3
คนที่มองก็มีทีท่าขวยเขินอย่างเห็นได้ชัด หทัยมองทุกคนที่นั่งล้อมวง แต่พยายามไม่มองหน้าของชายที่นั่งจ้องหน้าเธอตลอดเวลา และเป็นหนึ่งเดียวที่เธอไม่รู้จัก รูปหน้าของชายตรงหน้าคมเข้ม เป็นผิวสีแทน คิ้วดกดำ ดวงตาสีดำดูมีเสน่ห์ หัวใจของสาวน้อยที่ไม่เคยทักทายกับความรักเต้นระส่ำยามที่ได้สบตาเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือทั้งสองข้างประสานกันแน่นแล้วบีบเบาเพื่อบรรเทาอาการเขินอายของตนเอง
“ลืมแนะนำไปเลย รุ้งนี่ตะวัน ตะวันนี่รุ้งเพื่อนฉันเอง”
สาวอ้วนแนะนำตัวให้ตะวันเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งของเธอได้รู้จักกับสาวหน้าตาน่ารักอย่างหทัยชนก หลังจากที่เห็นตะวันจ้องมองเพื่อนสาวคนสนิทของเธออยู่นาน
“สวัสดีครับ” ตะวันกล่าวทักทายอย่างเป็นทางการ
“สวัสดีค่ะ” น้ำเสียงหวานทักทายกลับพร้อมกับรอยยิ้มละไม นั่นคือจุดเริ่มต้นของการรู้จักของเขาและเธอ งานเลี้ยงฉลองคล้ายวันเกิดของอัญญาณีเป็นอย่างมีความสุข เสียงพูดคุย เสียงเอ่ยแซวตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังออกมาจากปากของทุกคน เช่นเดียวกับที่สายตาของตะวันไม่ละห่างจากดวงหน้าชวนมองของหทัยชนกเลย และการกระทำของตะวันก็อยู่ในสายตาของอัญญาณีเช่นกัน
“เดี๋ยวออกไปซื้อเบียร์ก่อนนะ หมดแล้ว”
เจ้าของวันเกิดพูดขึ้น เมื่อเห็นปริมาณของขวดเบียร์ที่ลดน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่ขวด เธอกลัวว่าอรรถรสในการดื่มกินของเพื่อนจะขาดตอนจึงต้องออกไปซื้อมาเพิ่ม
“ตะวันไปด้วย” ตะวันพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“เออดี จะได้เป็นคนจ่ายเงิน” สาวอ้วนพูดจบก็เดินออกไปจากตัวบ้าน โดยมีร่างสูงของตะวันเดินตามไป
“เกตุ รุ้งมีแฟนหรือยัง?” ตะวันถามอัญญาณีหลังจากที่เดินผ่านประตูรั้วบ้าน
“ถามทำไม แกจะจีบหรือไง?” อัญญาณีไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“เออ…น่ารักดี” ตะวันตอบ
“ยังไม่มีหรอก” คำตอบที่เขาได้รับเรียกรอยยิ้มให้เกิดบนใบหน้าของคนที่ถามทันที งานนี้ก็มีลุ้น ตะวันคิดในใจ
“งั้นตะวันจีบ เกตุช่วยตะวันด้วยนะ” คนที่อยากมีแฟนรีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิท
“ไม่ช่วย อยากจีบก็จีบเองสิ” สาวอ้วนตัดความฝันของเพื่อนเอาดื้อๆ
“ทำไมล่ะ ช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ?” ตะวันถามถึงเหตุผล
“ช่วยได้แต่ไม่อยากช่วย ถ้าเผื่อแกจีบรุ้งติดจริงๆ แล้วทำให้เพื่อนของฉันเสียใจ ฉันจะเป็นคนที่เสียใจมากที่สุด แล้วพาลจะโกรธแกด้วย”
อัญญาณีพูดตามความจริง ตะวันกับหทัยชนกเป็นเพื่อนเธอทั้งสองคน หากรักกันหวานชื่นก็ดีไป เธอเองก็มีความสุขตามไปด้วย แต่ถ้าหากวันหนึ่งวันใดความรักเกิดขมขึ้นมา คนที่จะเสียใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นอัญญาณี เพราะเธอเป็นสื่อกลางให้ทั้งสองได้รักกัน
“ไม่หรอก คนนี้ตะวันชอบจริงๆ นะ รักจริงหวังแต่งด้วย”
คำพูดของตะวันทำให้อัญญาณีหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างพิจารณา ตั้งแต่คบกับตะวันเป็นเพื่อนมาสิบกว่าปี เธอไม่เคยได้ยินน้ำเสียงและท่าทางของตะวันจริงจังเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง จะมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
“จริงเหรอ แกแน่ใจเหรอตะวันว่ารักจริงหวังแต่ง?” สาวอ้วนถามกลับด้วยความสงสัย ยังไม่แน่ใจกับคำพูดของเพื่อนมากนัก
“จริงสิ เจอครั้งแรกก็มีความรู้สึกอย่างนั้นเลย”
ตะวันตอบตามความเป็นจริง ตอบตามความรู้สึกของตนเอง เขาก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าความรู้สึกอยากสร้างครอบครัวจะเกิดขึ้นในใจ เขามีแฟนมาแล้วหลายคนแต่ไม่มีใครทำให้เขาเกิดความรู้สึกอย่างแต่งงานเลยสักคน หทัยชนกเป็นผู้หญิงคนแรก
อัญญาณีไม่เคยรู้จักรักแรกพบ เธอจึงไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมีจริงหรือไม่ แต่เธอเชื่อในพรหมลิขิต เพราะการที่เธออยู่กินกับสามีมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรัก แต่เริ่มต้นมาจากพรหมลิขิตกำหนดไว้
เหมือนกับการพบเจอของตะวันกับหทัยชนกที่คลาดกันหลายครั้งในระยะเวลาหลายปี จะเจอก็ไม่เจอกันเสียที พอตะวันกลับ หทัยชนกจะมาสวนทางกันเสมอ แล้ววันนี้พรหมลิขิตก็ทำให้ทั้งสองเจอกัน อัญญาณีจึงคิดว่าการที่ทั้งสองพบเจอกันอาจจะเป็นคำสั่งของฟ้าเบื้องบน ซึ่งเธอเองก็ไม่อาจกางกั้นได้ เธอไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร อนาคตข้างหน้ามันจะสุขหรือเศร้า เหงาหรือทุกข์ รู้เพียงว่าตอนนี้เธอคงจะฝืนมนต์กามเทพไม่ได้
“ก็ได้ช่วยก็ได้ แต่แกต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่ทำให้รุ้งเสียใจ”
อัญญาณีต้องการความมั่นใจ หทัยชนกไม่มีภูมิคุ้มกันเรื่องความรักหนาแน่นเหมือนใคร ๆ ไม่เคยรักใครมากก่อน ไม่เคยมีแฟน เธอกลัวว่าหากตะวันคบหากับหทัยชนกจริง ๆ แล้ววันข้างหน้าตะวันทำให้เพื่อนสาวของเธอคนนี้เสียใจ จากคนที่สดใสอาจจะตรอมตรมและเจ็บเจียนตาย
“สัญญาลูกผู้ชายเลย” ตะวันกล่าวคำสัญญาเสียงหนัก
“ฉันเชื่อในคำสัญญาของแก แต่แกจำไว้อย่างนึงว่า หากวันหนึ่งวันใดแกผิดสัญญา คนที่จะเสียใจที่สุดก็คือฉัน เพราะแกกับรุ้งเป็นเพื่อนของฉัน ถ้าถึงเวลานั้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่เรามีมาตลอดสิบกว่าปี มันอาจจะสั่นคลอนโดยไม่รู้ตัว ฉันไม่อยากให้มีวันนั้นนะตะวัน ถ้าแกไม่มั่นใจว่ารุ้งคือคนที่ใช่ก็อย่าจีบ ฉันไม่อยากเสียเพื่อน แล้วไม่อยากให้รุ้งเจ็บ”
อัญญาณีในฐานะคนกลาง หันซ้ายก็คือเพื่อน หันขวาก็คือเพื่อน เธอยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนทั้งสองคน ความลำบากใจ ความเสียใจ ความผิดหวังอาจจะมีมากกว่าใครๆ เพราะอัญญาณีคือสื่อกลางที่ทำให้คนทั้งคู่มีความสัมพันธ์ทางใจที่ดีต่อกัน สาวอ้วนจึงอยากให้ตะวันถามหัวใจตัวเองก่อนว่าหทัยชนกคือคนที่ใช่หรือไม่
“รุ้งคือคนที่ใช่สำหรับตะวัน เพียงแค่มองครั้งแรกหัวใจของตะวันก็บอกอย่างนั้น” ตะวันพูดให้เพื่อนตัวอ้วนมั่นใจ
“กว่าจะถึงตอนนั้นจีบรุ้งให้ได้ก่อนดีกว่า รู้หรือเปล่าว่ามีผู้ชายหล่อๆ รวยๆ มาจีบรุ้งตั้งหลายคน แต่รุ้งไม่สนใจผู้ชายพวกนั้นเลย แกจะเข้าไปอยู่ในจำนวนผู้ชายเหล่านั้นหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ตัวแกเองนะ ฉันก็ช่วยได้เท่าที่ฉันจะทำได้”
อัญญาณีพูดตามความเป็นจริง ทุกสิ่งอย่างมันขึ้นอยู่ความพยายามของตะวัน รวมทั้งตัวของหทัยชนกเองด้วย เธอเป็นเพียงสื่อกลางเท่านั้น
“ตะวันจะพยายาม” ตะวันพูดอย่างตั้งมั่น อัญญาณีไม่พูดอะไรต่อ ก้าวเดินไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อหาซื้อของบริโภคตามที่ตนเองต้องการ จากนั้นก็เดินกลับมายังบ้านเช่าพร้อมกับอาหารการกินหลายอย่าง
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา หลังจากที่เครื่องดื่มและอาหารที่เจ้าของวันเกิดเดินออกไปซื้อเพิ่มเติม หมดลงในเวลาเกือบเที่ยงคืน และนั่นก็เป็นเวลาที่เพื่อนๆ ของอัญญาณีกลับบ้าน