ใครจะยอมให้เข้าไป กลับไปได้แล้ว และอย่ามาที่นี่อีก ฉันจะบอกให้นะ หลานของคุณเพลงพิชชามีแค่คนเดียว เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงแบบหนู เอ้า กลับๆ ๆ ๆ” โบกมือไล่ ไม่ยอมท่าเดียว
“ลุงยามคะ หนูไหว้ล่ะค่ะ ถ้าไม่ให้เพื่อนหนูเข้าไป ลุงยามก็ไปแจ้งเรื่องนี้กับคุณเพลงพิชชาก็ได้นะคะ” จอมขวัญเองยังทนไม่ไหว เธอสงสารเพื่อน อุตส่าห์หนีร้อนมาพึ่งเย็น ก็กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้
“ไม่ต้องมาอ้อนวอน เดี๋ยวฉันก็จะถูกไล่ออก ใครจะหาเงินส่งเสียลูกฉันกันล่ะ” ทางนี้ก็ไม่ยอมเหมือนกัน ป้าอรทัยหลังจากเมียงมองจนรู้สึกได้ว่า ใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่ง คลับคล้ายคลับคลาคนที่เป็นลูกชายบุญธรรมของท่านเหมเหลือเกิน จึงพูดขึ้น
“เดี๋ยวก่อน…” เดินเข้ามาใกล้สุพรรณษา พร้อมทั้งจับแขนจับขา เดินวนไปรอบกาย ก่อนจะหันไปหา รปภ. ประจำบ้าน เห็นถือว่าเอกสารอยู่สองสามแผ่น แม่บ้านวัยดึกจึงเอ่ยขอ
“ปอง ฉันขอเอกสารนั่นหน่อย”
“…..” แม้จะงง แต่รปภ.วัยเดียวกันก็ยื่นให้ เมื่อรับมาแล้วก็ดูสำเนาทะเบียนบ้านก่อนเป็นอันดับแรก อ่านทุกบรรทัด จนกระทั่งมาเจอชื่อผู้ให้กำเนิด ไพรัช เอกทองขาว ส่วนมารดา สุนีย์ ใจกลาง เพียงแค่นี้ หัวใจของแม่บ้านก็ชาวาบ มือสั่นระริก ๆ ระริก
“ฮะ ฮึก นะ ในที่สุด คุณรัชก็ไม่กลับมาจริง ๆ” น้ำตาทะลักอย่างรวดเร็ว จนทุกคนตกใจไปตาม ๆ กัน
“เอ่อ คุณป้า ป้าเป็นอะไรคะ ร้องไห้ทำไม” สุพรรณษาถามขึ้น
“หนะ หนู หนูใช่ไหม ที่เป็นลูกสาวของ คุณไพรัช” ละล่ำละลักถามขึ้น
“ใช่ค่ะ หนูเอง”
“โฮ คุณหนูของป้า” โผกอดเลือดเนื้อเชื้อไขของไพรัชเต็มแรง สะอึกสะอื้นจนทุกคนทำอะไรไม่ถูก
“เดี๋ยวค่ะป้า ป้าหยุดร้องไห้ก่อนนะคะ ตกลง ป้าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคะ”
หญิงสาวเองก็อยากจะรู้ ทำไมป้าคนนี้ถึงกอดเธอแล้วร้องไห้เป็นวรรคเป็นเป็นเวร
“ป้าดีใจค่ะ ดีใจจริง ๆ” พูดเสร็จก็รีบเช็ดน้ำตาจนกระทั่งเหือดแห้ง จึงหันมาหาสุพรรณษา พลางพิจารณาอย่างละเอียดลอออีกครั้ง
ใบหน้าสวยคมมีโครงหน้าเหมือนกับสุนีย์ คิ้วเข้มและดวงตาคมคู่สวยได้มาจากไพรัช โดยรวมแล้ว เหมือนคุณชายคนที่จากไปมาก มากจนใจหาย เพราะมั่นใจอย่างที่สุด ว่าคุณชายของตนกับสุนีย์คงเสียชีวิตไปแล้วแน่ ๆ ไม่อย่างนั้น คนเป็นลูกคงไม่มาที่นี่หรอก
มือที่เริ่มย่นไปตามวัย ได้ลูบแขนของหญิงสาว ก็พบว่าผิวพรรณช่างเนียนนุ่มละมุนเหลือเกิน ป้าอรทัยจึงเอ่ยปากออกมา
“ปะ เข้าไปในบ้านกับป้าก่อนนะคะ ให้คุณพิชเขามาดู จะได้รู้สักที” จับแขนของสุพรรณษานำพาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ท่ามกลางความมึนงงของ รปภ.วัยดึก
เม็ดทรายและจอมขวัญ ต่างก็รีบตามไปอย่างรวดเร็ว
ในห้องรับแขกสามสาวต่างก็ไม่กล้าที่จะนั่งโซฟา เพราะดูแล้วมีค่ามีราคาน่าจะหลักแสน หากเผลอไปทำอะไรให้มีรอย คงไม่มีปัญญาชดใช้ให้ จึงได้แต่ยืนรวมกลุ่มกันเหมือนคนที่ล่องลอยอยู่กลางทะเล ความเคว้งคว้างเกาะกุมในหัวใจของทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกัน
สุพรรณษามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความตื่นตาตื่นใจ ก็เธอไม่เคยมีบ้านใหญ่โตราวกับมหาราชวังแบบนี้นี่นา
“มึง มึงว่าป้าเขาเอาเรามาทำไรวะ” เม็ดทรายถาม เธออยากรู้มาก ว่าเรื่องของเพื่อนจะเป็นยังไงต่อไป
“กูไม่รู้ แต่เดาว่า ป้าน่าจะไปบอกคนที่เป็นอาของกู พวกมึงคิดเหมือนกูปะ” จ้องตาเพื่อนทั้งสอง
“อื้อ กูก็คิดแบบมึง” จอมขวัญ
“ว่าแต่ บ้านหลังใหญ่โตมากเลย ใหญ่จนกูกลัว” เม็ดทรายลูบแขนของตัวเอง
“กูก็กลัว ไม่เข้าใจว่าคนที่นี่เขาอยู่ได้ยังไง” จอมขวัญเองก็รู้สึกไม่ต่างกับเม็ดทราย
“ก็เขาอยู่มาตั้งแต่ต้น ทำไมจะอยู่ไม่ได้ เหมือนที่เราอยู่บ้านนั่นแหละ มีอะไรเหมือนในกรุงเทพฯไหม ก็ไม่ แต่ทำไมพวกเราอยู่กันมาได้ มันชินใช่ปะ” สุพรรณษาพูด
“อื้อ ใช่” เม็ดทรายและจอมขวัญพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ที่ห้องนอนของเพลงพิชชา หญิงสาวเพิ่งอาบน้ำเสร็จ วันนี้เข้าบริษัทสายหน่อย เพราะเมื่อคืน หลังจากที่รับรองคู่ค้าจากต่างประเทศจนถึงตี 2 กว่าจะกลับมาถึงบ้าน ก็ตี 3 กว่า ๆ แล้ว จึงนอนยาวไปหน่อย
หญิงสาวมองตัวเองในกระจกหลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นว่า เป็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม ดุจดั่งนางพญา ไม่ว่าจะคิ้ว ดวงตา หรือแม้แต่เส้นผม ก็งามหยดย้อย ผิวพรรณอมชมพูเปล่งปลั่งมีออร่า สมกับเกิดมาในตระกูลสูง
เพลงพิชชาออกมาจากห้องน้ำมือนุ่มก็เช็ดผมมาด้วย ก่อนจะเหลือบดูนาฬิกาแล้วต้องขมวดคิ้วมุ่น
เพราะเข็มนาฬิกาบอกเวลา 10.46 น. แม่เจ้า ไวเว่อร์
ยังไม่ทันจะได้แต่งตัว ห้องก็ถูกเคาะ
ก๊อก ก๊อก !!
“คุณพิชคะ ตื่นยังคะ” เสียงป้าอรทัย
“…ไรของป้าออเขานะ” ส่ายหัว มือคว้าเสื้อสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนมาสวม ตามด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อน ก้าวขาเดินมาที่ประตูจัดการเปิดกว้าง ก็เห็นว่า ป้าอรทัยผู้เป็นคนเก่าคนแก่ยืนอยู่ จึงเอ่ยถาม
“มีอะไรคะป้าออ พิชกำลังจะแต่งตัว” ถามไปก็ติดกระดุมเสื้อไป
“งั้นคุณพิชลงไปด้านล่างก่อนนะคะ เพราะตอนนี้ ลูกสาวของคุณรัชรออยู่ค่ะ”
ป้าอรทัยพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น จนคนเป็นเจ้านายชะงักกึก
“ป้าว่าอะไรนะคะ ขออีกที” หัวใจเต้นรัว ๆ นานแล้ว ที่เธอไม่ได้ข่าวคราวของคนเป็นพี่ชาย แม้จะตามหา ส่งคนไปสืบ แต่ทุกอย่างก็ว่างเปล่า ไม่มีความคืบหน้าอะไร จนเธอคิดว่า พี่ชายบุญธรรมคงจะเสียชีวิตไปแล้ว
“ลูกสาวของคุณรัชค่ะคุณพิช หน้าตาน่ารัก เหมือนคุณรัชตอนเด็กไม่มีผิดเลยค่ะ” แม่บ้านเก่าแก่พูดได้แค่นั้น เพลงพิชชาก็รีบออกจากห้อง ลงบันไดไปด้วยความรีบร้อน ภาวนาไปตลอด ว่าขอให้เป็นจริง เธอจะได้ดูแลคนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ชาย แม้จะไม่มีโอกาสได้เจอพี่แล้วก็ตาม
กึก !
“…..”