รถแล่นผ่านประตูสวน ‘กำจรนารี’ ไปช้าๆ นารีนั้นมาจากชื่อของย่าผู้จากไป ตั้งแต่เธออายุได้สิบขวบ ส่วนปู่ไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะคุณย่าเล่าให้ฟังว่า ท่านเสียตั้งแต่เธอยังไม่ได้เกิดด้วยซ้ำ
ราวสิบนาทีรถก็จอดอยู่หลังห้องไม้เก่าๆ มีกุญแจเก่าๆ คล้องไว้ตรงประตู พิมพ์ภิษาเปิดออกแล้วเข้าไปยืนอยู่ด้านใน ก่อนจะปล่อยให้น้ำตาที่อัดอั้นไว้เมื่อครู่ไหลรินออกมาได้เต็มที่
ร่างผอมบางทรุดลงนั่งกับพื้นกระเบื้อง หลังพิงประตูที่เพิ่งลงกลอนเอาไว้ สองแขนกอดเข่านั่งเจ่าจุก ปล่อยให้น้ำตาไหลรินอยู่อย่างนั้นไม่คิดจะขยับไปไหน
เพราะนี่คือที่ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจ จากการกระทำและคำพูดของพ่อในทุกครั้งที่เธอประสบมา พร้อมกับคำถามเดิมๆ ว่า
‘ถ้าไวน์ไม่ใช่ลูกของพ่อ ไวน์เป็นลูกใครคะ ทำไมพ่อไม่ส่งไวน์กลับไปหาพ่อบังเกิดเกล้าของไวน์ พ่อจะทรมานไวน์อยู่แบบนี้ทำไม’
นับล้านครั้งแล้ว ที่ถามตัวเอง พร้อมๆ กับอยากเดินหนีไปจากชีวิตพ่อ ชีวิตผู้คนในสวนนี้ ในคลองนี้ ในตลาดแห่งนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยทำได้ ไม่เคยตัดใจจากใครได้สักที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัดใจจากความไม่ไยดีของพ่อ ต่อให้โกรธหรือน้อยใจสักแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่ได้รู้ว่าอาการเจ็บป่วยของพ่อย่ำแย่ลง เธอก็จะลืมทุกสิ่งอย่างที่สุมอยู่ในใจ แล้วบอกตัวเองใหม่ว่า
‘พ่อคือผู้มีพระคุณล้นหัว ที่ทำให้เราเกิดมา เราไม่ควรจะเนรคุณพ่อ ด้วยการหนีเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว’
ไหนจะน้องๆ กับน้าดาที่เลี้ยงเธอมาควบคู่กับคุณย่า แทนแม่ผู้จากไปเมื่อเธอมีวัยเพียงสี่เดือน เหมือนกับตอนนี้ที่บอกตัวเองแบบนั้น หลังจากปลดปล่อยความอัดอั้นผ่านน้ำตากับเสียงสะอื้นไห้ออกมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
ก็ลุกขึ้น ล้างหน้าล้างตาให้สดใสขึ้น แต่งเสริมเติมแต้มสีสัน ด้วยเครื่องสำอางในกระเป๋าให้น่ามอง จะได้เป็นการเรียกลูกค้าเข้าร้านอีกทาง แล้วลงมือเก็บกวาดร้านรอน้องๆ ที่จะตามมาสมทบ
“อ้าวไวน์! มาแต่เช้าเลยนะ สีหน้าสดใสเชียว วันนี้ท่าจะขายดีนะ”
เพื่อนรุ่นพี่ขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านข้างๆ ทักทาย เมื่อเปิดประตูบานเฟี้ยมหน้าร้านออก เพื่อเก็บกวาดแล้วจัดโต๊ะไว้ตั้งขายน้ำผลไม้ปั่น อีกฝั่งตั้งเตากับตู้สำหรับขนมจีบ
ส่วนในร้านยังคงขายเหล้าไวน์นำเข้าอยู่ตามเดิม แม้จะขายไม่ดีเท่าสมัยคุณย่ายังอยู่ แต่พ่อก็หยิ่งเกินกว่าจะยอมรับความล้มเหลว ยังคงเก็บร้านเอาไว้ตามเดิม
เธอกับแม่เลี้ยงและน้องๆ จึงคิดหาสินค้าอื่นมาขายเสริม เพื่อเพิ่มรายได้เข้าร้าน น้ำปั่น ขนมจีบ ซาลาเปาก็ทำเงินได้มากกว่าไวน์กับเหล้าของพ่ออย่างไม่น่าเชื่อ แต่ไม่มีใครคิดจะอวดกับพ่อ เพราะรู้ดีว่าจะถูกด่ากลับด้วยถ้อยคำรุนแรง จนต้องเจ็บปวดใจไปอีกหลายวัน
“พี่มรก็มาแต่เช้าเหมือนกันนะจ๊ะ เมื่อวานขายดีมั้ยจ๊ะ”
หญิงสาวกวาดหน้าร้านไปปากก็ถามไป
“ก็พอไปได้นั่นล่ะ เอ่อ! นี่ไวน์รู้อะไรมั้ย”
สาวร่างอวบกวักมือเรียกให้ไปหาตรงตู้กระจก มีเส้นสารพัดจับจองเอาไว้ พอคนถูกเรียกก้าวเดินไปหาเชื่องช้า สาวอวบเลยเป็นฝ่ายเดินอ้อมมาเสียเอง
“มีอะไรเหรอจ๊ะพี่”
“น้าดาไม่ได้บอกเหรอ ว่าวันนี้นายใหญ่ของบ้านโน้นจะมาน่ะ”
มรบุ้ยปากไปทางหน้าตลาด ซึ่งเป็นที่ดินว่างเปล่า หน้ากว้างสี่สิบเมตรติดแม่น้ำนครชัยศรี พ่อค้าแม่ค้าแถบนี้ เลยใช้เป็นที่ตั้งโต๊ะไว้ให้ลูกค้านั่งกินสั่งอาหาร พร้อมกับกินลมชมวิวริมแม่น้ำไปด้วย โดยเจ้าของไม่ได้มาสนใจจะทำอะไร กระทั่งเมื่อหกเดือนก่อน มีคนมาบอกว่า จะมาสร้างเป็นโรงแรมริมน้ำ นำความเจริญมาสู่ชุมชน
นั่นไม่มีใครคิดต่อต้านอยู่แล้ว ในเมื่อที่ดินก็ว่างเปล่ามานาน แต่ปัญหามีอยู่เพียงว่า ห้องแถวตลาดนี้แทบทั้งหมด รวมทั้งร้านของมรนั้น กลายเป็นของเจ้าของที่ดินว่างเปล่าไปแล้ว
ต่างคนต่างแอบขายให้นายทุนคนนี้ แล้วไม่มีใครยอมบอกใคร และอยู่ทำมาค้าขายไปเรื่อยๆ ด้วยการต่อสัญญาเช่าทุกๆ หกเดือน ซึ่งรอบนี้เจ้าของที่ไม่ต่อให้ แต่ทุกคนก็ยังคงไม่ย้ายไปไหน
มีขจรเป็นเสาหลักคอยแข็งข้อ เพราะเขามีถึงหกห้อง อยู่ตรงกลางตลาด เรียกได้ว่าถ้าเขาไม่ขาย นายทุนก็ทำอะไรไม่ได้ จึงปลุกระดมผู้คน ให้ต่อต้านมาระยะหนึ่งแล้ว
แม้ร่างกายจะไม่แข็งแรง แต่ก็ฉลาดและคอยให้คำแนะนำผู้คนที่เข้าไปปรึกษาไม่ว่างเว้น เพราะอดีตเขาเคยเป็นกำนันของตำบลนี้ มาเสียทีก็สมัยก่อนเพราะขาดเงินซื้อเสียงเลยแพ้คู่แข่ง
“เขาจะมาทำอะไรพี่มรรู้มั้ยจ๊ะ”
พิมพ์ภิษาไม่เคยเห็นหน้านายทุนคนนี้สักครั้ง นอกจากได้ยิน ได้ฟังจากเพื่อนบ้านหรือจากเสียงบ่นปนด่าของพ่อที่มีต่อคนกลุ่มนี้อยู่เนืองๆ
“จะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่มาดูที่ทางทำโรงแรมต่อน่ะ”
“อ้าว! แล้วเขาจะเลิกสัญญาร้านค้าแถวนี้หรือเปล่าจ๊ะพี่”
“เขาไม่ต้องบอกเลิกหรอกนะไวน์ เพราะตอนนี้ไม่มีใครได้ต่อสัญญาแล้ว มันหมดไปตั้งหลายเดือนแล้ว ที่พวกเราได้ขายอยู่ ก็เพราะมีร้านของน้าจรค้ำอยู่ไง พวกนั้นเลยยังไม่ทำอะไร ว่าแต่น้าจรบอกมั้ยว่าเราควรจะทำยังไงต่อ”
“ไม่รู้เลยจ้ะพี่ เมื่อคืนไวน์ถึงดึก คุณพ่อหลับแล้ว เช้ามานี่ก็ยังไม่ตื่นจ้ะ” พิมพ์ภิษาและทุกคนในบ้าน ไม่เคยเปิดเผยถึงท่าทีของพ่อที่มีต่อเธอให้ใครฟังเลย แถมสวนก็กว้าง เพื่อนบ้านสวนติดกันก็อยู่ห่างหลายไร่ และพ่อไม่เคยแสดงท่าทีไม่ดีกับเธอต่อหน้าใครนอกจากคนในบ้าน