เมื่อภาคินเดินทางมาถึงที่อำเภอดอนไม้หวานเขาก็โทรศัพท์ติดต่อไปหาผู้กำกับของพื้นที่เพื่อนัดเจอคุยเรื่องภารกิจที่จะทำร่วมกัน เขาพักอยู่ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอและเลือกที่จะอยู่ในหมู่บ้านดอนผักหวานเพราะมันใกล้กับอุทยานที่ชอบมีการตัดไม้เถื่อนบ่อยๆ
“สวัสดีครับผู้กำกับ”
“สวัสดีครับสารวัตรภาคิน ยินดีที่ได้เจอกันตอนนี้มีแค่ผมที่รู้ว่าคุณเป็นใคร อ่อ แล้วมีอีกคนที่จะคอยช่วยคุณเรื่องนี้ด้วย ผู้หมวดดนัยมานี่สิ”
ผู้กำกับกวักมือเรียกผู้หมวดดนัยให้เข้ามาข้างใน เขาเดินเข้ามายืนตรงหน้าชายหนุ่มก่อนจะทำความเคารพผู้ที่ตำแหน่งใหญ่กว่า
“สวัสดีครับสารวัตร ผมผู้หมวดดนัยเป็นคนที่ทำคดีเรื่องค้าไม่เถื่อนอยู่”
“สวัสดีครับผู้หมวด ผมสารวัตรภาคินยินดีที่ได้เจอกัน แต่หลังจากนี้ไปคุณต้องเรียกผมว่าภาคินเฉยๆเพราะผมจะไปทำงานที่อุทยานในตำแหน่งพนักงานทั่วไปหรืออัตราจ้างนั่นแหละครับ”
เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับยื่นมือไปจับมือผู้หมวดอย่างเป็นมิตร ทั้งสองคนทำความรู้จักกันสักพักก่อนจะแลกเบอร์ติดต่อแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ผมจะเอาของไปเก็บที่บ้านเช่าก่อน ช่วงดึกคุณออกตรวจรึเปล่า”
“ออกทุกคืนครับแต่ถ้าไม่อะไรก็จะเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานที่ออกตรวจเอง ถ้ามีอะไรผมจะติดต่อหาก่อนนะครับสายรายงานมาว่าพวกมันจะขนไม้กันอีก”
“โอเคผมจะสแตนบายรอ งั้นไว้เจอกันนะผู้หมวด”
ผู้หมวดดนัยทำความเคารพชายหนุ่มก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที ส่วนเขาก็ถือกระเป๋าเดินออกไปด้วยท่าทีปกตินั่งรถสองแถวมาลงที่บ้านเช่าก่อนจะมองอย่างสำรวจ
“ทำไมบ้านติดกันขนาดนี้เนี่ย”
ตอนแรกเขาคิดว่ามันส่วนตัวกว่านี้ซะอีกแต่ไหงเป็นบ้านเช่าติดกันขนาดนี้ แล้วดูดิพวกผู้ชายตั้งวงกินเหล้ากันอย่างสนุกแล้วเขาจะได้พักผ่อนมั้ยเนี่ย
“เฮ้ย… ไอ้น้องมาอยู่ใหม่เหรอ”
ภาคินหยุดชะงักไปก่อนจะหันไปมองพวกเขาก่อนจะยิ้มแห้งออกมา เขาควรจะเป็นมิตรกับทุกคนไว้จะได้หลอกถามความเป็นมาเป็นไปของอำเภอนี้ เขาเดินเข้ามาไปก่อนจะยกมือไหว้
“สวัสดีจ้ะพี่ๆ ฉันเพิ่งมาอยู่ใหม่ยังไงฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ”
“ไอ้นี่มันอยู่เป็นวะ ฮ่าๆ มาๆมาดื่มกับพวกข้านี่ คิดจะอยู่ที่นี่ก็ต้องมาเจอเพื่อนร่วมบ้านกันหน่อยดิวะ เอ้าพวกเอ็งรับน้องกันหน่อย”
ผู้ชายร่างสูงโปร่งรู้สึกว่าจะชื่อดำเดินเข้ามาเขาก่อนจะกอดคอพาไปร่วมวงเหล้าด้วย ภาคินนั่งลงก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะไม่อยากมีปัญหา
“ดีมากไอ้น้องว่าแต่มาทำงานที่นี่เหรอ”
“ใช่จ้ะ ฉันมาสมัครงานที่อุทยานเนี่ยแหละเริ่มงานวันมะรืน”
“งั้นเหรอ… พวกฉันก็ทำงานที่อุทยานนี่แหละเป็นพนักงานรับจ้างยังไงได้เจอกันแน่นอน เมื่อคืนไฟไหม้ป่ากว่าพวกฉันจะได้นอนก็ปาไปตีสามแล้ว เงินก็น้อยแต่ก็ต้องทนเพราะความจนมันหน้ากลัว เอ็งก็อดทนไว้นะประหยัดหน่อย”
“ครับพี่”
เขายกเหล้าขึ้นดื่มอีกแก้วก่อนจะมองพวกเขาอย่างสำรวจ ท่าทางก็ดูไม่มีพิษภัยอะไรคบไว้ก็คงไม่เสียหาย เขานั่งฟังพวกพี่ดำคุยกันเกือบชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนเพราะทุกคนเริ่มเมากันแล้ว
“เอ่อพี่ดำผมขอถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่ามาดิวะถามอะไร… ถ้าเกี่ยวกับอำเภอดอนไม้หวานไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้โว้ย”
เขาเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ ถ้าเป็นที่นี่ไม่มีใครเกินเขาแน่นอนรู้ทุกซอกทุกมุมของอำเภอ
“เมื่อเช้าฉันเจอคุณหมอคนสวยๆกำลังช่วยคนถูกรถชนนะจ้ะ พี่ดำรู้จักมั้ย”
“รู้จักสิวะใครบ้างไม่รู้จักคุณหมอแสนดีลูกสาวคนเดียวของกำนันคงแห่งดอนผักหวาน แต่ว่าเอ็งห้ามไปยุ่งนะโว้ยรายนั้นอ่ะพ่อหวงมากแอบดูอยู่ห่างๆก็พอ อีกอย่างเธอเป็นดอกฟ้าหมาวัดอย่างเราๆไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะหวังหรอก”
เขาได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาทันที ลูกสาวกำนันคงแห่งดอนผักหวานแถมพ่อยังหวงมากด้วย แต่ก็ไม่แปลกหรอกมีลูกสาวสวยขนาดนั้นแถมยังเป็นหมอด้วยไม่หวงสิแปลก
“อย่างนี้นี่เอง ท่าทางจะเป็นขวัญใจของชาวอำเภอดอนไม้หวานสินะ”
“ก็ใช่นะสิเรียกว่านางฟ้าเลยแหละ เคยไปรักษาด้วยครั้งหนึ่งบอกเลยว่าใจดีมาก พูดเพราะอ่อนโยนไม่เคยด่าคนไข้เลยสักนิดเดียว ใครไม่รักไม่ชอบก็บ้าแล้ว แต่ว่าลูกชายของนายกอบต.ดอนผักหวานเค้าเล็งไว้แล้วนะสิ ไอ้คนเนี่ยเอ็งอย่าไปยุ่งเชียวนะบ้าอำนาจเป็นที่สุด เห็นว่าตามจีบคุณหมอแต่เธอไม่เล่นด้วย”
พี่ดำแอบนินทาไปถึงลูกชายคนโตของนายกอบต.บ้านดอนผักหวาน รายนั้นหวงคุณหมออย่างกับอะไรดีทั้งที่เธอไม่เล่นด้วยแท้ๆ แต่ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วยหรอกเพราะมีอิทธิพลมากอยู่
“งั้นเหรอจ้ะ ขอบใจมากนะพี่ที่เล่าให้ฟัง”
“อืม เอ็งไปนอนเถอะดูไอ้พวกนี้สิหลับกันหมดละคออ่อนจริงๆ ข้าไปนอนก่อนนะเจอกันที่ทำงาน”
“ครับพี่”
เขาลุกขึ้นเดินกลับไปที่บ้านเช่าของตัวเองพลางนึกไปถึงคุณหมอแสนดีคนสวย คนอะไรสวยขนาดนี้แถมยังมีแต่คนพูดถึงในทางที่ดีอีก สวย ใจดี แถมยังไม่เคยด่าใครด้วย นางฟ้ามาเกิดรึเปล่าเนี่ย
“คุณหมอแสนดี….”
เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปอาบน้ำพร้อมนอน พรุ่งนี้ว่างยังไม่ได้เริ่มงานไปสำรวจโรงพยาบาลสักหน่อยจะดีมั้ยนะ.. แล้วจะได้เจอคุณหมอเธอรึเปล่าเนี่ยสิ เฮ้อ! เป็นไอ้ภาคินคนธรรมดาจะไปเด็ดดอกฟ้าอย่างคุณหมอแสนดีได้ยังไงกัน
“เอาไงดีวะ…”
วันต่อมา…
คุณหมอแสนดีตื่นนอนแต่เช้าลุกขึ้นไปทำบุญตักบาตรที่วัด เธอถือตะกร้าพร้อมกับดอกไม้ขึ้นไปบนกุฏิพนมมือรับพรจากหลวงพ่อก่อนจะเดินออกมากรวดน้ำใต้ต้นไม้
“โอ๊ยๆเจ็บ”
หญิงสาวได้ยินเสียงเหมือนใครร้องอะไรก็รีบหันไปมองก่อนจะเดินเข้าไปหา เธอจำได้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เจอกันเมื่อวานว่าแต่เขามาทำอะไรที่นี่
“คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ”
หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ภาคินแกล้งร้องเหมือนเจ็บข้อมือก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงน้าสงสาร
“เหมือนจะเจ็บข้อมือครับคุณหมอ มันเจ็บมากเลยครับ”
“งั้นไปนั่งก่อนนะคะเดี๋ยวหมอดูให้”
หญิงสาวประคองชายหนุ่มพาไปนั่งลงที่ม้านั่งก่อนจะดูข้อมือให้เขา ท่าทางก็ดูไม่มีอะไรนะไม่น่าจะเป็นอะไรมากหรอก ชายหนุ่มมองหญิงสาวด้วยสายตาหวานฉ่ำ เธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนมากน่าทะนุถนอมสุดๆบอกตามตรงเขาไม่กล้าทำเธอแรงเลยอ่ะกลัวช้ำ พออยู่ใกล้แบบนี้แล้วสวยมากสวยแบบไม่มีที่ติเลยให้ตายสิ
“ยังเจ็บอยู่มั้ยคะ”
“ดีขึ้นแล้วครับแต่ยังเจ็บอยู่นะ”
“งั้นเหรอ.. ไปโรงพยาบาลมั้ยคะจะได้ยามากินด้วย”
เธอเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ถ้ายังเจ็บเยอะคงต้องใช้เครื่องมือแพทย์เข้าช่วยแล้วล่ะมองด้วยตาเปล่าแบบนี้ไม่รู้เรื่องหรอก
“ไปแล้วจะเจอคุณหมอมั้ย”
“เจอคุณหมอคนอื่นค่ะเพราะวันนี้หมอหยุด”
“ถ้างั้นไม่ไป ไปก็ไม่มีเจอคุณหมอจะไปทำไมจริงมั้ยครับ”
เขาเอ่ยออกมาเสียงหวานมองสบตากับหญิงสาวตรงหน้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มเขินเพราะโดยปกติไม่ค่อยมีใครมาหยอดใกล้ขนาดนี้ นี่ถ้าพ่อกำนันรู้มีหวังเขาเจอลูกปืนไล่ยิงแน่นอนเลย
“พูดแบบนี้แสดงว่าหายแล้ว”
“คุณหมออ่ะนวดให้อีกนิดก็ไม่ได้ ใจร้ายจัง”