ตอนที่ 6 แค่ทำตามความต้องการของผู้ใหญ่

1633 Words
งานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ได้รับการจัดเตรียมเป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกอย่างโดยคุณนายญาดา ที่สุดแสนจะภูมิใจ เธอและว่าที่ลูกสะใภ้ช่วยกันคิดและดำเนินการทุกอย่างจนเสร็จสิ้น ถึงแม้สิ่งที่อยากจะได้คือการที่ลูกชายของเธอ มารับเจ้าสาวไปลองชุด แจกการ์ด หรือถ่ายพรีเว็ดดิ้ง เขาจะไม่ยอมทำตามเลยก็ตาม ก็ไม่รู้จะมีลับลมคมในอะไรนักหนา สั่งห้ามไม่ให้เธอเอารูปของเขาให้เจ้าสาวดู คงอยากจะเซอร์ไพรส์กัน หนุ่มสาวสมัยนี้ ช่างเข้าใจยากจริงๆ แต่ได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว เธอก็ไม่อยากไปจุ้นจ้านเรียกร้องมาก เกิดพ่อหงุดหงิดล้มเลิกงานแต่งขึ้นมาจะซวยกันหมด ชุดของเจ้าสาวที่เธอสั่งตัด มาส่งให้ถึงบ้านของเจ้าสาวแล้วในวันนี้ แม่สามีสุดแสนจะภูมิใจที่ได้เป็นคนช่วยลูกสะใภ้เลือกชุดด้วยตัวเอง แบบของมันก็หวานซ่อนเปรี้ยว ขับความงามตามธรรมชาติของเจ้าสาวได้อย่างลงตัว ส่วนอีกเรื่องที่เธอหนักใจคือ พ่อเจ้าประคุณ ขอถ่ายรูปพรีเว็ดดิ้งหลังจากพิธีรดน้ำสังข์และจดทะเบียนสมรสเสร็จเท่านั้น และเงินของเขาก็สามารถบันดาลให้ร้านเว็ดดิ้งสตูดิโอตกปากรับคำว่าภาพทั้งหมดจะเสร็จและติดตั้งที่ในงาน ก่อนงานเลี้ยงตอนเย็นจะเริ่มขึ้น ตอนนี้ในส่วนการเตรียมงานของเจ้าสาวและแม่เจ้าบ่าว ก็เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เวลาหนึ่งเดือนที่เหลือจากนี้ ก็แค่ดูแลให้แม่ของเจ้าสาวกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหลังจากได้รับการผ่าตัดหัวใจไปเมื่อเดือนก่อน คุณญาดาจึงตระเวนพาลูกสะใภ้ไปทำสวย ทำสปา เข้าคลินิกเสริมความงามบำรุงผิวพรรณตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยคอร์สเจ้าสาวแบบฟูลออฟชันที่ต้องมาทำถึงอาทิตย์ละครั้งกว่าจะครบคอร์ส “ยาหยี หนูลาออกจากงานดีไหมลูก แม่ไม่อยากให้หนูทำงานเลย เดี๋ยวต้องเตรียมตัวมีลูกอีก จะไหวหรอลูก” คุณญาดาที่ตอนนี้แทนตัวเองว่าแม่ และบังคับให้เธอเปลี่ยนสรรพนามการเรียกใหม่แล้ว เอ่ยขอออกมาขณะที่กำลังนั่งรถพาลูกสะใภ้กลับไปส่งที่บ้าน “คือ ยาหยียังไม่ได้บอกเจ้านายเลยค่ะ ว่าจะแต่งงาน กะว่าจะเอาการ์ดงานแต่งไปให้ แต่เรื่องออกจากงานคงต้องรอให้ทางบริษัทหาเลขามาแทนก่อนนะคะ ถึงจะทิ้งออกมาได้ เดี๋ยวยาหยีแจ้งเขาไว้แล้วกันค่ะ” “ดีจ้ะลูก ถ้ายาหยีอยากทำงานจริงๆ ก็ไปช่วยพี่ปรินซ์เขาบริหารงานที่บริษัทเราเองก็ได้ลูก เรียนรู้เอาไว้ก็ดี แต่ถ้าคลอดลูกแล้วจะอยู่บ้านเลี้ยงลูกแม่ก็ว่าดี เอาที่ลูกๆ ต้องการเลยแล้วกันจ้ะ” คนที่สมใจที่สุดในเรื่องนี้ นั่งอมยิ้มตลอดทางด้วยความสุข บนชั้นสองของโซน VIP ที่เจ้าของคลับคือน้องชายแท้ๆ ของว่าที่เจ้าบ่าว ได้ต้อนรับพี่ชายคนโตที่มากับเพื่อนรักแค่สองคน ปราณต์ แบดบอยเจ้าของคลับจะจัดสาวๆ มาให้ พี่ชายเขาก็ยืนกรานปฏิเสธ อ้างว่าจะคุยธุระกับเพื่อนรัก ทั้งๆ ที่เมื่อก่อน ถ้าพี่ชายเขากับตะวันมาที่นี่ ไม่ว่าจะมีธุระคอขาดบาดตายหรือเป็นความลับทางธุรกิจอะไรก็ตามที ก็ไม่เคยขาดสาวๆ ที่จะคอยปรนนิบัติข้างกาย แต่วันนี้พอใกล้จะแต่งงานเข้าหน่อย กลับมาแปลกขึ้นทุกวัน “วันนี้ว่างหรือมึง ถึงนัดกูมาที่นี่ได้ พักหลังๆ ไม่เคยมีเวลาให้เพื่อนฝูงนะ” ตะวัน เพื่อนรักขาลุยเอ่ยทักทันทีที่หย่อนกายลงนั่งในห้อง VIP ที่วันนี้ขาดสาวๆ มาดูแล “อืม มีเรื่องจะบอก” “อะไรวะ มีลับลมคมใน” ตะวันหรี่ตามองเพื่อนรักอย่างสังเกตท่าที “เอา ไปให้ได้นะมึง” ซองกระดาษเนื้อดีสีชมพูหวาน ถูกยื่นมาตรงหน้าของชายหนุ่มนามว่าตะวัน ดวงตาคมเบิกกว้างเพราะซองสีนี้จะตีความหมายเป็นอื่นใดไม่ได้เลย นอกจากซองการ์ดงานแต่ง ของใคร ของปรินทร์ เพื่อนรักเขานะหรือ ให้แมวออกลูกเป็นหนูน่าจะง่ายกว่าที่เขาจะยอมแต่งงาน ไม่ต้องรอให้สงสัยนาน ตะวันรีบคว้าซองนั้นออกมาเปิดเพื่อหาคำตอบทันที และทันทีที่ข้อความของการ์ดสีหวานนั้นปรากฏต่อสายตา ดวงตาคมกริบก็เบิกกว้าง มือใหญ่สั่นเทา เขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง จะเป็นไปได้อย่างไรกัน หรือเขาจะเมาจนตาฝ้าฟางอ่านผิดอ่านถูกขนาดนี้ แต่ตั้งแต่เขามาถึง เครื่องดื่มสักแก้วยังไม่กระดกเข้าปาก มันยังคงวางไว้ที่โต๊ะด้านหน้าของเขาอยู่เหมือนเดิม แล้วเขาจะเมาได้อย่างไรกัน ในการ์ดใบงามมีข้อความเรียนเชิญเขาให้ไปร่วมเป็นเกียรติในงานแต่งงาน เจ้าบ่าวคือเพื่อนรักของเขา ปรินทร์ อธิพัฒน์โภคิน ก็ว่าน่าตกใจอยู่แล้วที่เสือใหญ่ของบ้านอธิพัฒน์โภคินจะยอมแต่งงาน แต่ที่น่าตกใจจนสติหลุดก็เห็นจะเป็นชื่อเจ้าสาวที่ปรากฏตรงหน้า รินรดา ภักดีกาญจน์กุล นี่มันชื่อและนามสกุลของเลขาสาว แม่ยอดยาหยีที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อตามจีบเธอมานานนี่นา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ สองคนนี้ไปรู้จักกันถึงขั้นตกลงปลงใจแต่งงานกันได้ยังไง “มึง กับ ยะ ยาหยี” มือไม้สั่นเทา ดวงตาแดงก่ำ คำพูดติดขัดที่กว่าจะหลุดออกมาจากปากของเพื่อนรักได้ทำเอาเขาใจเสีย เขารู้ดีว่าเพื่อนรักรู้สึกอย่างไรกับว่าที่เจ้าสาวของเขา แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้เหมือนกัน “อืม ตามที่มึงเห็น กูขอโทษนะที่ไม่ได้บอกมึงก่อน เพิ่งตกลงกันได้เหมือนกัน” ปรินทร์เอ่ยออกไปอย่างลุแก่โทษ เขาไม่สบายใจและอึดอัดกับเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างมันเกินการควบคุมของเขา “ยังไงวะ มึงไปรู้จักกันตอนไหน อย่าบอกนะว่าวันที่มึงไปที่บริษัทกู” “เขาเป็นลูกสาวของเพื่อนรักแม่ แม่กูอยากให้แต่ง และน้องเขาก็ตอบตกลง กูก็ขัดใจแม่ไม่ได้ ก็เลยต้องแต่ง” “มันง่ายขนาดนั้นเลยหรอวะ คนอย่างมึงเนี่ยนะ จะยอมโดนจับแต่งงาน อมพระประธานในโบสถ์มาพูดกูยังไม่เชื่อเลย” “เออ ที่กูยอมเพราะว่ากูก็ไม่คิดที่จะมีใครถึงขั้นแต่งงานอยู่แล้ว อายุก็ปาไปขนาดนี้ อีกอย่าง ยาหยีก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย” “ไม่ได้มีอะไรเสียหาย มึงพูดคำนี้ได้ยังไง นั่นของล้ำค่าหายากเลยนะโว้ย มึงนี่แม่ง ไอ้เวร” ตะวันหัวเสีย เอามือเสยผมลวกๆ หลายครั้งระบายความหงุดหงิด “เออ ก็ตามนั้น แม่กูรักยาหยีมาก แล้วกูก็แค่ทำตามความต้องการของผู้ใหญ่ ทำหน้าที่ลูกคนโต ก็ประมาณนั้น” “หึ ส้นตีน มึงแอบชอบเขาก็บอกมาเถอะ วันนั้นที่ไปบริษัทกู ไปหากูหรือหาเขา บอกมา” “เออ กูยอมรับ วันนั้นก็เพิ่งรู้ว่าแม่จะให้แต่งงาน ก็เลยไปตามดูเขาที่บ้าน แล้วก็ตามมาดูใกล้ๆ ที่บริษัทมึงเนี่ยแหละ” “แล้วเป็นไง มึงก็ชอบเขา” “ก็ ก็สวยดี ท่าทางเรียบร้อย อยู่กันไปคงไม่น่ามีปัญหา” “ส้นตีนเถอะครับ มึงนะมึง มาปาดหน้าเค้กกูหน้าด้านๆ ถ้ามึงไม่ชอบเขา มึงคืนเขามาให้กูเดี๋ยวนี้ กูเฝ้าของกูมาหลายเดือน เขายังไม่มีท่าทีกับกูเลย เขาชอบมึงหรอ ถึงยอมแต่ง” “เขาไม่รู้จักกูด้วยซ้ำ จนถึงวันนี้เขายังไม่รู้เลยว่าคนที่จะต้องแต่งงานด้วยเป็นใคร และกูขอห้ามมึงบอกเขาด้วย กูจะให้เขาเห็นกูเองในวันแต่ง” “โอ๊ยยยย พ่อณเดช หล่อฉิบหาย เออ เรื่องของมึง แต่ถ้ามึงดูแลยาหยีไม่ดีหรือทำให้เธอเสียใจนะ กูถีบมึงแน่ จะยุให้เธอทิ้งมึงด้วย จะตีท้ายครัวมึงด้วยเอ้า” ตะวันคนพาล ฟาดงวงฟาดงาอย่างหงุดหงิดเพราะไม่ได้ดั่งใจ พลางขู่สำทับเขาไปแบบนั้น เพราะคนดีๆ อย่างยาหยี ควรได้รับความรักและการดูแลที่ดีที่สุด เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งเสียใจเพราะแต่งงานกับเพลย์บอยเพื่อนรักเขาเลยให้ตายสิ “เออ อย่าหวัง ไม่มีทางมีวันนั้นแน่ เมียกู กูไม่ยกให้ใครง่ายๆ หรอก” “เออ จำคำพูดมึงไว้ แล้วสาวๆ ของมึงก็อย่าให้ไปวุ่นวายกับเธอ ไม่งั้นมึงเจอดีแน่” “กูบอกเลิกหมดแล้ว ไม่มีทั้งขาจรและที่เลี้ยงดู ตอนนี้กูคลีนมาก” “หวังว่ามึงจะทำได้อย่างที่ปากพูดนะ” พูดจบก็กระดกเหล้าเข้าปากทีเดียวหมดแก้ว เพื่อระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านในใจ ที่ทั้งเสียใจ ผิดหวัง อิจฉา ยินดี และอะไรต่างๆ ผสมปนเปไปหมด แต่อย่างน้อย ก็วางใจได้ตรงที่เจ้าบ่าวคือเพื่อนรักของเขา และเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่คนไร้หัวใจ ทั้งสวยและแสนดีอย่างเธอ กะเทาะเปลือกแข็งที่ห่อหุ้มหัวใจของเพื่อนรักเขาได้ไม่ยากหรอก และเพื่อนรักของเขาจะรักเธอคนนี้ได้ไม่ยากเลย เขามั่นใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD