10
‘เล่าไรดีล่ะ มนไม่เคย แต่อยากลอง” เรื่องราวที่เคยผ่านตาจากการอ่านการทำงานแวบเข้ามาในหัว ‘มนแค่รู้สึกว่าตัวเองขาดในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยคิดว่ามันน่าสนใจมั้ง ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยสักครั้งก็คงดี พี่ล่ะนอกจากระเบียงแล้วเคยทำอะไรสุ่มเสี่ยงที่ไหนอีก’
‘ไม่นะ มีแค่เปิดพูลวิลล่า แก้ผ้าอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน อย่างที่บอกพี่ชอบรีสอร์ตสวยๆ มนล่ะแฟนเคยทำอะไรให้บ้าง แล้วเวลาที่เสร็จรู้สึกยังไง’
มนสิชา... ชาหน้าไปหมดแล้ว ตาบ้านี่กะจะให้เธอบรรยายให้หมดเลยรึไงว่าทำกับแฟนท่าไหนยังไง
‘ไม่เคยอะ’
‘ไม่เคยอะไร แฟนไม่เคยทำ หรือไม่เคยเสร็จ ถามจริง แฟนมนนี่คนหรือหุ่นยนต์แค่เสียบๆ ให้เสร็จๆ แค่นั้นหรือไง’
ตายสนิท!!!
มนสิชาไปต่อไม่เป็นแล้ว เลยตอบส่งๆ ไป ‘อืม...’
กฤษฎิ์นิ่วหน้าบ้าง หมายความว่าไง คำสั้นๆ ที่คนชอบใช้เวลาคิดไม่ออก เวลาอยากจบบทสนทนา หรือตอบแบบขอไปทีแบบนี้มันยากจะเดาความ
‘เดาว่ามนคงไม่เคยทั้งสองอย่างนะ นี่รึเปล่าเหตุผลที่มาเล่น’
‘อยากรู้ไปทำไมเล่า ทำงานอะไรเนี่ย ทะเบียนราษฎร์เหรอคะ ถามซะละเอียดเชียว’ เธอแขวะแก้เขิน
‘เปล่าครับ ทำงานอยู่ร้านขายส่ง พวกส่งน้ำส่งเหล้าน่ะ ที่ถามเพราะเราจะได้รู้จักกันมากขึ้นไง’
‘นึกว่าจะถามว่า เมื่อไหร่มนจะนัด’
‘มนบอกแล้วนี่ครับว่า ขอคุยก่อนไม่พร้อมนัด ไว้มนพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกมาได้ ระหว่างนี้เราก็ทำความรู้จักกันไปก่อน อย่างน้อยๆ วันนี้พี่ก็รู้ว่ามนมาเล่นเพราะไม่เคยเสร็จ 555’
‘พี่กฤษฎิ์!’ มนสิชาส่งสติกเกอร์หมีไฟลุกบอกว่าโกรธที่ถูกล้อไปให้ เขาส่งตัวทำหน้าตาอ้อนๆ กลับมา
‘เอาใหม่นะ พี่จะถามแบบนี้ละกัน มนชอบประมาณไหน เร่าร้อน รุนแรง หรือยังไงก็ได้’
‘แค่อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ แล้วอย่างในรถ ในสระน้ำอะไรแบบนี้พี่เคยมั้ย’
‘ไม่เคยแต่อยากลองอยู่ ทำไมครับ มนสนใจอยากลองเหรอ อะไรอีกที่อยากลองไหนลองบอกมาสิ’
‘เยอะอยู่’
วันนั้นทั้งวัน การพูดคุยยังมีส่งถึงกันเป็นระยะแม้ว่ามันจะเป็นการพูดเรื่องที่ต่ำกว่าสะดือ มนสิชาตอบเพื่อนใหม่ตลอด เขินบ้าง หมั่นไส้บ้าง หากมันก็เป็นการเปิดเปลือยหัวใจอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน กระทั่งค่ำ ชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนใหม่ก็ยังส่งข้อความมาถามว่า กินอะไร มันทำให้มนสิชาอดนึกถึงธันย์ภพไม่ได้ เพราะเขาผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีกลับหายจ้อย วันทั้งวันไม่มีมาสักข้อความเดียว
จากจุดเริ่มเล็กๆ กิจวัตรของมนสิชาก็เพิ่มมาอีกเรื่อง นั่นคือ สายๆ ประมาณเก้าโมงเช้า เพื่อนใหม่ก็จะส่งข้อความมาทักทายถามไถ่ ตื่นหรือยัง จากที่คุยกันหลายวัน เขารู้ว่าเธอทำงานดึก ที่รู้ก็เพราะทุกวันเขาจะทักเธอเข้ามา จวบจนลากันไปนอนนั่นเอง ส่วนเธอก็รู้เพิ่มว่า ผู้ชายชื่อกฤษฎิ์คนนี้ ทำงานอยู่ร้านขายส่ง คอยเปิดบิลเพื่อจัดของส่งให้ลูกค้า นัยว่า ร้านดังกล่าวเป็นร้านใหญ่พอควร มีขายพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งของนอกของไทย มีเบียร์ยี่ห้อดัง และน้ำชา น้ำผลไม้กระป๋อง กระทั่งน้ำเปล่า เขาทำงานแปดโมงเช้า เลิกสองทุ่มถึงสองทุ่มครึ่ง
ในทุกๆ วัน กฤษฎิ์จะส่งรูปมาให้ดูเวลาที่เขาพัก รูปที่ส่งจะเป็นอาหารที่เขากิน ซึ่งแทบทุกวันคือก๋วยเตี๋ยวกับเกาเหลา เขาบอกว่าชอบมาก ช่วงพักแต่ละวันไม่ตรงกันสักวัน บางวันห้าโมงเช้า บางวันเที่ยง บางวันเกือบบ่ายสองโมง มนสิชาเคยแซวเขาไปว่า
‘พนักงานอะไร พักไม่เป็นเวล่ำเวลา’
‘ก็อยู่ที่งาน บางวันงานเยอะ ต้องจัดของส่งเยอะเลยพักไม่ตรงกันสักวัน พี่ต้องคอยเช็กของที่ขึ้นรถทุกคันนะว่าตรงตามออร์เดอร์ไหม’
‘พักแต่ละครั้ง ไม่เห็นจะครบชั่วโมงสักที แบบนี้เรียกโรงงานนรกได้เลยนะ มนเห็นพี่กินข้าวแป๊บๆ ไม่ถึงสิบนาที เข้างานอีกแล้ว’
ชายหนุ่มจะคอยส่งข้อความมาพูดคุยด้วยเสมอ บางครั้งคุยได้ยาวๆ บางช่วงก็คุยบ้างหายบ้าง ซึ่งเขาบอกมาว่า จะยุ่งวันจันทร์ วันศุกร์และเสาร์ เรื่องที่คุยส่วนใหญ่เป็นเรื่องใต้สะดือและเรื่องจิปาถะทั่วไป มีอยู่อีกอย่างที่กฤษฎิ์จะบอกเธอเสมอ ตอนนั้นเขาทำอะไรอยู่ จะพัก จะเลิกงาน ช่วงเลิกงานก็บอกว่า กำลังจะขับรถนะ ไปหาอะไรกินก่อนกลับห้องพัก มนสิชาไม่รู้หรอกว่า ทำไมเขาต้องบอก หรือเพื่อให้เกิดความสนิทสนมกันเร็วขึ้น มันเหมือนเขากำลังจีบเธอแต่ไม่ใช่ หรือเขาทำแบบนี้กับผู้หญิงที่คุยด้วยทุกคนเธอก็สุดจะรู้ สิ่งที่เขาทำมันสั่นประสาทส่วนอ่อนไหวของเธอได้ง่ายดายนัก เมื่อนึกเปรียบไปถึงอีกคนที่ไม่เคยจะบอกเลยว่า เขาทำอะไรอยู่ ที่ไหน ยังไง…
‘ทำอะไรอยู่’
ห้าทุ่ม เพื่อนใหม่ส่งข้อความมาหา มนสิชากำลังนั่งร่างคำแปลที่ถอดออกมา แต่ยังไม่อยากบอกว่าตนเองทำงานอะไร จึงตอบไปอีกอย่าง
‘ดูหนังค่ะ พี่ถึงห้องพักแล้วเหรอ’
‘ครับ พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ว่าแต่มนน่ะ ดูหนังเอ็กซ์เหรอ’
ตาคนนี้! นี่เห็นเธอหมกมุ่นเรื่องเพศขนาดนั้นเชียว ไม่ได้ดู แต่กำลังอ่านนิยายโรมานซ์นี่ ถือว่าหมกมุ่นไหมนะ