แกล้งคนสนุกดี

1890 Words
ไนท์ | ไนท์ : พี่กำลังไป ที่ร้านไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ผมส่งแชตหาน้องเอิร์ธระหว่างเดินออกจากโรงแรมห้าดาวมาที่ลานจอดรถหลังจากเสร็จธุระอย่างว่า เอิร์ธ : ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับพี่ เอิร์ธตอบกลับมาแบบนั้นผมก็สบายใจ จะได้ขับรถกลับร้านอย่างไม่รีบ เอิร์ธ : ก่อนหน้านี้พี่เลี้ยงเหล้ารุ่นพี่ผมเหรอ เพื่อนผมมันเล่าให้ฟัง ไนท์ : อืม ใครบอก ตะวันเหรอ เอิร์ธ : เปล่า ไอ้แต้มบอก ไนท์ : อ่อ เอิร์ธ : พี่มีอะไรกับตะวันหรือเปล่า ไนท์ : หืม ข้อความล่าสุดทำผมชะงัก หยุดเดินกลางทาง พิมพ์กลับไปอย่างสงสัย อยากรู้ว่าทำไมเอิร์ธถึงถามแบบนั้น เอิร์ธ : ผมรู้สึกว่าตะวันมันไม่ชอบพี่ พี่ไปทำอะไรให้มันไม่พอใจเหรอ อ่านแล้วผมไม่รู้จะยิ้มขำหรือกังวลกับเซ้นส์ของน้องเอิร์ธดี แต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับตะวันแล้วก็กระชุ่มกระชวยขึ้นมาแปลกๆ ผมไม่ได้คิดคบมันจริงจังก็จริงแต่เห็นมันทีไรก็อดที่จะแหย่มันเล่นไม่ได้ อารมณ์เหมือนเห็นแมวหรือเด็กเล็กๆ แล้วอดใจไม่ไหวต้องลูบหัวดึงแก้มนั่นแหละ จนคืนนั้น… ตะวันมันสงสัยการกระทำของผม ผมมองตามันแล้วรู้สึกถึงอารมณ์ลึกซึ้งบางอย่างที่ยากจะอธิบายขึ้นมาทำให้ผมกลัว ผมไม่ได้อยากผูกมัดตัวเองกับใคร ไม่ได้อยากมีชีวิตรักหวานชื่นเหมือนคู่ไอ้กันต์กับน้องเอิร์ธ เพราะงั้นผมจึงปฏิเสธข้อสงสัยของตะวันไปตรงๆ เพื่อไม่ให้มันเข้าใจผิดแล้วเก็บสิ่งที่ผมทำกับมันไปคิดเป็นจริงเป็นจัง อีกอย่างมันไม่ใช่เกย์ การที่ผู้ชายอย่างมันจะมาคบกับผมแค่คิดก็มองเห็นปัญหามาแต่ไกลแล้ว ผมมองแชตที่น้องเอิร์ธส่งมา ครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ก่อนตอบ ไนท์ : บางที มันอาจจะแค่รู้สึกไม่ถูกชะตากับพี่ก็ได้ เอิร์ธ : ผมไม่เข้าใจ พี่ออกจะดี มันจะไม่ถูกชะตาได้ยังไง ไนท์ : ฮ่าๆ พูดแบบนี้ระวังไอ้กันต์หึงนะ เอิร์ธ : ไม่หรอก พี่กันต์ไม่รู้ ผมส่งสติ๊กเกอร์ที่แทนคำว่า ‘เยี่ยม’ กลับไปให้น้องเอิร์ธ เอิร์ธ : พูดถึงตะวัน ตะวันก็มา ไนท์ : หืม เอิร์ธ : ตะวันมา ไนท์ : ที่ร้านเหรอ เอิร์ธ : ใช่ ไม่รู้ทำไม พอเอิร์ธบอกว่าตะวันมาที่ร้านผมก็รู้สึกลิงโลดขึ้นมา ถึงปากบอกว่าจะไม่ยุ่งกับมันอีกแต่ถ้ามันมาหาถึงถิ่นเองแบบนี้ผมก็ไม่อยากพลาดโอกาสหาเศษหาเลยกับมัน ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมขับรถถึงหน้าร้านกำลังจะเลี้ยวเข้าไปจอดในที่จอดรถส่วนบุคคลก็เห็นร่างสูงคุ้นตาของตะวันเดินดุ่มๆ ออกจากร้านไปพอดี ไอ้เด็กนั่นจะกลับแล้วเหรอ เสียดายจังยังไม่ได้เจอเลย ผมมองด้วยสายตาผิดหวัง ชะลอรถอัตโนมัติเพราะนอกจากตะวันแล้วยังมีคนอื่นที่รอข้ามถนนอยู่ ระหว่างรอผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู น้องเอิร์ธส่งอะไรมาไม่รู้ เอิร์ธ : พี่ถึงไหนแล้วครับ ไนท์ : หน้าร้าน ไนท์ : เห็นตะวันกำลังข้ามถนนพอดี เอิร์ธ : ตะวันเหรอ เฮ้ยพี่เรียกมันให้หน่อย มันลืมกุญแจรถ ข้อความเอิร์ธเด้งขึ้นบนจออย่างรวดเร็ว หลังอ่านเสร็จผมเงยหน้าขึ้นรีบบีบแตรรถเรียกเจ้าตัวเอาไว้ แต่ตะวันแค่หันมามองแวบหนึ่งแล้วเดินออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้นผมจะลดกระจกแล้วตะโกนเรียก มันก็เดินออกไปไกลแล้ว หรือจะให้ทิ้งรถแล้ววิ่งตามไปหยุดมันเอาไว้ก็ออกจะเกินไปสักหน่อย ผมไม่มีความคิดที่จะไล่ตาม เมื่อเรียกแล้วไม่หยุดก็ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันรู้ว่าลืมของก็ย้อนกลับมาเองนั่นแหละ “มาแล้วเหรอ” ไอ้กันต์นั่งไขว่ห้างจิบเบียร์อยู่ในออฟฟิศเอ่ยทักทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามา “เออ ที่จริงมึงไม่ต้องมาเฝ้าร้านแทนกูก็ได้นะ เปลือง” ผมพูดทีเล่นทีจริง ต่อให้ผมไม่อยู่ร้านก็ยังมีผู้จัดการคอยดูแล ส่วนไอ้กันต์เพื่อนยากมีอิทธิพลต่อเด็กในร้านผมก็จริงแต่ถ้าเกิดปัญหาในร้านขึ้นมาจริงๆ ก็ใช่ว่ามันจะตัดสินใจแทนผมได้ทุกเรื่อง เพราะงั้นผมถึงไม่รู้สึกซึ้งอะไรที่มันมานั่งกระดิกตีนกินเบียร์ฟรีแล้วบอกว่าดูร้านให้ตอนผมไม่อยู่ “ฮ่าๆ ไม่เป็นไรไม่ต้องเกรงใจ” ไอ้กันต์หัวเราะกลบเกลื่อน พลางโบกไม้โบกมืออย่างไม่สะทกสะท้าน ไอ้หน้าด้านเอ๊ย! ผมส่ายหน้าขี้เกียจจิกกัดมันต่อ ทิ้งตัวลงนั่งข้างมัน แล้วบอกให้เด็กเอาเบียร์มาเพิ่ม ผมนั่งดื่มกับไอ้กันต์พลางคุยเรื่องสัพเพเหระสักพักน้องเอิร์ธก็โผล่มา ไอ้กันต์วางกระป๋องเบียร์ในมือแล้วมองเอิร์ธด้วยแววตากระตือรือร้น “มีอะไร หรืออยากกลับแล้ว?” “ครับแม่โทรตามแล้ว แต่ตะวันมันลืมกุญแจรถ ผมต้องรอคืนมันก่อน” “น้าแอร์โทรตาม มีอะไรหรือเปล่า” ไอ้กันต์มองน้องเอิร์ธด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย ตั้งแต่มันคบน้องเอิร์ธบรรยากาศรอบตัวมันก็อบอุ่นขึ้นมาก จนบางครั้งผมยังแปลกใจว่าคนใจร้อนเจ้าอารมณ์อย่างมันเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้ยังไง “เปล่า แม่แค่เป็นห่วงน่ะ ไม่มีอะไร แต่ผมอยากกลับแล้ว ง่วง” “ได้ งั้นเรากลับกันเถอะ” ตามใจเมียสุดๆ ผมมองสองคนตรงหน้าคุยกัน ถึงเป็นคำพูดธรรมดาๆ แต่กลับสัมผัสได้ถึงความออดอ้อนเอาใจในน้ำเสียงของทั้งคู่ เล่นเอาผมอยากเตะโด่งตัวเองออกจากตรงนี้ขึ้นมาทันที ทนกลิ่นความรักของพวกมันไม่ไหว “อืม...” เอิร์ธพยักหน้าให้ไอ้กันต์ก่อนหันมาทางผม “พี่ไนท์ผมฝากกุญแจรถตะวันไว้กับพี่ได้หรือเปล่า ผมขี้เกียจรอมันกลับมา ส่งไลน์ไปก็ไม่อ่าน ป่านนี้รู้ตัวหรือยังเหอะว่าลืมกุญแจรถ” “ได้ เดี๋ยวพี่เก็บไว้ให้” เอิร์ธส่งกุญแจรถตะวันให้ผม เราพูดคุยกันอีกไม่กี่คำไอ้กันต์ก็โอบเอวน้องเดินออกประตูไป คล้อยหลังเอิร์ธไม่นาน ตะวันก็โผล่มา ผมยังนั่งจิบเบียร์อยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับตัวไปไหน จะบอกว่าปักหลักรอมันก็ไม่เชิงเพราะว่าตั้งแต่มาที่ร้านก็ไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรให้ผมต้องลุกออกไปจัดการ ผมลอบยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของตะวัน มันทำหน้าอย่างที่ผมคิดเอาไว้จริงๆ ด้วย “กูมาเอากุญแจรถ” มันเอ่ยเสียงห้วนๆ วางท่าเหมือนไม่อยากเสวนากับผมให้มากความ ถึงผมจะรู้สึกตลกกับท่าทางของตะวันก็ต้องกลั้นขำแล้วเก๊กหน้านิ่งขรึม “เข้ามาเอาสิ” ตะวันเดินอาดๆ เข้ามาหยุดอยู่ข้างโซฟา มองลงมาที่โต๊ะด้วยสายตาขวางขุ่น “ไหนล่ะกุญแจ” บนโต๊ะไม่มีกุญแจวางไว้จริงๆ เพราะผมเก็บเอาไว้กับตัวเอง คึคึ นานๆ ทีจะมีโอกาสแกล้งคน เอาสักหน่อยน่า ผมกระตุกยิ้มมุมปากอย่างไม่ปิดบัง ตะวันหน้าตึงกว่าเดิมเมื่อเห็นผมยิ้ม “กุญแจรถกูอยู่ไหน” ตะวันเค้นเสียงแข็งถามเหมือนโกรธเคืองอะไรผม ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรมันเลย ชอบเป็นแบบนี้ไง เห็นผมเป็นต้องเกรี้ยวกราด ไม่รู้มันชังอะไรผมนักหนา ถ้าเป็นเรื่องที่ผมล้ำเส้นมันบนเตียงมันต่างหากที่เป็นฝ่ายได้กำไร ไม่เห็นต้องคิดอะไรมากเลย “อยากได้ก็เข้ามาเอาสิ” “หมายความว่ายังไง” ตะวันขมวดคิ้วหน้ามุ่ย สายตาคมกริบจนแทบจะบาดคอผมขาดอยู่แล้วมั้งน่ะ ผมเอามือเท้าคางอย่างใจเย็น มองช้อนดวงตาดุร้ายอย่างกับแมวพยศของตะวัน พูดโดยไม่หลบสายตา “ถ้าคิดว่ากูเอาไป ก็มาค้นตัวดูสิ” “ไอ้สัส! อย่ามากวนตีน เอิร์ธมันบอกว่าฝากกุญแจรถไว้กับมึง รีบๆ ส่งมากูไม่มีอารมณ์จะเล่นกับมึง” แต่ละคำที่โพล่งออกมาน่าฟังทั้งนั้น... ผมยังคงยิ้มมุมปากไม่หวั่นไหว มองตอบสายตาสั่นระริกด้วยความโกรธของตะวันแล้วก็ไม่รู้ว่าควรแกล้งมันต่อหรือพอแค่นี้... ระหว่างที่ผมยังคิดไม่ตก ก็มีเสียงดังผิดปกติที่หน้าออฟฟิศ ครู่ต่อมาเด็กเสิร์ฟก็วิ่งเข้ามารายงาน “เฮียครับ พอดีลูกค้าโต๊ะพิเศษอยากเจอเฮีย” ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจก่อนชำเลืองสายตากลับไปมองตะวัน ลูกค้าโต๊ะพิเศษที่เด็กเสิร์ฟเอ่ยถึงก็คือพวกรุ่นพี่ของตะวันนั่นเอง วันนั้นผมเลี้ยงเหล้าพวกมันในนามของตะวัน แต่วันนี้ผมเลี้ยงในนามของน้องเอิร์ธถือเป็นค่าตอบแทนที่น้องเอิร์ธมาช่วยดูแลร้านให้ ถึงจะแค่สั้นๆ แต่น้องเอิร์ธเคยทำงานที่ร้านผมจึงรู้ระบบงาน ไม่เหมือนไอ้กันต์ที่แค่มานั่งหัวโด่แดกเบียร์ฟรีไม่ทำเหี้ยอะไรเลย “มีอะไรหรือเปล่า” ผมหันกลับมาคุยกับเด็กเสิร์ฟ “เห็นบอกว่าอยากขอบคุณเฮียที่เลี้ยงน่ะ” “อ่อ ให้เข้ามาเลย” “ครับ” เด็กเสิร์ฟเดินออกไปไม่นานกลุ่มวัยรุ่นชายสี่ห้าคนที่เต็มไปด้วยฟีโรโมนและกลิ่นแอลกอฮอล์ก็กรูเข้ามาข้างใน ทำเอาออฟฟิศผมดูเล็กขึ้นมาทันที “อ้าวตะวันมึงก็อยู่นี่เหรอ” “อืม” พวกนั้นเอ่ยทักตะวันที่ยืนอยู่ก่อนแล้วด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย แต่เหมือนพวกมันจะรู้เรื่องกุญแจรถด้วย จึงไม่มีใครถามอะไรซอกแซก “กูนึกว่ามึงกลับไปแล้วซะอีก” เด็กแต้มเอ่ยพลางมองท่าทางกระอักกระอ่วนของตะวันอย่างฉงน “กูไม่มีกุญแจรถ จะกลับได้ยังไง” ตะวันตอบเสียงขุ่น “อ้าว?” แต้มเลิกคิ้วสงสัยทว่าตะวันก็ไม่ได้อยู่ในโหมดอยากอธิบายอะไรอีก ขณะที่แต้มกับตะวันคุยกันรุ่นพี่พวกมันก็พูดกับผมอย่างเคารพนับถือ “ขอบคุณมากนะครับเฮียที่เลี้ยงพวกเราอีกแล้ว” “เฮ้ยไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมาก” “ที่จริงวันนี้พวกผมตั้งใจจะจ่ายเองอยู่แล้ว แต่พนักงานดันบอกว่าเฮียไม่ให้คิดตังค์พวกผม” รุ่นพี่อีกคนพูดขึ้น ผมโบกมือในเชิงบอกพวกมันไม่ต้องเกรงใจ ก่อนเอ่ย “ไว้ครั้งหน้ากูจะคิดราคาพิเศษให้” “ลดใช่ไหมเฮีย” อีกคนเอ่ยถามติดตลกแต่แฝงความนัยมาด้วย “แน่นอน” ผมพยักหน้า ไม่มีความคิดจะล้อเล่นกับพวกมันต่อ รอยยิ้มพอใจผุดขึ้นบนใบหน้าทุกคนทันทีที่ได้ยินคำตอบของผมยกเว้นตะวัน รายนั้นบูดตลอดศกอยู่แล้วไม่ว่าผมจะพูดหรือทำอะไรก็ตาม ไม่เคยเห็นความดีผมเลย เหนื่อยใจฉิบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD