หมดเวรหมดกรรม

1634 Words
ตะวัน | สถานีตำรวจ แม่งเอ๊ย... ผมสบถไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เป็นคืนที่แม่งปวดใจสัสๆ นอกจากจะถูกผู้หญิงหักอกดื้อๆ แล้วยังต้องมาถูกจับแบบงงๆ อีก นึกว่าไอ้ไนท์มันพูดเล่น แม่งเสือกเอาจริง โทรเรียกตำรวจมากระชากคอเสื้อผมขึ้นรถพร้อมกับไอ้ไลท์น้องชายมัน ส่วนบีบีไม่ได้มาด้วย มีแค่ผม ไอ้ไนท์ แล้วก็คู่กรณีไอ้เวรไลท์ เหมือนทีแรกไอ้ไนท์มันแค่อยากให้ผมกับไอ้เวรไลท์สงบสติอารมณ์ก็เลยโทรเรียกตำรวจ แต่พอมาถึงโรงพักไอ้ไลท์กลับแจ้งความจับผมจริงๆ มันบอกว่าถ้าไม่อยากให้มันเอาเรื่อง ผมต้องเอากระเช้ามาขอโทษมันอย่างเป็นทางการ พ่อมึงเหอะ! ใครมันจะไปทำลงวะ แค่คิดก็แหยงแล้ว อีกอย่างผมไม่มีทางขอโทษไลท์เด็ดขาดต่อให้ผมเป็นฝ่ายผิดก็ตาม “ไม่ต้องถึงกับกระเช้าหรอก แค่ขอโทษก็พอ” ไนท์ช่วยผมพูด มันพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้น้องชายมันเอาเรื่องผม สีหน้าที่เคยเยือกเย็นเปลี่ยนเป็นเหน็ดเหนื่อยใจแทน “กูไม่ขอโทษ” ผมยืนกรานเสียงแข็ง ไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด “หึ” ไลท์ยิ้มเยาะ มันรู้อยู่แล้วว่าผมไม่มีทางขอโทษ เรื่องกระเช้าก็แค่พูดส่งๆ ไปงั้นเอง แต่ถึงผมจะยอมเสียหน้าขอโทษมันจริง มันก็ยังเป็นฝ่ายยิ้มเยาะอยู่ดี ไม่ว่าจะทางไหนผมก็ถูกมันข่มเอาไว้หมด แล้วจะขอโทษมันให้เปลืองน้ำลายทำไม “ตกลงว่าจะให้ดำเนินคดีใช่ไหม” พนักงานสอบสวนเอ่ยถามหลังจากที่ยื้อกันไปมา “ไม่ต้อง” “ดำเนินคดีเลยครับคุณตำรวจ” ไนท์กับไลท์พูดคนละอย่าง “ตกลงจะเอายังไง คุยกันให้เสร็จก่อนไหม” ตำรวจมองสองพี่น้องด้วยสายตาเอือมระอา ใกล้จะหมดความอดทน “ผมถูกทำร้ายร่างกาย แล้วร้านพี่ก็โดนมันยำเละ พี่ยังจะปล่อยมันไปโดยไม่ทำอะไรเลยเหรอ โอเค พี่ไม่เอาเรื่องมันก็ช่าง แต่ผมจะแจ้งความ คุณตำรวจช่วยจัดการให้ที ผมเป็นเจ้าทุกข์ผมมีสิทธิ์ถูกไหม” “ตกลงจะแจ้งจับเขาใช่ไหม” ตำรวจถามย้ำ “ครับ” ผมถูกแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ไอ้ไลท์มันยังยุให้ตำรวจจับผมเข้าคุกด้วย แม่งไม่รู้จะจงเกลียดจงชังอะไรผมนักหนา แต่ก็เข้าใจได้ มันคงเจ็บใจที่ถูกผมต่อยอยู่ฝ่ายเดียวก็เลยจะเอาคืนให้ได้มากที่สุด แต่ก็เป็นไอ้ไนท์อีกนั่นแหละที่พยายามรอมชอมไม่ให้ผมเข้าคุก แค่คล้องกุญแจมือก็พอ แต่จริงๆ ผมไม่มีพฤติกรรมหลบหนีอยู่แล้ว กุญแจมือนี่ไม่จำเป็นต้องใส่เลยสักนิด ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่สายตาไอ้ไนท์ลุกวาวแปลกๆ ตอนมองผมถูกใส่กุญแจมือ เหมือนมันไม่อยากให้ผมเข้าคุก แต่อยากเห็นผมสวมกุญแจมือยังไงก็ไม่รู้ว่ะ “ผมจะประกันตัวเด็กนี่” ตำรวจเพิ่งจะจับผมใส่กุญแจมือหยกๆ ไอ้ไนท์ก็พูดขึ้น ทำเอาทั้งตำรวจและไอ้ไลท์ต่างทำหน้าอยากอัดคนขึ้นมาพร้อมกัน “พี่จะบ้าเหรอ ผมเพิ่งแจ้งความจับมันเองนะ” ไลท์โวยวาย ส่วนตำรวจนั่งหน้านิ่ง ขี้คร้านจะสอดคำ “มึงแจ้งความจับมันได้ แล้วทำไมกูจะประกันตัวมันไม่ได้” “แล้วพี่จะไปประกันตัวมันทำไม แค่พี่ไม่เอาเรื่องมันผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนี่ยังจะไปประกันตัวมันอีก มันเป็นอะไรกับพี่ ห๊ะ!? ทำไมต้องห่วงมันขนาดนี้” ไลท์สะดุดคำพูดตัวเองกลางคัน “….” ไอ้ไนท์แววตากระตุกไหวเหมือนคำพูดไอ้ไลท์ไปสะกิดอะไรในใจมันเข้าพอดี “….” หน้าผมร้อนวาบอย่างไม่มีสาเหตุ ราวกับได้รับผลกระทบไปด้วย จู่ๆ บรรยากาศก็อึดอัดขึ้นมา สถานการณ์ตึงเครียดแปลกๆ “เป็นลูกค้า แล้วก็ลูกหนี้ด้วย” ไนท์พูดขึ้นหลังจากมันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผมหัวตากระตุกตรงคำว่าลูกหนี้ หรือมันจะหมายถึงค่าเหล้าที่ผมค้างมันอยู่ แต่ผมเป็นอะไร ทำไมต้องให้มันมาคอยช่วยอยู่เรื่อย “ไม่ต้อง เรื่องของกูกูจัดการเอง” ผมปฏิเสธ ยิ่งมันยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดและด้อยค่าตัวเองมากขึ้น “ไม่ต้องห่วง กูไม่ช่วยมึงฟรีๆ อยู่แล้ว” ไอ้ไนท์มันพูดกับผมด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังต่อรองอะไรสักอย่าง ยิ่งมันบอกมาแบบนั้นผมยิ่งต้องระวัง เพราะไม่รู้ในใจแม่งคิดอะไรอยู่ “กูไม่ต้องการให้มึงช่วย ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลัง” “มึงคิดงั้นจริงเหรอ” “มึงเสร็จธุระแล้วก็กลับไปเลย ไม่ต้องมายุ่งกับกู” ผมไล่ “แล้วใครจะมาประกันตัวมึง” “มีแล้วกันน่า มึงจะไปไหนก็ไป น่ารำคาญ” “ไปเถอะพี่ จริงๆ น่าจะจับมันเข้าคุกไปเลยนะจะได้เลิกปากดี” ไอ้ไลท์สอดปากเข้ามายุ่งก่อนจะดึงแขนไอ้ไนท์ที่ยังพะวักพะวนเรื่องประกันตัวผมอยู่ออกไป “เอาไงเรา สรุปจะมีใครมาประกันตัวไหม” พนักงานสอบสวนเอ่ยถามหลังจากที่สองคนนั้นกลับไปแล้ว ผมถอนหายใจเฮือก มองหน้าตำรวจแล้วเอ่ยไปแบบหยอกๆ “พี่ประกันตัวผมได้ไหม” “พูดบ้าๆ เดี๋ยวจับเข้าคุกเลยไอ้นี่” “ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า เดี๋ยวผมโทรหาคนที่บ้านก่อน” “เออ รีบๆ เลย จะได้จบเรื่องสักที” พี่ตำรวจพูดไปหาวไป ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะโทรหาใครดี ที่บ้านผมตอนนี้คงหลับกันหมดแล้วยกเว้นเดือนที่น่าจะโทรหาเวลานี้ได้แล้วไม่โดนสวด แต่ถ้าเดือนรู้ แม่ผมก็ต้องรู้ไม่ช้าก็เร็ว ยังไงก็คงโดนสวดอยู่ดี เอาไงวะ ไม่อยากให้ที่บ้านมารับรู้เรื่องเหี้ยๆ ที่ตัวเองก่อขึ้นเท่าไหร่เลยว่ะ ผมจดๆ จ้องๆ ที่ชื่อของเดือนบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างลังเลก่อนตัดสินใจเลื่อนผ่าน ไล่ดูชื่อในโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ โดยมีสายตากดดันของพี่ตำรวจคอยมองสังเกตการณ์เป็นระยะ จนถึงชื่อไอ้เอิร์ธ ผมชะงักอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากใคร่ครวญดีแล้วก็กลั้นใจกดโทรหามัน ลองดูเผื่อเอิร์ธจะช่วยผมได้ ผมคิดไม่ผิดจริงๆ ที่โทรหาเอิร์ธ หลังจากรู้ว่าผมถูกจับอยู่โรงพักมันก็พาพี่กันต์มาประกันตัวผมทันที ส่วนค่าประกันตัวผมจ่ายคืนให้ทีหลังพร้อมค่าเสียเวลานิดๆ หน่อยๆ หลังประกันตัวเสร็จ ผมกับเอิร์ธก็มานั่งปรับทุกข์กันที่ปั๊มน้ำมัน ผมเล่าเรื่องบีบีให้มันฟังด้วยความช้ำใจที่โดนหักอก แต่เอิร์ธมันกลับถอนหายใจเฮือกแล้วบอกผมว่ามันรู้อยู่ก่อนแล้วว่าบีบีคบซ้อน แต่แค่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวผมไม่เชื่อ ได้ยินแบบนั้นผมก็แทบของขึ้นอีกรอบ โวยวายใส่ไอ้เอิร์ธไปชุดใหญ่ โทษฐานที่มันไม่บอกผม ไม่เตือนผม ผมจะได้ตาสว่างเร็วๆ ไม่ต้องโง่โดนหลอกอยู่แบบนี้ แต่ก็พอเข้าใจได้ ต่อให้มันบอกผมว่าบีบีมีชู้ผมก็อาจจะไม่เชื่อมันอยู่ดี อีกอย่างไอ้เอิร์ธมันก็มีปัญหาของมันคงไม่ว่างพอมายุ่งเรื่องผมหรอก ผมส่ายหน้า สุดท้ายเป็นผมที่โง่เอง ก่อนหน้านี้ก็มีคนท้วงมาบ้างเหมือนกันว่าเห็นบีบีอยู่ตรงนั้นตรงนี้กับคนอื่น แม้แต่ผมก็เห็นด้วยตาตัวเองแต่ก็ยังคิดในแง่ดี เพราะคำว่าเชื่อใจแท้ๆ พูดแล้วก็นึกได้ ที่รุ่นพี่ไลน์มาชวนผมออกไปดื่มหรือว่าจริงๆ แล้วจงใจให้ผมไปเปิดหูเปิดตาก็ไม่รู้ ช่างเถอะ ไว้ค่อยคุยกับพวกรุ่นพี่ทีหลัง ผมระบายกับเอิร์ธจนรู้สึกดีขึ้น มันกับพี่กันต์ก็มาส่งผมที่ร้านไอ้ไนท์เพราะรถผมจอดทิ้งเอาไว้ที่นี่ ผมไม่ลืมขอบคุณพี่กันต์อย่างสุดซึ้งที่มาเป็นธุระประกันตัวผม ทั้งที่ผมกับเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย “กูไปก่อนนะเอิร์ธ” ผมหันมาพูดกับเอิร์ธก่อนเปิดประตูลงจากรถ “อืม ขับรถดีๆ ล่ะ ดูแลตัวเองด้วย อย่าเศร้ามาก” “อืม” เอาตรงๆ ผมกลับไม่ได้รู้สึกเศร้าตรมอะไรมากมาย แค่เสียใจและโกรธที่โดนบีบีหักหลังทั้งที่ผมเต็มที่ทุกอย่างถึงแม้หลังๆ ผมจะไม่ค่อยได้เอาอกเอาใจบีบีเท่าตอนแรกแต่นั่นก็เป็นเพราะบีบีตีตัวออกห่างผมด้วย ทำให้ผมไม่ได้เทคแคร์มากเท่าไหร่ ช่างแม่งเถอะ มาคร่ำครวญถึงคนที่ทิ้งเราไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ผมส่ายหน้าไล่อารมณ์ด้านแย่ๆ ออกจากใจ เดินมาที่รถสีหน้าราบเรียบ “หือ...” ผมชะงัก เมื่อเห็นคนยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถ แสงไฟสลัวจากถนนอาบไร้ใบหน้านั้นครึ่งหนึ่ง หัวใจผมกระตุกวูบ “มาแล้วเหรอ” ไอ้ไนท์หันมามอง ควันบุหรี่กรุ่นออกจากปาก ผมเพิ่งเคยเห็นมันสูบบุหรี่ครั้งแรกเลยไม่ชิน ลุคมันตอนนี้เหมือนกับพวกหัวหน้าแก๊งที่มายืนดักคู่อริยังไงยังงั้น “มึงมาทำอะไรเนี่ย” “รอมึง” “....” ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD