1
1
มือเรียวบางเคลื่อนต่ำ ผ่านหน้าท้องอุดมด้วยลอนซิกซ์แพ็กน่าหลงใหล เจ้าความร้ายกาจตัวดีที่อยู่ต่ำลงไป ดีดดิ้นผงกหัวบอกการรับรู้เริงร่า คล้ายว่ามันกำลังรั้งรอการบำบัดความทรมานให้บรรเทาเบาบางจากมือนั้น
สุ้มเสียงห้าวแหบดังคลอในลำคอหนา เสียงกระซิบต่ำแตกคล้ายระฆังเร่งเร้าให้ผู้พิพากษาสาวหยุดทรมานเขาเสียที
เสียงหวานหัวเราะคิกคัก ยังวนมือเย้าหยอกล้อเล่นกับต้นขาแกร่งกำยำต่อไปไม่หยุดอีกหลายนาที เพิ่มเร้าอารมณ์รุ่มร้อนให้คุคลั่งในร่างแกร่ง เสมือนสุมฟืนใส่กองไฟเล็กๆ ให้มันลุกโชติ ร่างกายที่อุดมไปด้วยเลือดเนื้อแสนสวยงามไร้ไขมันส่วนเกินผ่าวร้อน คลับคล้ายอุณหภูมิในห้องพุ่งสูง ความกดอากาศลดต่ำฉับพลันจากการกระทำแสนร้ายกาจไร้ปรานีของสาวงาม การเคลื่อนไหวของเธอละมุนละไมทว่าแสนเชื่องช้า ช้าที่สุดในความรู้สึกของคนรอที่เฝ้าแต่ฮึดฮัดขัดใจในลำคอ ดวงหน้าสวยคมบาดตานั้นกลับเต็มไปด้วยความระริกรื่น แววตาหยาดเยิ้มยั่วเย้าขี้เล่นช้อนสบตาคมอย่างไม่หวั่นเกรงขณะลงทัณฑ์จำเลยใต้ฝ่ามือน้อย กระทั่งเสียงห้าวสะดุด ลมหายใจติดขัดรุนแรง
นั่นเอง! เธอถึงส่งปลายนิ้วเข้าแตะต้องความร้อนผ่าวที่ตระหง่านตั้ง อย่างรอคอย...
ปัง! ผัวะ!
“โอ๊ย!”
มนสิชาสะดุ้งเฮือก อารมณ์บรรเจิดลื่นไหลปลิวหายไปกับขวัญของเธอเรียบร้อย
เฮ้อ...
ร่างอวบอิ่มแบบที่เจ้าตัวส่องกระจกมองตัวเองทีไรก็คิดว่าอ้วนเกินไป จำใจลุกจากเก้าอี้หน้าคอมฯ ที่นั่งจ้องมาครึ่งค่อนวัน เพื่อไปหาต้นเหตุ คนที่พังอารมณ์สุนทรีย์ของเธอหมดสิ้น
“พี่ธันย์ เมามาอีกแล้ว”
เสียงหวานทักเบาๆ น้ำเสียงอ่อนใจเต็มที ธันย์ภพที่ก้มตัวคลำมือนวดเท้าตัวเองป้อยๆ หลังจากเดินเซ เท้าไปเตะขาโซฟาซึ่งเป็นเหล็กเข้าอย่างจัง ใบหน้าแดงก่ำจากการดื่มเหล้ามาพอควรเงยขึ้นยิ้มเฝื่อน
“อ้อ มน... ทำงานอยู่เหรอ พี่นึกว่าเรานอนแล้ว”
มนสิชาสั่นหน้าเบาๆ ในเชิงระอาใจกับพฤติกรรมของธันย์ภพ แต่ร่างอิ่มก็เดินเข้ามาประคองคนตัวสูงใหญ่เพื่อพาขึ้นบันไดไปห้องนอนชั้นสอง
คอนโดห้องนี้เป็นห้องสูทที่มีความกว้างขวางสมราคาหลายล้าน มีห้องนอนสองห้อง ห้องใหญ่นั้นกั้นพื้นที่ทำไว้อีกชั้น ต้องเดินขึ้นบันไดไป มนสิชาไม่ค่อยชอบที่พักเท่าไหร่ แต่เพราะมันตั้งอยู่กลางเมือง สะดวกในการเดินทางไปทำงาน ธันย์ภพจึงเลือกซื้อคอนโดทำเลนี้
กลิ่นเหล้า เคล้ากลิ่นน้ำหอม แบบที่เธอรู้ว่า มันเป็นน้ำหอมของผู้หญิงมากกว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมของเขา
“พี่ธันย์เมาทุกวัน ดื่มเยอะแบบนี้ ไม่ดีกับสุขภาพนะคะ”
ธันย์ภพหัวเราะเบาๆ กลิ่นเหล้าที่กรุ่นกำจายจากลมหายใจและปากเข้มทำหญิงสาวเบ้หน้า ย่นจมูก เขาเห็น แต่ในอารมณ์ที่ปะปนฤทธิ์เมรัยจึงไม่ได้สนใจ
“วันเกิดน้องที่ออฟฟิศน่ะ”
“เกิดกันครบทุกคนหรือยังคะปีนี้”
หญิงสาวถามประชด เปิดประตูห้องอย่างทุลักทุเล เมื่อคนเมาเทน้ำหนักมาที่เธอเกินพอดี เกินจำเป็น...
“หึหึ เกือบแล้ว”
“ค่ะ ตัวพี่ธันย์ ไม่รักตัวเองก็ตามใจพี่แล้วกัน”
มนสิชาพาคนตัวใหญ่มาส่งที่เตียงสำเร็จ ไม่คิดจะดูแลอะไรไปมากกว่านี้ เมื่อปล่อยร่างหนาลงนอนเค้เก้บนที่นอนแล้ว เธอหมุนตัวจะออกจากห้อง
“ถ้าอ้วกเลอะบ้าน ทำความสะอาดเองนะคะ”
ทว่า... คนเมากลับเด้งตัวลุกมาคว้าเอวบางดึงเข้าหาตัวเขา แรงรวบรั้งดึงกลับรวดเร็ว เป็นผลให้กายอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือและเต็มกอดถลาลงไปบนเตียงด้วย
“พี่ธันย์ ทำอะไร!”
ธันย์ภพพลิกร่างนุ่มลงข้างล่าง กักเธอเอาไว้ด้วยกายใหญ่หนาของตัวเอง ตาคมเรื่อแดง อ่อนเยิ้ม กวาดไปทั่วดวงหน้าผุดผ่อง
ตาเรียวงามตื่นตระหนก มองสบอย่างไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจ เขาไล้นิ้วกับนวลแก้มขาวช้าๆ
“เราแต่งงานกันมากี่ปีแล้วนะมน”
เขาจะถามเรื่องนี้ทำไมตอนนี้นะ
มนสิชาหน้าร้อน ผู้ชายที่กำลังชะโงกเงื้อมเหนือตัวเธอได้ชื่อว่าเป็นสามีก็จริง แต่การสนิทชิดเชื้อแบบนี้เธอไม่คุ้นชินกับมันเลย
“สะ...สามปีแล้ว พี่ธันย์ลุกค่ะ มนจะไปปิดคอมฯ”
มือเล็กๆ ดันแผงอกกระด้างเป็นสัญญาณให้เขาถอยออกห่างเสียที การใกล้ชิดแบบนี้ ทำให้เธอเหม็นกลิ่นเหล้ากับกลิ่นน้ำหอมจนมึนหัวแล้ว
ใช่ว่าเธอไม่ดื่ม เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เคยดื่มมาหลายอย่างหลายยี่ห้อ แต่ไม่ได้กินเป็นเทน้ำทิ้งเทอาบเหมือนที่ธันย์ภพทำ...
“สามเหรอ หึหึ... นานเหมือนกันนะ นานเกินจนเกือบลืมไป...”
“เกือบเหรอคะ พี่ธันย์ลืมไปแล้ว ถึงมาถามมนว่าเราแต่งงานกันมากี่ปี แต่ช่างมันเถอะค่ะ ตอนนี้พี่ลุกขึ้นสิ มนหนัก มนจะไปปิดคอมข้างล่าง น้ำก็ยังไม่ได้อาบเลย”
“อืม... หอมแบบนี้ ไม่อาบก็ได้ พี่อยากกอดมนนอน”
ว่าแล้ว ใบหน้าคมเข้มกดลงมาคล้ายจะหอมแก้ม เขาสูดความหอมข้างแก้มเนียนใสเข้าปอดแรงๆ
มนสิชาผวา ใจเต้นระรัว รีบยกมือมาดันหน้าคมออกห่าง
“ไม่ค่ะ พี่ธันย์เหม็นเหล้าไปทั้งตัว มนมึนหัวไปหมดแล้ว”
ร่างอวบอิ่มเต็มมือของภรรยาดิ้นขลุกขลัก ขณะที่ธันย์ภพกระชับอ้อมแขนกอดร่างนุ่มแน่นขึ้น คลุกเคล้าใบหน้าคมลงดอมดมความหอมอ่อนๆ ของพวงแก้มสาว
“ไม่ พี่ธันย์ หยุดนะ อย่าทำแบบนี้”
“ทำไมล่ะมน เราเป็นผัวเมียกันนะ ทำไมพี่จะทำไม่ได้”