ตอนที่ 7 ทำไมเป็นเขา

1519 Words
ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรูที่ตกแต่งประดับประดาดอกไม้โทนสีขาวล้วนทั้งงาน ตั่งน้ำสังข์ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงกลางห้อง ที่ด้านหลังคือบันไดสวยงามทั้งสองฝั่ง ที่ใช้สำหรับการเปิดตัวเจ้าสาว มุมด้านหนึ่งมีโซฟาหรูหราเรียงกันหลายตัวโดยมีผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงนั่งกันจนครบ ที่พื้นด้านหน้าปูด้วยพรมขนสัตว์เนื้อดีสีครีม มีชายหนุ่มรูปงามในชุดไทยราชปะแตนโจงกระเบนสีโอลด์โรสเหลือบลายทองสวยงามนั่งพับเพียบที่พื้นรอเจ้าสาวของเขาอยู่ ชั่วอึดใจ เจ้าสาวคนสวยในชุดไทยสไบเฉียงสองชั้น ที่สไบด้านในเป็นสีโอลด์โรสหวาน ด้านนอกเป็นสไบฉลุสีโอลด์โรสผสมดิ้นสีทอง รับกับผ้าถุงยกดอกสีโอลด์โรสสลับเลื่อมลายสีทองสวยงาม ก็ค่อยๆ เดินกรุยกรายลงมาจากบันไดที่สวยงามนั้น หญิงสาวร่างบางสมส่วน ใบหน้าตกแต่งอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติในโทนสีน้ำตาลทอง ปัดแก้มระเรื่อ และริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูพีชสวย ผมที่เกล้าต่ำระต้นคอประดับด้วยรัดเกล้าที่กรองจากมาลัยดอกพุด และตกแต่งด้วยปิ่นทองแท้หลายชิ้น เจ้าสาวผิวขาวผ่องเหลืองอร่ามสว่างไสวไปทั้งตัวด้วยเครื่องประดับทองคำแท้ชุดใหญ่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ซึ่งงานนี้คุณญาดาทุ่มทุนสร้างเป็นอย่างมาก เพราะทั้งตัวลูกสะใภ้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทเลยทีเดียว เจ้าบ่าวรูปงามลุกขึ้นเดินไปรอรับเจ้าสาวคนสวยของเขาที่ตีนบันไดทันที ดวงตาคมกริบจ้องมองร่างงามที่กำลังเดินลงบันไดมาอย่างไม่วางตา วันนี้เจ้าสาวของเขาสวยหวานเหลือเกิน สวยจนใจแกร่งของเขาเต้นกระหน่ำรัวแรงอย่างยากที่จะห้าม เมื่อร่างงามเดินลงมาถึงชั้นที่เขายืนอยู่ เขาก็ยื่นมือใหญ่ส่งให้เธอจับ ซึ่งเธอก็ยื่นมือน้อยของเธอไปวางบนมือเขาทันที ก่อนดวงตากลมโตที่ตกแต่งมาอย่างดีจะช้อนขึ้นมองใบหน้าของเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรก ก็ต้องตกตะลึงเบิกตากว้าง เธอจำเขาได้ เขาคือปรินทร์ เพื่อนสนิทของเจ้านายเธอ ที่เคยมีโอกาสได้เจอกันครั้งหนึ่งที่บริษัทของเธอ ทำไมถึงเป็นเขาไปได้ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้มหนา ดวงตาเรียวยาวคมกริบแววตามีเสน่ห์ จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปกำลังดี ผมแสกข้างไถผมด้านข้างสั้น ด้านบนไว้ยาว เซตเปิดหน้าผากด้วยการเป่าไดร์ให้ผมมีวอลลุ่มและปาดผมไปด้านหลัง เจ้าบ่าวของเธอช่างรูปงามเหลือเกิน จนใจดวงน้อยเต้นรัวแรงจนกลัวว่าเขาจะได้ยิน มือน้อยที่วางอยู่บนมือเขาเย็นเยียบและสั่นน้อยๆ จนเขารู้สึกได้ จึงก้มลงกระซิบข้างหูเธอเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน “ไม่ต้องตื่นเต้นนะครับ” แล้วเจ้าบ่าวก็จับมือพาเจ้าสาวคนสวยเดินไปนั่งพับเพียบลงที่พื้นพรมเพื่อทำพิธีหมั้น เจ้าสาวคนสวยของเขาไม่กล้าสบตาเขาเลย เธอก้มหน้ามองต่ำแทบจะตลอดเวลา แต่ก็มีหลายครั้งที่เขาเห็นเธอแอบลอบมองเขา ที่เขารู้ไม่ใช่เพราะเขาบังเอิญหันไปสบตากับเธอเข้าพอดีหรอก แต่นั่นเป็นเพราะเขาจับจ้องมองแต่ดวงหน้างามของเธอตลอดเวลาต่างหาก พิธีการดำเนินไปจนถึงขั้นตอนการสวมแหวนหมั้น ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวจึงกระตุ้นให้เขาสวมแหวนให้เจ้าสาวคนสวยเสียที “สวมแหวนให้น้องสิลูก” มือใหญ่ยื่นไปหยิบแหวนเพชรเม็ดเดี่ยวน้ำงามที่ล้อแสงไฟระยิบระยับ มาถือไว้ แล้วยื่นอีกมือไปรับมือน้อยของเธอมาค่อยๆ บรรจงสวมแหวนลงไป เมื่อสวมเสร็จ เจ้าสาวคนสวยก็ก้มลงกราบที่ตักของเขาอย่างสวยงาม มือใหญ่ยกขึ้นมาวางบนศีรษะทุยนั้นแผ่วเบา ดวงตาคมกริบมองคนตัวบางตรงหน้าด้วยแววตาหวาน มุมปากอมยิ้มตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว แล้วเจ้าสาวคนสวยก็ทำตามที่เขาทำบ้าง คือสวมแหวนหมั้นวงใหญ่ให้กับเขาด้วยมืออันสั่นเทาของเธอ เรียกรอยยิ้มจากคนตัวโตได้อีกหน เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่งดงามสมกันราวกิ่งทองใบหยก นั่งอยู่บนตั่งน้ำสังข์ เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้รดน้ำสังข์อวยพรเขาทั้งคู่ ซึ่งก็ยังคงเป็นเหมือนเดิมคือเธอแอบลอบมองเขาบ่อยๆ โดยที่เขาก็ไม่ต่างกัน มีหลายครั้งที่ทั้งคู่จ้องมองสบตากันนิ่งค้างหลายวินาทีจนเพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสามก็คือน้องชายตัวแสบของเขา ที่คอยยืนช่วยงานอยู่ด้านข้างต้องกระแอมเรียกสติให้คนทั้งคู่หลายครั้ง “พี่ว่าไม่รอด พี่ปรินซ์ตกหลุมรักเจ้าสาวคนสวยแล้วชัวร์” ปรมัตถ์ หรือ ปัถย์ พี่ชายคนรองเอ่ยกระซิบกระซาบกับน้องๆ เมื่อสังเกตเห็นอาการของเจ้าบ่าวคนคลั่งรัก เมื่อเสร็จพิธีรดน้ำสังข์ ก็เป็นการถ่ายพรีเว็ดดิ้งในสวนสวยๆ ของโรงแรมนี้ ซึ่งทางร้านก็มาเซตฉากและอุปกรณ์เพิ่มอีกนิดหน่อยเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องสวนและสถานที่ที่สวยงามอยู่แล้ว บ่าวสาวในชุดไทยเริ่มถ่ายภาพนิ่งตามจุดต่างๆ ที่ทีมงานกำหนด คนที่ไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยทำความรู้จักกันมาก่อนจึงออกอาการตื่นเต้นประหม่าอาย โดยเฉพาะเจ้าสาวคนสวยของเขา แต่ยังดีหน่อยที่ทางทีมงานเป็นคนกำหนดท่าทางในการโพสต์ท่าหวานๆ แสนใกล้ชิดให้ ไม่อย่างนั้น คงได้ภาพหุ่นยนต์ของเจ้าสาวแน่ๆ เพราะมือไม้เธอดูเก้งก้างเหลือเกิน ตื่นเต้นจนไม่รู้จะเอาไปวางไว้ตรงไหนแล้ว “เจ้าบ่าวเจ้าสาว เอาหน้าแนบกันเลยครับ” ตากล้องตะโกนบอกบ่าวสาวที่ยืนหันหน้าเข้าหากันและโอบกอดจนร่างกายแนบชิดกันไปทุกส่วน ซึ่งคนทั้งคู่ที่แทบไม่มีสติหลงเหลืออยู่แล้ว ทำตามอย่างล่องลอย “ดีครับ เจ้าสาวเงยหน้าสบตาเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวก้มหน้าลงมาครับ ก้มอีกครับ ดีครับ” ตากล้องมืออาชีพทำงานได้สมกับค่าแรง ภาพที่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติเหมือนคนทั้งคู่นั้นรักกันปานจะกลืนกิน “เจ้าบ่าวก้มหน้าเอาริมฝีปากไปแตะปากเจ้าสาวเบาๆ ครับ ดีครับ เจ้าสาวไม่ต้องเกร็งครับ” เจ้าบ่าวผู้เชื่อฟังและทำตามคำบัญชาของตากล้องอย่างเคร่งครัด รีบก้มหน้าลงแตะปากของเขาลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบาทันที เจ้าสาวคนสวยตกใจเกร็งคอจนตัวแข็งค้างไปหมด จนเจ้าบ่าวต้องละริมฝีปากออกมากระซิบข้างใบหูขาวของเธออีกครั้ง “ยาหยี ไม่ต้องเกร็งนะครับ” จะไม่เกร็งได้อย่างไร ถึงจะเคยเห็นหน้าเขามาแล้ว แต่ก็ในฐานะอื่น ไม่ใช่ในฐานะสามี และวันนั้นเธอก็แทบไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขาเลยด้วยซ้ำ อยู่ๆวันนี้ ต้องมาเป็นสามีภรรยากัน แถมยังต้องมาทำท่าทางสวีทหวานต่อหน้าตากล้องและกองเชียร์อีก ใครไหวไปก่อนเลย ยาหยีไม่ไหวค่ะ แต่สุดท้าย ไม่ว่ายังไงก็ต้องถ่ายต่อให้จบอยู่ดี ดวงตากลมโตจึงปิดลงเพื่อเรียกสมาธิให้กับตนเอง ก่อนค่อยๆ ลืมขึ้นมา แล้วพยายามปรับลมให้ใจของตนให้เป็นปกติเพื่อลดความตื่นเต้นลง และเธอก็ทำมันออกมาได้ดี ต่อให้เขาจะหอมแก้ม ปากแนบปาก หรือกอดกระชับเธอขนาดไหน ก็โอนอ่อนผ่อนตามลดความเกร็งไปจนหมดสิ้น ในที่สุดการถ่ายภาพพรีเว็ดดิ้งทั้งชุดไทยและชุดสากลอีก 2 ชุดก็ผ่านไปด้วยดีในเวลาอันรวดเร็ว ตอนนี้ถึงขั้นตอนที่บ่าวสาวเลือกภาพเพื่อให้ทางร้านไปอัดกรอบและปริ้นภาพมาจัดแต่งในงานเลี้ยงคืนนี้ “ยาหยีชอบภาพไหนครับ” เจ้าบ่าวสุดหล่อในชุดสูทแสนภูมิฐานเอ่ยถามเจ้าสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณปรินซ์เลือกเลยค่ะ” ดวงตากลมโตหลุบลงมองพื้นเพื่อหลบสายตาคมกริบของเขา เมื่อดันเผลอช้อนสายตาขึ้นสบกันเมื่อสักครู่ “งั้นเลือกที่ตัวเองชอบคนละสองสามภาพแล้วกันครับ” ชายหนุ่มเลือกภาพที่เธอและเขาประกบปากกันหวานหยดและภาพที่ทั้งคู่กอดกันแนบชิดอย่างรักใคร่ ทำเอาเจ้าสาวแก้มแดงปลั่งด้วยความเขิน ที่ภาพใกล้ชิดเหล่านี้จะไปตั้งอยู่ในงานให้คนอื่นเห็น แต่ก็ไม่กล้าจะคัดค้านอะไรเขา จึงทำหน้าที่เลือกภาพที่ตัวเองชอบอีกสามภาพ แล้วทั้งคู่ก็ถูกพาขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมแต่งหน้าทำผมเพื่องานพิธีตอนเย็นทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD