“ท่านพี่เกิดอะไรขึ้น ฟางหลิน ก้าวเข้ามาด้วยความตื่นตกใจ
“พวกเจ้าโบยนางเสีย”ฟางหลินขมวดคิ้วจ้อง อ้ายฉิงที่ยืนนิ่งก้มหน้าไม่สบตาใคร
“555 ดึกดื่นเพียงนี้ เฉิงอู๋อ๋องสั่งโบยชายารองทำให้จวนอ๋องครึกครื้น”เสียงทุ้มของ ปาหวางอ๋องดังขึ้นก่อนจะเห้นตัวด้วยซ้ำไป
หวางปาหยาง ในอาภรณ์สะอาดตาเดินเอามือไพล่หลังเข้ามากลางวงพอดี เฉิงอู๋อ๋องยิ้มเหยียดที่ริมฝีปาก รู้ได้ทันทีว่าคนที่เข้ามาในจวนอ๋องและแอบอยู่ในห้องของ อ้ายฉิงคงไม่พ้นปาหยางอ๋องผู้นี้ ส่วนเรื่องที่เข้ามาทำไมเขาคงต้องสืบหาความจริงให้ได้
“ปาหยางอ๋อง ดึกดื่นป่านนี้ยังเที่ยวแวะเวียนจวนผู้อื่นก็ยิ่งไม่ทำให้จวนข้าครึกครื้นหรือไร”
“ข้าได้ยินเสียงอึกทึก จึงเข้ามา เรื่องนี้พรุ่งนี้คงเป็นเรื่องเล่าสนุกปาก สั่งโบยชายารอง คงไม่พ้นเรื่องขัดใจบนแท่นนอน”เฉิงอู๋อ๋องหน้าชา
“เรื่องภายในครอบครัว ปาหยางอ๋องกล้ามาขัดจังหวะหรือไร”
“เฉิงอู๋อ๋องลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรมีหน้าที่ตรวจสอบความผิดของคนในราชวงค์ ไม่ได้ไต่สวนแต่ยังโบยหากเรื่องนี้ถึงหูฮองเฮากับฮ่องเต้หรือไม่ก็นางทนความเจ็บปวดไม่ไหวป่วยไข้ล้มตาย เจ้าจะแก้ตัวว่าอย่างไร”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในจวนของข้า”
“ข้าเองก็ยังยืนยันว่าจะต้องมีการไต่สวนก่อนอยู่ดีดี จะสั่งให้โบยคนทั้งที่ไม่รู้ผิดถูกได้อย่างไรกัน”
“โบยนางข้าจะสั่งให้โบยใครก็ห้ามขัด”เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่ปาหยางอ๋องออกโรงปกป้องและอีกอย่างสายตาที่มองยังอ้ายฉิงแสดงถึงความห่วงใยนึกไม่พอใจว่าทำไมปาหยางอ๋องจึงไม่รังเกียจชายารองที่แสนจะอัปลักษณ์ของเขา หรือว่าคนทั้งสองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน
“ใครห้ามแตะต้องนาง ข้าจะพานางไปเดี๋ยวนี้”
“นางเป็นชายารองของข้า ข้าจะฆ่านางเสียก็ไม่ผิด”ยิ้มหยันปาหวางอ๋องคว้ามืออ้ายฉิงมากำไว้
“นางจะไปไหนไม่ได้ นางเป็นชายารองของข้า”
ปาหยางอ๋อง ดึงแผ่นป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาจากอกเสื้อ
“ป้ายอาญาสิทธิ์ของฝ่าบาทเห็นป้ายนี้เท่ากับฝ่าบาทมาด้วยองค์เอง เฉิงอู๋อ๋องยังไม่รีบคุกเข่าอีก” เฉิงอู๋อ๋องยิ้มมุมปากทรุดกายลงคุกเข่าตรงหน้า
“ข้าให้เจ้าตัดสินใจ อยากจะอยู่หรือยากจะไปแต่คาดว่าคืนนี้เฉิงอู๋อ๋องคงไม่กล้าขัดบัญชาไม่กล้าสั่งลงทัณฑ์เจ้าแน่"หันไปหาเจิ้งอ้ายฉิง
“ข้ายินดีอยู่ที่นี่และไม่เคยเกรงว่าจะถูกลงทัณฑ์ เจิ้งอ้ายฉิงแค่เพียงถูกโบยไม่ถึงกับตายจริงอย่างท่านอ๋องพูด ข้าเป็นชายาของเฉิงอู๋อ๋องจะฆ่าข้าเขาก็ล้วนไม่ผิด ไม่ว่าอย่างไรจะตายหรืออยู่ก็ เป็นชายรองของเฉิงอู๋อ๋อง” ฟางหลินยิ้มมุมปาก
“ข้า ไม่อาจยื่นมือเข้าไปยุ่งหากเจ้ายินดีให้เขาลงทัณฑ์”ปาหวางอ๋องพุดด้วยน้ำเสยงเรียบเฉย
“หากเฉิงอู๋อ๋องคิดว่าข้าผิดจริงก็เชิญลงทัณฑ์ได้ เจิ้งอ้ายฉิงยอมรับโทษ”
“ข้าไม่ถามเรื่องความผิดของเจ้า แต่เฉิงอู๋อ๋องท่านเองน่าจะรู้แก่ใจว่านางผิดหรือเป็นเพราะอะไร”
เฉิงอู๋อ๋องรู้สึกขุ่นมัวด้วยในใจรู้ดีว่าตัวเอง ทำไมรู้สึกหึงหวงหญิงอัปลักษณ์คนนี้หรือเพียงเพราะว่านางเป็นสมบัติของเขา เขาคิดว่านางเป็นสมบัติของเขา ที่ไม่มีใครต้องการ จะต้องเป็นเขาของคนเดียว แต่เมื่อมีใครบางคนอยู่ในห้องของนางเขาจึงโมโห หญิงอัปลักษณ์ทำไมต้องรู้สึกหวงแหน ต้องรู้สึกอยากแย่งชิง
“ข้าสัญญาไม่ลงทัณฑ์เจ้า แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่าป้ายอาญาสิทธิ์..หรือเป็นเพราะปาหยางอ๋องที่มาปกป้องเจ้าไว้ แต่ด้วยเจ้าเป็นชายารองของข้า” ฟางหลินหน้าตึงแต่เฉิงอู๋อ๋องกับคิดเข้าข้างตัวเอง ไม่ฉุกใจในคำพูดของตัวเองคิดว่าที่พูดไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ ปาหยางอ๋องมาวุ่นวายกับเจิ้งอ้ายฉิง อีกต่อไป