เรื่องไม่เป็นเรื่อง

1706 Words
ผมมาดูแลกิจการร้านอาหารตามปกติ แต่ถึงตัวจะอยู่นี่ใจกลับคิดถึงแต่สีหน้าชาด้านของไอ้ไนท์ตอนออกมา ตกลงแม่งเป็นอะไรกันแน่วะ ผมคิดยังไงก็คิดไม่ตก “วัน… ตะวัน” “หือ แพร มีอะไร” “วันนั่นแหละเป็นอะไรหรือเปล่า ดูหลุดๆ นะ หรือว่าเมื่อคืนนอนน้อยเหรอ” “อ้อ เปล่า… มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ” “เรื่องอะไร บอกแพรได้ไหม” ผมมองแววตาจริงใจของแพรอย่างลังเลก่อนส่ายหน้า “ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก” “อืม แต่ถ้าวันมีเรื่องไม่สบายใจปรึกษาแพรได้ตลอดนะ” ผมยิ้มตอบแพร เราสองคนพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยคก็แยกย้ายไปทำงาน ผมอยู่ร้านเป็นคนสุดท้ายเหมือนทุกวัน หลังจากเคลียร์บัญชีประจำวันเสร็จก็เดินออกมาทางหลังร้านก่อนจะเห็นร่างบางยืนหันหลังอยู่ “แพร?” เห็นแต่ข้างหลังเลยไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า ผมลองเรียกชื่อออกไป ทำให้เธอหันกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส “อ้าว วัน… เคลียร์บัญชีเสร็จแล้วเหรอ” “อืม ว่าแต่แพรมาทำอะไรตรงนี้ ทำไมยังไม่กลับ” “อ๋อ แพรรอเพื่อนมารับน่ะ แต่นี่ก็นานแล้วยังไม่โผล่มาเลย ไม่รู้เบี้ยวแพรหรือเปล่า” “โทรเช็กหรือยัง” “โทรแล้ว แต่ไม่รับ แพรกะว่าจะรอต่ออีกสักครึ่งชั่วโมง ถ้าเพื่อนยังไม่มาแพรก็ไม่รอแล้ว” ผมขำกับท่าทางกระเง้ากระงอดของแพร ที่ดูๆ ไปแล้วก็น่ารักดีเหมือนกัน “แล้วจะไปไหนกันเหรอ หรือมารับกลับหอเฉยๆ” “เอ่อ…” แพรกระอึกกระอักครู่หนึ่งก่อนโพล่งออกมา “…ดูหนังน่ะ ว่าจะไปดูหนังรอบดึกกัน” “อืม งั้นให้ไปส่งไหม เผื่อว่าเพื่อนแพรจะไปรอที่โรงหนังแล้ว” “เป็นไปไม่ได้ ถ้าอยู่โรงหนังต้องโทรมาบอกแพรแล้วสิ” “ก็จริงนะ งั้นแพรจะรออยู่นี่เหรอ ถ้าเพื่อนไม่มาแล้วยังจะไปดูหนังอยู่หรือเปล่า” “ไม่ดูแล้ว ดูคนเดียวจะไปสนุกอะไร” “สามสิบนาทีใช่ไหม เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน” “เอ๊ะ… ไม่เป็นไร ไม่รบกวน” แพรมองผมอย่างเกรงใจ “เป็นผู้หญิง อยู่คนเดียวมันอันตราย” ผมบอก “อะอือ ขอบใจนะ…” ระหว่างรอ… ผมกับแพรพูดคุยกันหลายเรื่อง แต่ส่วนมากก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป มีบ้างที่วกเข้ามาเรื่องส่วนตัว แพรถามผมเรื่องแฟนที่เลิกกันไป กำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นสาเหตุหรือเปล่าเพราะแพรเคยทำโทรศัพท์หล่นในรถผม ผมปฏิเสธพร้อมกับบอกความจริงว่าอีกฝ่ายมีคนอื่น แพรจะได้สบายใจ “แล้วตอนนี้วันโอเคยัง หรือว่าที่ดูลอยๆ เพราะยังคิดถึงแฟนเก่า” “ไม่… ไม่เกี่ยวกับคนเก่า” “งั้นก็คนใหม่?” ผมมองหน้าแพร ไม่รู้ผมดูออกง่ายหรือแพรแค่เดาไปเรื่อย แต่สถานะไอ้ไนท์เรียกว่าคนใหม่ได้เหรอ มันไม่ใช่คนที่ผมกำลังคบสักหน่อย “ไม่ใช่หรอก” ผมส่ายหน้าก่อนจะดูเวลา “น่าจะเลยครึ่งชั่วโมงมาแล้วมั้ง” “อ๊ะ… ใช่ ลืมไปเลย มัวแต่คุยจนไม่ได้ดูเวลา แพรโดนเพื่อนเทจริงๆ แล้วล่ะ เฮ้อ อุตส่าห์รอ หนังก็ไม่ได้ดู แถมยังต้องกลับห้องดึกอีก งั้นแพรไปก่อนนะ” “เดี๋ยวสิ” ผมเรียกแพรเอาไว้ “หือ” แพรหันกลับมามองใบหน้างุนงง “ถ้าจะกลับเดี๋ยวไปด้วยกันก็ได้” “ไม่เป็นไร แพรกลับเองได้ ไม่รบกวนวันหรอก แค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว” “มาเถอะ ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวส่งถึงที่เลย” แพรลังเล แต่พอผมคะยั้นคะยอหนักเข้าก็ยอมให้ผมไปส่ง เช้าวันต่อมา ผมส่งข้อความไปถามไอ้ไนท์ว่าอยากกินอะไรจะได้สั่งให้ไรเดอร์ไปส่ง พร้อมกับแคปภาพอาหารน่ากินหลายอย่างไปให้มันดู แต่รอแล้วรออีกมันก็ไม่อ่าน จนผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จมันก็ยังไม่อ่านแชตผม ลองโทรไปก็ไม่รับ ทำอะไรอยู่วะ หรือว่าหลับอยู่… ช่างเถอะ ผมสั่งอาหารสามสี่อย่างผ่านแอปฯ สั่งอาหาร ใส่ที่อยู่เป็นชื่อคอนโด เลขห้อง ชื่อเล่นกับเบอร์โทรศัพท์มัน คิดว่าข้อมูลแค่นี้น่าจะเพียงพอสำหรับนำส่งอาหาร ผมนั่งเรียนอยู่ก็คอยเช็กโทรศัพท์ไม่ต่างจากเมื่อวาน ตอนนี้ไอ้ไนท์อ่านแชตผมแล้วแต่มันไม่ตอบอะไรกลับมา ผมจะโทรหาก็ไม่ได้เพราะติดเรียน สุดท้ายก็ต้องรอตอนพักเที่ยง ผมปลีกตัวออกจากเพื่อนเพื่อที่จะหลบมาโทรหามันโดยเฉพาะ ทำตัวลับๆ ล่อๆ ไม่สมกับเป็นผมเลย ให้ตายสิ โทรศัพท์ดังไม่กี่ทีปลายทางก็กดรับ [ฮะโหล] “ทำไมไม่ตอบแชต” [ลืม] ผมหัวจะปวดเพราะคำตอบง่ายๆ สั้นๆ ของมัน ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว “อาหารไปส่งแล้วใช่ไหม” สถานะในแอปฯ ขึ้นว่าส่งเรียบร้อยแล้วแต่ผมก็ยังอยากยืนยันด้วยตัวเองอยู่ดี [อืม ได้แล้ว ขอบใจแต่ไม่ต้องก็ได้] “ได้รับแล้วก็น่าจะทักมาบอกกันหน่อย” [เช็กในแอปฯ ได้หนิ] “แล้วมึงไม่คิดจะตอบแชตกูเลยเหรอ” [แล้วจะมางอแงใส่กูทำไม บอกแล้วว่าไม่ต้องส่งอะไร มึงไม่ฟังเอง] “ตกลงว่ากูผิดใช่ไหมที่สั่งอาหารให้มึงน่ะ” [กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แค่ไม่อยากให้มึงทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง] “เรื่องไม่เป็นเรื่องยังไงวะ นี่มึงมองความหวังดีของกูเป็นเรื่องไร้สาระเหรอ” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาวใส่โทรศัพท์ [มึงหวังดีกับกูแบบนี้ ถ้าเกิดกูชอบมึงขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง] คราวนี้เป็นผมที่เงียบ ถึงไม่รู้ว่าไอ้ไนท์มันพูดจริงหรือพูดเล่นแต่ผมเหมือนโดนหมัดฮุคเข้าที่หน้าอย่างจัง มึนชาตั้งแต่หัวจรดเท้า …ยอมรับว่าผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน แค่อยากทำอะไรดีๆ ให้มันเท่านั้น [ตกใจจนพูดไม่ออกเลยเหรอ] น้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้นทำให้ผมได้สติ ลนลานตอบกลับไป “ไม่ได้ตกใจโว้ย” [แน่ใจ] “เออ! แค่นี้ก่อนกูต้องรีบไปเรียน” ผมรีบวางสายหนีทันที บีบโทรศัพท์ในมือแน่น หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ นี่กูเป็นอะไรไปแล้ววะ แค่ถูกไอ้ไนท์พูดล้อเล่นด้วยนิดเดียวถึงกับไปไม่ถูก แม่ง! แค่สั่งอาหารเช้าให้ไม่กี่วันมันจะมาชอบผมได้ยังไง ขนาดผ่านเรื่องบนเตียงด้วยกันมาแล้วมันยังไม่หวั่นไหวเลยสักนิด ผมส่ายหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านต่างๆ นานาในหัวทิ้งไป เดินกลับไปหาพวกไอ้เอิร์ธที่โรงอาหาร ถึงจะคิดว่าไอ้ไนท์มันพูดเล่น แต่นับจากวันนั้นผมก็ไม่สั่งอาหารเช้าให้มันอีก พอไม่สั่งอาหารก็ไม่มีเหตุผลให้ผมต้องข้องเกี่ยวกับมัน ผมใช้ชีวิตตามปกติ วนเวียนอยู่แค่มหาวิทยาลัยกับร้านอาหาร กระทั่งวันศุกร์ จู่ๆ แพรก็เข้ามาคุยกับผมด้วยท่าทางจริงจัง “พรุ่งนี้แพรหยุด” “อ้อ จำได้ มีอะไรหรือเปล่า” ผมจำตารางหยุดของพนักงานแทบทุกคนได้ จึงไม่แปลกใจอะไร “คือ… วันพอจะมีเวลาว่างไหม” “พรุ่งนี้เหรอ” “อื้ม” “ก็มาดูร้านตามปกติ แพรถามทำไม” “คือ… แพร… แพรอยากชวนไปดูหนังด้วยกันน่ะ จำได้ไหมวันนั้นที่เพื่อนแพรเท แล้วทีนี้เพื่อนแพรก็เลยซื้อตั๋วหนังให้สองใบเป็นการไถ่โทษ วันนั้นวันอยู่เป็นเพื่อนแพรใช่ไหม แพรก็เลยอยากตอบแทนน้ำใจน่ะ” แพรพูดอย่างตะกุกตะกัก ดูไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่รู้ตื่นเต้นอะไรแค่ชวนผมไปดูหนังเอง “รอบกี่โมง” “ชะ…เช้า สิบโมงครึ่ง” “ได้ ที่ไหนส่งโลเคชั่นมาแล้วกัน” “อื้ม ได้ เดี๋ยวแพรส่งให้นะ” พูดเสร็จแพรก็รีบร้อนวิ่งออกไป ผมมองตามอย่างเป็นห่วงกลัวจะไปชนกับอะไรเข้าให้ วันเสาร์ ผมพิมพ์บอกในกลุ่มร้านอาหารว่าจะเข้าร้านช่วงบ่าย แต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน ผมมาตามที่นัดแพรไว้ พอมาถึงก็เห็นแพรยืนชะเง้อชะแง้อยู่หน้าโรงหนังก่อนแล้ว เธอโบกมือให้ผมทันทีที่สังเกตเห็น วิ่งเข้ามาหาอย่างกระตือรือร้น “วันกินอะไรมายัง หาอะไรกินก่อนไหม หนังฉายสิบเอ็ดโมง” “อ้าว ไหนว่าสิบโมงครึ่ง” ผมท้วงเพราะเผื่อเวลามาแล้ว “ดูผิดน่ะ โทษที” แพรยิ้มเจื่อน ผมพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ “เหลืออีกตั้งชั่วโมงกว่าหนังฉาย ไปหาร้านนั่งก่อนก็ได้” “อื้ม” ผมกับแพรเลือกมานั่งฆ่าเวลาที่ร้านกาแฟใกล้ๆ หลังจากสั่งเครื่องดื่มเสร็จผมก็เดินเข้ามาหาที่นั่ง ดันเหลือบไปเห็นไอ้ไนท์ที่นั่งอยู่ในร้านก่อนแล้วตรงหน้ามันมีฝรั่งตาน้ำข้าวรูปร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ ไอ้ไนท์หันมาประสานสายตาเข้ากับผม แววตาคมฉายแววตกตะลึงชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนกลับเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “วัน?” เสียงแพรดังขึ้นทำให้ผมละสายตาจากไอ้ไนท์หันไปหาแพร “มีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่หาที่นั่ง” “อ่อ… เปล่า ไม่มีอะไร แพรอยากนั่งตรงไหนล่ะ เลือกเลย” “อืม ตรงนั้นละกัน ติดกระจกเห็นคนเดินเพลินตาดี” แพรเดินนำไปยังโต๊ะตัวที่ว่าอย่างร่าเริง ผมเดินตามแพรระหว่างนั้นก็ชำเลืองมองไปทางไอ้ไนท์ด้วย บังเอิญหรือตั้งใจไม่รู้ มันเองก็มองมาทางผมทำให้เราสบสายตากันอีกรอบ แต่เป็นมันที่ดึงสายตากลับไปก่อน พอเห็นแบบนั้นผมก็ตวัดสายตาไปทางอื่น เดินไปหาแพรที่โต๊ะสีหน้าเรียบนิ่ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD